Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: RATCH ทุ่ม 1.56 พันลบ. ถือหุ้น PRINC 10%

4,444

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (24 พฤษภาคม 2564)---- RATCH ประกาศเข้าถือหุ้น PRINC ในสัดส่วน 10% รวมมูลค่า 1.56 พันลบ. แย้มเล็งลงทุนเพิ่ม คาดให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว


วันนี้ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) และบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ได้ลงนามเป็นพันธมิตรร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจบริการสุขภาพ ซึ่งจะขยายฐานธุรกิจไปทั่วประเทศ เพื่อช่วยเสริมระบบสาธารณสุขของประเทศแข็งแกร่ง ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้มากยิ่งขึ้น โดย RATCH ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) แบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 346,233,682 หุ้น และหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 34,623,369 หุ้น รวมเป็นหุ้นทั้งหมด 380,857,051 หุ้น คิดเป็นร้อยละ10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวน 1,557,705,338.59 บาท ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาจองซื้อหุ้น สัญญาซื้อขายหุ้น และสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น


นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะปรับสัดส่วนรายได้รวมของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เท่าๆกันทั้ง2 ธุรกิจโดยตั้งเป้าที่จะมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า50% และธุรกิจด้านสาธารณูปโภค 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 80:20 และจากความร่วมมือกับทาง PRINC ในการเข้าไปขยายโรงพยาบาลในจังหวัดรอง ที่มีคู่แข่งน้อยหรือยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าไปก่อตั้งจะเป็นโอกาสที่ดีในการทำให้สัดส่วนรายได้ด้านสาธารณูปโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้เล็งพื้นที่ที่จะเข้าไปขยายโรงพยาบาลส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ และพื้นที่ในแถบขอบชายแดนซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการที่ลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งมาใช้บริการ

“ด้วยธุรกิจบริการสุขภาพในประเทศไทยมีศักยภาพการเติบโตอย่างมีนัยในระยะยาว จากสภาวะสังคมผู้สูงอายุ และพฤติกรรมความสนใจการดูแลสุขภาพของคนในสังคมที่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญของทั้งห่วงโซ่มูลค่าของธุรกิจนี้ด้วย ไม่เพียงเฉพาะการบริการทางแพทย์และบริการส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพด้วย นอกจากนี้ ยังเห็นว่า โมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า กล่าวคือ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในจัดการความเสี่ยงและบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ” นายกิจจา กล่าว


ด้าน ดร.สาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) PRINC เปิดเผยว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 2565 ซึ่งบริษัทไดัตั้งงบลงทุนไว้ราว 5,000 - 6,000พันล้านบาท เพื่อลงทุนขยายโรงพยาบาลให้เพิ่มขึ้นเป็น 20 ภายในปี2565 จากปัจจุบันมีทั้งหมด 11 แห่ง รวมไปถึงนำเงินลงทุนไปขยายคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่ง ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ 100 แห่ง ในปี65 โดยหลายๆโปรเจคที่ดำเนินการไปในช่วง3ปีที่ผ่านมาคาดว่าในปี65 จะสร้างผลงานพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิให้กับบริษัทได้ ซึ่งโดยปกติแล้วระยะเวลาคืนทุนของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลจะได้ผลงานที่ดีเป็นกำไรภายหลัง3ปีนับจากที่ดำเนินการเปิดให้บริการ

โดยปัจจุบัน PRINC มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งมีเตียงรองรับคนไข้รวมกันราว 500 เตียง และที่เหลือเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก จำนวนที่ละ 60เตียง ซึ่งโรงพยาบาลใหม่ๆที่จะก่อสร้างจะมีพื้นที่ masterplan อย่างน้อย 60-100 เตียง โดยบริษัทได้เข้าไปดูโรงพยาบาลเก่าหลายๆแห่งที่มีอยู่แล้วเพื่อTake over และจัดการระบบการทำงานใหม่ ซึ่งแต่ก่อนอาจมีค่าใช้จ่ายการบริหารงานด้วยต้นทุนสูง แต่คนไข้ใช้งานน้อยลง ซึ่งบริษัทจะเข้าไปช่วยเสริมปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้ต้นทุนระบบงานต่ำลง และจัดหาบุคลากรทางการแพทย์มาเสริมทัพช่วยให้ศักยภาพในการรักษาของโรงพยาบาลแห่งนั้นดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มองการแข่งขันธุรกิจเฮลท์แคร์ ในปัจจุบันค่อยข้างมีตัวเลขที่สูงขึ้น จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้คนใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายๆบริษัทมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่ๆมารองรับตลาดนี้ รวมถึงมีบริษัทประกันเปิดตัวใหม่มากขึ้น ซึ่งมีลูกค้าประกันคิดเป็นสัดส่วนถึง50% ของคนที่ใช้บริการโรงพยาบาล แต่ถึงแม้ว่าในเมืองใหญ่ เมืองหลวงจะมีการแข่งขันของโรงพยาบาลสูง แต่ในเมืองรองและต่างจังหวัดยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก หรือปานกลาง ซึ่งบางจังหวัดยังไม่มีรพ.เอกชนด้วยซ้ำ บริษัทจึงเล็งเห็นที่จะเข้าไปขยายฐานโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงง่าย มีพื้นที่ให้บริการสะดวกสะบายมากกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่ราคาไม่แพง

