Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: SSP เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษ ขายโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 718 ลบ.

3,070

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9 มิถุนายน 2565)------- บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ประกาศปิดดีลขายโรงไฟฟ้าฮิดากะในประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 718 ล้านบาท บุ๊กกำไรเข้าไตรมาส 2/65 ทันที บิ๊กบอส "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์"ลั่นพร้อมขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ วางเป้าภายใน 3 ปี กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเท่าตัว

 

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำสัญญาขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 17 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 718 ล้านบาท ให้กับกลุ่มทุนญี่ปุ่น โดยบริษัทฯจะรับรู้กำไรเข้ามาในไตรมาส 2/65 ทันที และเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทุกรูปแบบ เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าแตะ 500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

 

"ดีลนี้ทำให้เราได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการนี้เพิ่มขึ้นมาก เพราะผู้ลงทุนใหม่ให้ความสำคัญกับธุรกิจพลังงานสะอาดที่มีส่วนช่วยลด Carbon Emission โดยเรามีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับบางส่วนย้อนกลับไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มปลายปีนี้ และเป็นทุนที่เตรียมไว้ลงทุนโครงการอื่นๆที่มีอยู่ในมืออีกมากในปัจจุบัน"

 

นายวรุตม์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา SSP ได้มีการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนที่หลากหลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะแค่โซลาร์ฟาร์มในประเทศ และต่างประเทศเพียงเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาบริษัทยังประสบความสำเร็จในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และวินด์ชัยฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 25%

 

"เห็นได้ชัดว่าพอร์ตโรงไฟฟ้าของ SSP ไม่ได้มีเฉพาะโซลาร์ฟาร์มเพียงเท่านั้น ตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนทำให้ SSP เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ เราใช้กลยุทธ์ทำ M&A strategy มากขึ้น รวมถึงการลงทุนใน brown field โดยการเข้าซื้อโครงการใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงอย่างโครงการพลังงานลมและชีวมวล และขายโครงการโซลาร์ฟาร์มโครงการนี้เพื่อหมุนเงินทุนมาต่อยอดโครงการใหม่ๆ ต่างจากในอดีตที่เราทำแต่ green field โดยเราเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจนของบริษัทฯ"

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และการขายโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นในครั้งนี้ ยิ่งเป็นแรงหนุนให้ฐานเงินทุนมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยวางเป้าปี 2568 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัว แตะที่ระดับ 500 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่นพลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่กระจุกตัวอยู่แต่พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

 

บล.เอเซีย พลัส แนะนำซื้อ
SSP มูลค่าพื้นฐาน 13.3 บาท



บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่าSSP ประกาศขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hidaka ในประเทศญี่ปุ่นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 86.9% ที่ 17.0 MWe ให้แก่ ZEC Godo Kaisha ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศญี่ปุ่น ด้วยมูลค่า 2.8 พันล้านเยน หรือราว 718.2 ล้านบาท โดยธุรกรรมดังกล่าวแล้วเสร็จใน 8 มิ.ย. 65

  การขายหุ้นในครั้งนี้ถือเป็นไปตามส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในระยะยาวของทางบริษัท ที่จะเน้นการกระจายสัดส่วน portfolio ออกจากพลังงานแสงอาทิตย์ไปสู่พลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่นๆมากยิ่งขึ้น อีกทั้งธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยให้ SSP มีเงินทุนหมุนเวียงเพียงพอที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดโครงการใหม่ และมีฐานะทางการเงินรวมถึงสภาพคล่องที่สูงขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างผลกำไรจากจากขายโครงการฯคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในระดับสูงที่ EIRR ราว 20%

  ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีเงินลงทุนเริ่มต้นที่ราว 1.3 พันล้านเยน โดยมีtransection cost ที่ราว 1.5% ของมูลค่าการขาย ซึ่งคาด SSP จะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนใน 2Q65 ที่ราว 230 ล้านบาท โดย SSP จะนำเงินที่ได้ส่วนใหญ่ไปใช้สำหรับก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า solar LEO2 (เริ่มก่อสร้างปี 2565 คาด COD ภายในปี 2566)

  สำหรับรายละเอียดในโครงการ Hidaka เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศญี่ปุ่นมีกำลังการผลิตติดตั้งที่ 21 เมกะวัตต์ อายุสัญญาขายไฟฟ้า 20 ปี COD เมื่อเดือนมีนาคม 2561 และจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนมีนาคม 2581 ซึ่งช่วยสร้างกำไรให้กับ SSP ได้ราว 25-50 ล้านบาท/ปี

  ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยได้มีการปรับปรุงประมาณการโดยถอดโครงการดังกล่าวออกไปตั้งแต่ช่วง 2Q65 เป็นต้นไป และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนเข้ามาแทน ส่งผลให้ทิศทางกำไรปกติในช่วง 2Q65 คาดเห็นการอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีกระแสลมอ่อนตัวตามฤดูกาล แม้คาดว่ายังมีแรงหนุนช่วยชดเชยได้บ้างจากการเข้าสู่ช่วง High season ของกลุ่มโรงไฟฟ้า solar อย่างไรก็ตามคาดกำไรสุทธิจะเติบโตมีนัยฯ QoQ จากการบันทึกกำไรในโครงการดังกล่าว โดยเบื้องต้นยังคงมูลค่าพื้นฐานของ SSP ไว้เช่นเดิมที่ 13.3 บาท/หุ้น คงคำแนะนำซื้อ โดยเน้นให้หาจังหวะทยอยสะสมลงทุน

RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 018350
ธัญญา อุดม
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์



---จบ---

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

"สโตนวัน (STX)" ลั่นระฆังเทรด หุ้นเหมืองหินรายแรกในตลท.

"สโตนวัน (STX)" ลั่นระฆังเทรด หุ้นเหมืองหินรายแรกในตลท.

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้