Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: SUPER ลั่นปีนี้แข็งแกร่ง ลุยขยาย New Model / KUN โชว์ฝีมือ Q1/65 กำไรพุ่ง 41.16%

6,715

 

“จอมทรัพย์ โลจายะ”
เชื่อมั่นปีนี้แข็งแกร่ง


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (13พฤษภาคม 2565)-------SUPER โชว์ผลงานไตรมาส 1/65 มีรายได้ 2,498.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.10 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวมกว่า 800 เมกะวัตต์ - โรงไฟฟ้าพลังงานลม 50 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนามหนุน ฟากซีอีโอ “จอมทรัพย์ โลจายะ” เผยเชื่อมั่นผลการดำเนินงานปีนี้แข็งแกร่ง ลุยขยาย New Model พลังงานหมุนเวียนรับทรัพย์เพิ่ม โครงการ Private PPA -SPP Hybrid - Solar Roof Top ตุนกำลังการผลิต รับทรัพย์ เกี่ยวก้อยพันธมิตร AC ENERGY VIETNAM INVESTS PTE เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ วางเป้าผลงานปีนี้ สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

 

 

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในไตรมาส 1/65 มีการเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 2,498.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.61 ล้านบาท หรือ 6.10 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,354.52 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 552.80 ล้านบาท

สาเหตุที่ทำให้รายได้และกำไรในไตรมาส 1/65 เติบโต ได้รับปัจจัยหนุน บริษัทฯมีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้าในพอร์ต โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ )ในประเทศเวียดนาม 9 โครงการ กำลังการผลิตรวม 836.72 เมกะวัตต์ ครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ประเทศ เวียดนาม จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการ HBRE Chu Prong Wind Power Farm กำลังการผลิต 50 เมกกะวัตต์ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม ในช่วงไตรมาส 4/2564
และโรงไฟฟ้าขยะ ทยอยเข้ามาเพิ่มสนับสนุนเพิ่ม

"ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส1/2565 รายได้เติบโตในทิศทางที่ดี และเชื่อว่าในไตรมาส2/2565 และช่วงที่เหลือของปีนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะการทยอยCOD โครงการต่าง ๆ ตามแผน ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 30 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเวียดนาม โครงการโรงไฟฟ้าขยะที่ จังหวัดหนองคาย เป็นต้น “ นายจอมทรัพย์กล่าว

นายจอมทรัพย์ กล่าวต่อว่า เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้ เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เพราะปริมาณกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากโครงการโรงไฟฟ้าไฮบริด ขนาดกำลังการผลิต ขนาดกำลังการผลิต 49 เมกะวัตต์ คาดเห็นในไตรมาส 2 , โครงการ Energy Storage System ,โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบเอกชน (Private PPA ) ขนาดกำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ นอกจากนี้จะเห็นการร่วมมือกับพันธมิตร AC ENERGY VIETNAM INVESTS PTE. LTD ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนชั้นนำทางด้านธุรกิจพลังงานทดแทนฟิลิปปินส์ ในการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ คาดจะเห็นในช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองโอกาสในขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ ทั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (โซลาร์รูฟท็อป)และโครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน( Private PPA ) รวมทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid โดยปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้ก้าวกระโดด ตั้งเป้าเติบโต 30 - 35 % จากปี 2564 และกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900 – 2,000เมกะวัตต์ ภายในปี 2565

 

 

KUN ย้ำปีนี้ รายได้โต 10-15%
หลัง Q1/65 กำไรพุ่ง 41.16%

KUN โชว์ฟอร์มไตรมาสแรก กวาดกำไร 38.67 ล้านบาท เติบโต 41.16% หลังรายได้จากการส่งมอบบ้านพุ่ง 40.48% แตะระดับ 266.55 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายไตรมาส1/2565 แตะระดับ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5 % หนุน Backlog ในมือสูง 360 ล้านบาท ทยอยโอนไตรมาส 2/2565 พร้อมลุยเปิดตัวโครงการ “คุณาลัย เดซี่” มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท และเตรียมปิดดีล โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ที่จ่อเปิดพรีเซล ส่งท้ายปี ประกาศย้ำเป้าหมายรายได้ปีนี้โต 10-15 % ขณะที่ยอดขายเติบโตมีลุ้นแตะ1,700 ล้านบาท