นอกจากนี้ทั้ง RATCH กับ PRINC มองทิศทางการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะฝั่งผู้สูงอายุ ซึ่งยังถือว่ามีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก พร้อมร่วมมือและการพัฒนาฝั่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในเชิงสุขภาพ พลังงานสะอาดและด้านอื่นๆเป็นตามปณิธานของ PRINC การพัฒนาคนให้มีจิตใจของความเป็นผู้ให้ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยังยืน

“ขอบคุณ RATCH ที่เชื่อมั่น PRINC ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง RATCH เข้ามาศึกษาธุรกิจของ PRINC ต่อเนื่อง จนเชื่อมั่นว่าเราสามารถบริหารโรงพยาบาล โดยใช้โมเดล Shared Services ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญเรามีทีมแพทย์ บุคลากร และทีมผู้บริหารที่มีศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจสุขภาพอื่นๆ ในอนาคต

เราเชื่อมั่นว่า PRINC สามารถดูแลรักษาคนไข้ควบคู่กับการสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน (Creating Shared Value) ในทุกพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่และคาดหวังว่า RATCH จะช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Platform ทางการแพทย์เพื่อสร้างประสบการณ์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยโดยเฉพาะเมืองรอง ให้มีโอกาสได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดี” ดร.สาธิต กล่าว

ทั้งนี้ PRINC ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างพันธมิตรที่เข้มแข็งในการร่วมพัตนาการแพทย์ในพื้นที่ต่างๆที่ยังไม่เพียงพอ และยังเสริมบริการทางการแพทย์ที่รัฐได้จัดให้ ซึ่งพันธมิตรต่างๆที่ร่วมกับ PRINC ล้วนเป็นองค์กรที่เน้นการพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น IFC (International Finance Corporation (IFC) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (World Bank Group) และ RATCH ที่มาร่วมผลักดันให้ PRINC ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งดังปณิธานว่าเป็นองค์กรที่สร้างคนที่มีจิตใจที่คอยดูแล พัฒนาคน ชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน


อนึ่ง บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิ ตอล จำกัด (มหาชน)(“PRINC”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2564ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564ซึ่งได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ตามแบบมอบอ านาจทั่วไป (General Mandate) ในจำนวน 346,233,682 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจ ากัด (Private Placement)ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


1.1 รายชื่อบุคคลในวงจำกัดและจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้บริษัทฯ จะจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จ านวน 346,233,682 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 4.09 บาท ให้แก่บุคคลในวงจ ากัดจ านวน 1ราย อันได้แก่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)(“RATCH”)ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) ด าเนินธุรกิจในลักษณะบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ด้วยการลงทุนถือหุ้นในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานครอบคลุมพื้นที่การลงทุนในประเทศและประเทศ ทาง RATCH มีความสนใจโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้ากล่าวคือเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม เป็นธุรกิจที่มีรายได้ประจำสามารถทนทานต่อความผันผวนขอเศรษฐกิจได้ดี และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง อีกทั้งยังมีอัตราการทำกำไรและผลตอบแทนในการประกอบธุรกิจที่ดี ซึ่งแสดงถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง รวมถึง RATCH มีแผนที่จะขยายธุรกิจสู่ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare)จึงสามารถร่วมมือกับบริษัทฯ เพื่อต่อยอดและพัฒนาธุรกิจบริการสุขภาพได้ อาทิร่วมลงทุนในการขยายโรงพยาบาลใหม่ เทคโนโลยีทางสุขภาพ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ในอนาคต อันเป็นประโยชน์และส่งเสริมการดำเนินงานของทั้งบริษัทฯ และ RATCH ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้ตรวจสอบงบแสดงฐานะการเงินที่ได้เปิดเผยของ RATCH แล้ว มีความเห็นว่า RATCH มีเงินทุนเพียงพอส าหรับการเข้าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดและมีฐานะทางการเงินมั่นคง และไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการก ากับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551เรื่องหลักเกณฑ์ในการท ารายการที่เกี่ยวโยงกัน (ตามที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546(ตามที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) นอกจากนี้ การเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ RATCH เข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.09ของทุนจดทะเบียนช าระแล้วของบริษัทฯ (ภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์) ซึ่งไม่ส่งผลให้RATCH มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทฯ แต่อย่างใด

บริษัทฯ กำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 24- 27 พฤษภาคม 2564โดยที่วันกำหนดราคาเสนอขายดังกล่าวย้อนหลังไม่เกินกว่า 3 วันทำการก่อนวันแรกที่เสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัดทั้งนี้ บุคคลในวงจำกัดจะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 346,233,682 หุ้น และช าระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 4.09 บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,416,095,759.38 บาท โดยภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯ จะไม่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนคงเหลือที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย

 

-----จบ----

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

ไปไม่ไกล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ภาพรวมหุ้นไทย คงวิ่งไม่ไกล ไม่แรง ด้วยทั่วโลก จับตา ประธานเฟด แถลงผลประชุม 1พ.ค.67 ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้