HotNew : เจาะแผนปีฉลู CSS - IIG

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (20 มกราคม 2564) บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) เดินเกมลุยธุรกิจตามแผน เชื่อปีนี้ผลงานเติบโตต่อเนื่อง รับอานิสงส์ธุรกิจพลังงานที่ COD เต็มสูบ ส่วนธุรกิจติดตั้งระบบโทรคมนาคม และเทรดดิ้งยังสดใส "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" ลั่นพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ทุกโครงการ หวังต่อยอดรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%

 

 

 

 

 

นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้ทุกประการ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เชื่อมั่นว่าปีนี้ภาพธุรกิจโดยรวมจะยังคงเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม 100 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว 5 เมกะวัตต์ ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ว

 

 

ขณะที่ธุรกิจบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม ยังได้รับอานิสงส์การลงทุนโครงข่าย 5G ที่สนับสนุนให้เห็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น ทำให้ CSS มีโอกาสได้รับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากลูกค้าหลัก เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงต่อไปในอนาคต ส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง โดยเฉพาะสายไฟฟ้า ซึ่งปี 2563 ราคาทองแดงได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องถึงปี 2564 ทำให้รับรู้กำไรจากสต็อกเพิ่ม จึงทำให้มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโตตามเป้าที่ระดับ 3,800 ล้านบาท หรือเติบโต 20%

 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อถึง สาเหตุที่ ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น บริษัทไม่ได้มีพัฒนาการใดๆ ที่เป็นนัยสำคัญ โดยยังคงดำเนินกิจการเป็นไปตามแผนการดำเนินปกติ โดยปีนี้ ยังคงมีนโยบายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่จะสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และมีความมั่นคงในระยะยาว ส่วนงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคม และธุรกิจเทรดดิ้ง CSS พร้อมที่จะเข้าประมูลงานทุกงาน เพราะเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตเช่นกัน

 

 

“พื้นฐานธุรกิจของบริษัทไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังคงดำเนินตามแผนธุรกิจที่ได้วางไว้ ส่วนงานประมูลโครงการใหม่ๆ คาดว่าจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทุกโครงการเพื่อต่อยอดรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตตามเป้าที่ได้วางไว้ ”นายสมพงษ์ กล่าว

 

 

 

 

 

ด้านบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IGG ประเมินรายได้ปี 64 เติบโตถึง 650 - 700 ล้านบาท โดย " บิ๊กสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ " ระบุธุรกิจปัจจุบันของบริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรุกผลักดันธุรกิจใหม่ iiG Data เพื่อเพิ่มยอด พร้อมพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ให้ครอบคลุมการบริการในยุคดิจิทัล

 

 

 

นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ iiG กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ คาดว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตประมาณ 650 - 700 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และจำหน่ายซอฟต์แวร์จาก Salesforce ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างการเติบโตสูงให้แก่บริษัทฯ เนื่องจากระบบ CRM ยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กรธุรกิจต่างๆ ในการช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปในกลุ่มธุรกิจ non-bank เช่น ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล

 

 

ส่วนธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และจำหน่ายซอฟต์แวร์จาก Oracle คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการที่องค์กรธุรกิจต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนระบบ ERP จากเดิมที่เป็น on premise มาเป็นแบบ on cloud หลังจากที่การระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เช่น มีการ work from home มากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนระบบเป็นแบบ on cloud นี้ จะทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

 

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจใหม่ iiG Data ที่ให้บริการคำปรึกษาและบริการด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (Data Analytics & Management) ซึ่งมีการเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา จะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2564 นี้ และคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจดังกล่าวช่วยให้บริษัทฯ มีการบริการที่ครบวงจรและสามารถตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น โดยปีนี้ iiG Data มีแผนที่จะบุกตลาดในกลุ่มค้าปลีก (Retail)

 

 

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการรับพนักงานเพิ่มขึ้นและมีการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับโครงการใหม่ๆ ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เทียบปีต่อปีจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลประกอบการให้กับบริษัทฯ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง