Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PJW ตุนกำไรโค้งแรก43.10 ลบ. /แจกวอร์แรนต์ ผถห.เดิม 3:1 /AGE มั่นใจปีนี้ ปั้มรายได้ธุรกิจโลจิสติกส์ เข้ากระเป๋า1พันลบ.

3,215

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 พฤษภาคม 2564)----------PJW เผยกำไรสุทธิ Q1/64 เพิ่มแตะ43.10 ลบ. เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 34.6 ล้านบาท หลังควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมแจกวอร์แรนต์ ผถห.เดิม 3:1 อายุไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ออก อัตราการใช้สิทธิ ในราคา 3 บาทต่อหุ้น เสริมสร้างความแข็งแกร่งและให้มีความยืดหยุ่นทางการเงิน

บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) PJW เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 รวมเท่ากับ 43.10 ล้านบาทเพิ่มขึ้น8.49 ล้านบาทเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 34.6 ล้านบาท เนื่องจาก


1. รายได้รวมลดลง 30.34 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.64 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงจากรายได้งานโครงการ 19.67 ล้านบาทเนื่องจากอยู่ในช่วงปลายโครงการ อย่างไรก็ตามการตรวจรับงานล่าช้าเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในส่วนของรายได้จากการขายลดลง 8.29 ล้านบาท ลดลงจากส่วนงานชิ้นส่วนยานยนต์เนื่องจากไตรมาสแรกของปีที่แล้วมีงานนิวโมเดล หากแต่ส่วนงานบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น และบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ในส่วนของยอดขายบรรจุภัณฑ์สำหรับนมและนมเปรี้ยวลดลงเพียงเล็กน้อยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปีทำให้ยอดขายนมและนมเปรี้ยมขนาดเล็กที่ขายในร้านสะดวกซื้อลดลง ในส่วนของธุรกิจในเมืองจีนยอดขายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยอดขายของโรงงานที่เจียงซูเติบโตขึ้น


2. อัตรากำไรขั้นต้นรวม เท่ากับร้อยละ 19.4 ลดลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 20.2 เนื่องจากราคาเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความสูญเสียเพื่อรักษาระดับกำไรขั้นต้น


3. อัตรากำไรสุทธิรวมเท่ากับร้อยละ 5.36 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอัตรากำไรสุทธิรวมที่ร้อยละ 4.15เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

 

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2564 ของบริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”)เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติที่สำคัญดังนี้


1. อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (“PJW-W1”) จำนวนไม่เกิน 191,359,982 หน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า โดยมีอัตราการจัดสรรเท่ากับ 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (หากมีเศษจากการคำนวณตามอัตราการจัดสรรให้ปัดเศษทิ้ง) ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ออก และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญของบริษัทฯ 1 หุ้น ในราคา 3 บาทต่อหุ้น เว้นแต่มีการปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ

บริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ PJW-W1 (Record Date) ในวันที่1 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ การกำหนดสิทธิดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท


2. อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของ บริษัทฯ จาก287,040,000 บาท เป็น 287,039,972.50 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจ าหน่าย จำนวน55 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน รวมถึงมอบอำนาจให้คณะกรรมการ หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทมอบหมาย มีอำนาจดำเนินการใด ๆ ตามที่จ าเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ


3. อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก287,039,972.50 บาท เป็น 382,719,963.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 191,359,982 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวม 95,679,991.00 บาท และการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัทให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน รวมถึงมอบ
อำนาจให้คณะกรรมการ หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทมอบหมาย มีอำนาจดำเนินการใด ๆตามที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (PJW-W1) และเป็นการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งและให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินสำหรับการลงทุนในอนาคต รวมถึงเพื่อสำรองเงินไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และ/หรือเพื่อชำระหนี้เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดงสิทธิ


นอกจากนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและให้มีความยืดหยุ่นทางการเงิน และเพิ่มสภาพคล่องของเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

บริษัทฯ อนุมัติให้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น และ อนุมัติกำหนดให้วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564

 

ด้าน บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เดินหน้าขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ล่าสุด บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด (บริษัทร่วมทุน) ทำบันทึกข้อตกลงกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด รับโอนสิทธิการเช่าศูนย์ธุรกิจเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด จาก บริษัท สุวรรณเกลียวทอง ท่าเรือ คลังสินค้า จำกัด เพื่อเร่งต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ส่งผลให้มีจำนวนท่าเรือ เพิ่ม 3 ท่า โกดังสินค้าเพิ่มอีก 5 หลัง บนพื้นที่ขนาด 31 ไร่ เดินเกมรุกธุรกิจบริการท่าเรือ โกดังสินค้า แบบครบวงจร ส่อแววปั้มรายได้โลโจติกส์เข้ากระเป๋าตามเป้าปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้าน โลจิสติกส์ (ขนส่งทางน้ำ – ขนส่งทางบก – ท่าเรือ – คลังสินค้า) แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE ได้ร่วมทุนกับ บริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 90 ล้านบาท เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย ท่าเรือ 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง บนพื้นที่ทั้งหมด 31 ไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แทนบริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด โดยมีระยะเวลาการเช่า 3 ปี และดำเนินการต่ออายุการเช่าไปอีก 3 ปี ซึ่งภายหลังการดำเนินการแล้วเสร็จ บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที

นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า " จากแผนการลงทุนแบบเชิงรุกในครั้งนี้จะทำให้ ธุรกิจโลจิสติกส์ของเอจีอี สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีการขนส่งผ่านท่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี โดยจำนวนท่าเรือของ AGE จะเพิ่มจาก 3 ท่า เป็น 6 ท่า ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกค้าด้านการขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้าเกษตร ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ปุ๋ย และแร่เหล็ก และมีพื้นที่ให้บริการเก็บสินค้าในโกดังเพิ่มมาอีกด้วย"

โดยเอจีอีมองว่าแผนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์แบบเชิงรุกในปีนี้ จากการขยายท่าเรือ เพิ่ม 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง รวมถึงแผนการลงทุนรถบรรทุกเพิ่มเติมอีก 50 คัน จะส่งผลให้เอจีอีสามารถบรรลุเป้ารายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวอย่างโดดเด่น

----จบ---

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ชมงบ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ช่วงนี้ คงต้องรอชมนก ชมไม้ เอ้ย รอชม ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทจดทะเบียน เริ่มทยอย...

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

ผถห. SSP ผ่านฉลุยจ่ายปันผล 0.10 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุยจ่ายปันผล 0.10 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้