Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : SCGP รุกซื้อ Go-Pak UK Limited สยายปีกโซลูชันบรรจุภัณฑ์อาหาร

2,391

HotNews : SCGP รุกซื้อ "Go-Pak UK Limited" สยายปีกโซลูชันบรรจุภัณฑ์อาหาร

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 พฤศจิกายน 2563) บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นของ Go-Pak UK Limited ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร (foodservice packaging) ในสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ โดยมีฐานการผลิตในเวียดนาม การลงทุนนี้จะทำให้ SCGP เติบโตอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร สามารถขยายฐานตลาดไปยังสหราชอาณาจักร ยุโรป และ อเมริกาเหนือ เพื่อรองรับรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค และส่งเสริมการเติบโตของความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารทั่วโลก

 

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า SCGP ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ใน Go-Pak UK Limited (หรือ Go-Pak) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของการลงทุนประมาณเดือนธันวาคม 2563 หลังจากได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จากหน่วยงานที่มีอำนาจในประเทศที่เกี่ยวข้อง ภายหลังการควบรวมกิจการ จะทำให้ธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร (foodservice packaging) ของ SCGP มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี

 

 

Go-Pak มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบริสตอล สหราชอาณาจักร และมีฐานการผลิตอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหารในสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ ทั้งจากฐานการผลิตของตนเองและเครือข่ายการจัดหาทั่วโลก ซึ่งบรรจุภัณฑ์อาหารเหล่านี้รวมถึง ภาชนะจาน ชาม ช้อนส้อม ถ้วย และแก้ว ที่ทำจากกระดาษ โพลิเมอร์ รวมถึงวัสดุย่อยสลายอื่น ๆ จะนำไปใช้ในการบรรจุอาหารและเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน ทั้งนี้ฐานลูกค้าของ Go-Pak ประกอบไปด้วย ผู้จัดจำหน่ายในภาคธุรกิจการบริการด้านอาหาร ผู้ค้าปลีก และผู้ค้าส่ง ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการร้านอาหาร เครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านขายอาหารนำกลับ รวมถึงผู้ให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ โดยธุรกิจข้างต้นมุ่งเน้นเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย คุณภาพ และความสะดวก

 

 

รูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมถึงการนิยมสั่งซื้ออาหารสะดวกซื้อมากขึ้นนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งปัจจุบัน SCGP มีฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในมาเลเซียและไทย โดยมีตลาดหลักในภูมิภาคอาเซียนและญี่ปุ่น การเข้าซื้อหุ้น Go-Pak จะเสริมความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าในตลาดสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ รวมทั้งยังเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขันด้วยการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และขยายฐานการผลิตทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน โดยการลงทุนของ SCGP ใน Go-Pak ครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าที่เป็นตลาดผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถการผลิตบรรจุภัณฑ์ขั้นปลาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร นายวิชาญกล่าวเพิ่มเติม

 

 

Go-Pak ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 และมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 12 เดือนล่าสุด (ไตรมาสที่ 4/2562-3/2563) Go-Pak มีรายได้ 68.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) มีมูลค่าสินทรัพย์ 40.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 1,650 ล้านบาท) เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2563 และมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร 4 พันล้านชิ้นต่อปี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 250 ประเภท

 

 

SCGP เป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนำเสนอบริการด้านบรรจุภัณฑ์เยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ และบริการบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายอื่น ๆ โดยมีฐานการผลิตรวมกว่า 40 แห่งในเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิ ลิปปินส์ และไทย

 

 

โครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อยที่ขนาดของสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงของการสรุปราคาหุ้นขั้นสุดท้าย จึงยังไม่สามารถคำนวณขนาดของรายการตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจ าหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ได้ แต่จากประมาณการในเบื้องต้น ธุรกรรมนี้เมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP สิ้นสุด ณ วันที่30 กันยายน 2563 ยังน้อยกว่าร้อยละ 15ของสินทรัพย์รวมและไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน

 

 

 


บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะซื้อ SCGP คาดกำไรไตรมาสหน้ากลับมาโตจากฐานที่ต่ำ

 


บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)SCGP รายงานกำไรปกติ 3Q63 -7%YoY SCGP รายงานกำไรสุทธิ 3Q63 1.3 พันลบ. (-30%QoQ, -9%YoY) แต่หากตัดรายการขาดทุน FX, ต้นทุนการเงิน และภาษีออก กำไรจากการดำเนินงาน (ปกติ) อยู่ที่ 2.4 พันลบ. -7%YoY รายได้จากการขาย +8%QoQ, -5%YoY เป็น 2.3 หมื่นลบ. โดยหลักเกิดจากการขายในไทยที่ลดลง -7%YoY และหากแยกเป็นสายธุรกิจ ในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษจะลดลงมากถึง -22%YoY

 

 

เนื่องจากความต้องการกระดาษสำหรับงานพิมพ์เขียนลดลงทั่วโลก ขณะที่สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจรลดลงเล็กน้อย -1%YoY จากความต้องการบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าคงทนลดลง YoY จากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งหักล้างการเติบโตของยอดขายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ โพลิเมอร์จากการทำ M&A ทางด้าน EBITDA อยู่ที่ 4.0 พันลบ. ใกล้เคียง YoY โดย EBITDA margin 17% ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่ 16% ซึ่งเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง YoY และส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นมาก +16%YoY (เมื่อเทียบกับรายได้ที่หดตัว) ทั้งนี้ กำไรงวด 9M63 อยู่ที่ 5.0 พันลบ. (+22%YoY) โดยเกิดจากยอดขายที่เติบโต +5%YoY จากการทำ M&A และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง (ส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน 1H63A)

 

คาดหวังการเติบโตจากนอกประเทศเป็นหลัก ด้วยรายได้จากการขายในไทยหดตัวด้วยผลกระทบจาก COVID-19 และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลงของประเทศ ทำให้ SCGP ต้องมองหาการเติบโตจากนอกประเทศเป็นหลัก SCGP จะใช้ Business Model ที่มุ่งเน้นการขยายตัวแบบบูรณาการไปใช้ในต่างประเทศให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในเวียดนามและอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากกว่าไทยและ SCGP ยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่มาก ปัจจุบัน SCGP อยู่ระหว่างทำดีลซื้อกิจการ SOVI ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจ