Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews:CHAYO ลั่นปีนี้ปั้มรายได้พุ่งกว่า 25% /CWT มั่นใจปี64สร้างกำไร-รายได้นิวไฮ

1,777

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2 มีนาคม 2564) ----CHAYO อวดผลงานปี 2563 โกยกำไรสุทธิ 154.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.40% มีรายได้รวม 479.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.40% จากความสำเร็จในปี 2563 ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และการปล่อยสินเชื่อเติบโตขึ้น ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือประมาณหุ้นละ 0.0333333 บาท และให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0037037 บาท พร้อมแจก Warrants เพิ่มอีก ด้าน “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” แม่ทัพใหญ่ เผย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทฯ มีพอร์ตหนี้บริหารอยู่ที่ราว 65,397 ล้านบาท พร้อมประกาศแผนปี 64 ขยายพอร์ตเพิ่มเติม โดยตั้งเป้าซื้อหนี้เพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท โดยเตรียมงบลงทุนไว้ราว 1,000 ล้านบาทและมีแผนปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้จำนวนประมาณ 150-200 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้รวมในปี 2564 นี้จะโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือขายของOnline และ TV Shopping เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดปี 2563 มีรายได้รวม 479.12 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 184.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.40 โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่นั้นเกิดจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวน 185.38 ล้านบาท และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อจำนวน 5.77 ล้านบาท และรายได้จากการขายจำนวน 3 ล้านบาท

ในปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 361.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 90.42 เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 190.00 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิสำหรับปีอยู่ที่ 154.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.40 เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 111.05 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 75.51 ของรายได้

“การเติบโตของรายได้และกำไรในปี 2563 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงรายได้จากการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกันและสินเชื่อรายย่อยส่วนบุคคล และรายได้จากการขาย ผ่านช่องทาง Call Center ,TV Shopping และช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ดี ธุรกิจเร่งรัดหนี้สินมีรายได้อยู่ที่ 51.32 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10.05 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 16.37 มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ผู้ว่าจ้างมีนโยบายพักชำระหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยให้หยุดการติดตาม และยืดระยะเวลาการชำระเงินออกไป หรือลดการจ่ายค่างวดลง อันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” นายสุขสันต์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ดีของบริษัทฯ ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 บริษัทมีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย 37.24 ล้านบาท และซื้อหนี้เข้ามาบริหารอีกกว่า 15,500 ล้านบาทส่งผลให้มูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นปี 2563 บริษัทฯ มีพอร์ตหนี้บริหารอยู่ที่ 65,397 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันประมาณ 48,915 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 16,482 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 61,739,790 หุ้น (ทั้งนี้ผู้ที่ใช้สิทธิแปลงในสำคัญแสดงสิทธิหรือแปลง CHAYO-W1 ในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ก็จะมีสิทธิในการรับปันผลในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับมีสิทธิในการรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกใหม่หรือ CHAYO-W2 ด้วย) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 30,869,895 บาท หรือคิดเทียบเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.0333333 บาทต่อหุ้น และให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0037037 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณไม่เกิน 3,429,985 บาท โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2”) ในจำนวน 125,439,668 ถึงไม่เกิน 246,915,155 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่าในอัตรา 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 ถึง 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 โดยบริษัทจะจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 ตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (ทั้งนี้ผู้ที่ใช้สิทธิแปลงในสำคัญแสดงสิทธิหรือแปลง CHAYO-W1 ในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ก็จะมีสิทธิในการรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกใหม่นี้หรือ CHAYO-W2 ด้วย)

โดยบริษัทจะเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการจ่ายปันผลและการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ CHAYO-W2 ในวันที่ 27 เมษายน 2564 นี้

ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยตั้งเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านบาท ด้วยการตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อหนี้ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหนี้ด้อยคุณภาพในระบบยังมีอยู่สูงเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้น สถาบันการเงินจะทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง

ด้านธุรกิจเจรจา ติดตามและเร่งรัดหนี้สิน ในปี 2564 ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากรายได้ในปีที่แล้วที่อยู่ที่ 51.32 ล้านบาท โดยบริษัทได้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจนี้แล้วในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2564