 


นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โควิค-19 ที่ระบาดในระลอกใหม่ ทำให้ลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยมองหาบ้าน ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้านได้ครบทุกมิติ ประกอบกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ยิ่งส่งผลให้กลุ่มลูกค้าตัดสินใจในการซื้อบ้านก่อนที่ราคาบ้านจะปรับเพิ่มได้ง่ายขึ้น

 


จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 ของบริษัทฯมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 38.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 27.39 ล้านบาท และ รายได้รวมที่ 267.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.06 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 190.99 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากการส่งมอบโครงการเพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรก บริษัทฯ รับรู้รายได้จาก 5 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการคุณาลัย พรีม, 2.โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2, 3.โครงการคุณาลัย จอย ออน 314, 4.โครงการคุณาลัย พาร์โก้ และ 5.โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด

 


ส่วนยอดขาย (Presale) ณ สิ้นไตรมาส1/2565 อยู่ที่ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มียอดขาย 350 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25 % ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 1,700 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการของบริษัทฯ ได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะโครงการ คุณาลัย พาร์โก้ ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/2565 ได้รับการตอบรับที่ดี จนล่าสุดมียอดขายแล้วกว่า 10 แปลง ซึ่งสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว ตั้งแต่ในไตรมาสแรก ดังนั้นบริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายสำหรับโครงการดังกล่าว มีโอกาสแตะ 50 แปลง ในปีนี้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไตรมาแรก บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือ มูลค่ารวมกว่า 360 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้ภายในไตรมาส 2/2565

 


“บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบริษัทฯ มีทีมงามที่คอยอัปเดต แนวโน้มเทรนด์รูปแบบที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เพื่อจะพัฒนาสินค้าให้ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ยังคงมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม เนื่องจากตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุค New Normal ได้ดีกว่า เนื่องจากพื้นที่ภายในบ้านที่กว้าง สามารถตอบสนองความต้องการในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการ Work from Home และการเรียนผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้ง เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) รวมถึงติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ให้กับลูกค้า”

 


สำหรับภาพรวมของธุรกิจในไตรมาส 2/2565 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN กล่าวว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้นจากปัจจัยบวกต่างๆ เช่น การเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวกลับ ดังนั้นโดยส่วนตัวเชื่อว่าดีมานด์และกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับกลุ่มลูกค้าที่ยังคงต้องการที่อยู่อาศัยก็ยังคงมองว่าบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ดังนั้นในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ “คุณาลัย เดซี่” ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ตั้งอยู่ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย จำนวนรวม 211 ยูนิต มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีเหมือนทุกๆ โครงการที่ผ่านมา

 


ส่วนความคืบหน้า โครงการ “คุณาลัย นาวาร่า” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการในทิศที่ 3 โซนกรุงเทพฯ ใต้ (บางขุนเทียน ) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท โดยจุดเด่นของโครงการ คือความพิเศษของทำเลที่อากาศดีที่สุดในกรุงเทพฯ และจะเป็นโครงการสุดท้ายในโซนดังกล่าว ในระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการเพิ่มเติมสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆในอนาคต โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาโครงการให้ครบ 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ-ปริมณฑลตามนโยบายของบริษัทฯที่วางไว้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่พัฒนาแล้ว 2 ทิศ คือ ทิศตะวันตกของกรุงเทพฯโซนบางบัวทอง, ทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ โซนจังหวัดฉะเชิงเทรา และทิศที่ 3 ทิศใต้ โซนบางขุนเทียน ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดพรีเซล ได้ภายในไตรมาส 4/2565 นี้ อย่างไรก็ตามจากปัจจัยการเติบโตของบริษัทฯ ส่งผลให้ KUN ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายในปี 2565 เพิ่มขึ้น 10-15 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 1,700 ล้านบาท

 

 
---จบ---

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้