ด้านธุรกิจปล่อยสินเชื่อในปี 2564 บริษัทวางเป้ายอดการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มอีก 200%ประมาณ 150 - 200 ล้านบาท เติบโตจากสิ้นปี 2563 ที่อยู่ที่ราว 51 ล้านบาท

 


ด้านCWT ดีเว่อร์ งบปี 63 กำไรสุทธิ 117 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ไม่สนโควิด ธุรกิจหนังโตแกร่ง คุมต้นทุน ออเดอร์ใหม่ไหลเข้าเพียบ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บิ๊กบอส "วีระพล ไชยธีรัตต์" มั่นใจปี 64 แรงได้อีก แย้ม "สกุลฏ์ซี" เตรียมทยอยส่งมอบ "บัส-เรือ" มูลค่า 600 ล้านบาท หนุนรายได้-กำไร สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CWT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 4/63 มีรายได้รวม 497.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.99 ล้านบาท หรือ 2.68% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 484.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 75.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.09 ล้านบาท หรือ 236% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22.508 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหนังที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แต่ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราคาหนังที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงลูกค้ามีการส่งออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 แห่ง เข้ามาช่วยสนับสนุน

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2563 มีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.77 ล้านบาท หรือ 11.18 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 105.26 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้โตเกิน 30% จากปีก่อน และมีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ จาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ซึ่งเริ่มมีออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าหลัก โดยคาดว่ารายได้ธุรกิจหนังจะอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ในปีนี้ 2.กลุ่มพลังงาน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าชีวมวล กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 5.0 เมกะวัตต์ คาดจะทำรายได้ปีนี้ประมาณ 340 ล้านบาท

และ 3.บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จํากัด หรือ SKC ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์และเรืออะลูมิเนียมรายแรกของไทย อยู่ระหว่างการพัฒนารถบัสดีเซล และรถบัส EV คาดว่าจะสามารถจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกและส่งมอบงานได้ภายในปลายไตรมาส 1/2564 และตั้งเป้าหมายรายได้กลุ่มปีนี้อยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท จากออเดอร์ผลิตเรือ EV ให้กับบริษัท บ้านปูเน็กซ์ และพันธมิตร และรถมินิบัส ที่มีออเดอร์เข้ามากว่า 200 คัน จะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ ไตรมาส 2/2564

"มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็น New S-Curve ของบริษัทฯ ภายใต้บริษัทร่วมทุน "สกุลฎ์ซี" ซึ่ง CWT ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 50% มีแผนส่งมอบรถและเรือในปีนี้กว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้หลักที่มาจากธุรกิจหนัง และธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ที่มีรายได้ประจำจากการขายไฟ"

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูล สัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) ในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะของภาครัฐเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับสัญญาเป็นผู้ดำเนินโครงการบริหารจัดการขยะและกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเทศบาลนครสวรรค์ ภายใต้บริษัท กรีน เพาเวอร์ 1 จำกัด (GP1) พัฒนาร่วมกับ บริษัท ซีโรเวซท์ จำกัด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเข้าพัฒนาพื้นที่และก่อสร้างโรงแปลงขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน RDF และบริษัทฯจะเริ่มดำเนินการศึกษาและออกแบบโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ร่วมกับทางเทศบาลนครสวรรค์ควบคู่ไปด้วย เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงพลังงาน RDF ขนาดไม่เกิน 10.0 MW ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งหากสามารถประมูลงานเพิ่มเติมได้ คาดว่าจะโครงการแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้

 


---จบ---

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น กันต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น นักลงทุนยังคงชะลอลงทุน หลังมีข่าว อิสราเอล จะตอบโต้อิหร่าน ......

ขายทำรอบ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เห็นวานนี้ ต่างชาติทิ้งหนักเกือบ 6.4 พันล้านบาท แต่รายย่อยซื้อสุทธิ 6.8 พันล้านบาท ท่ามกลางความ..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้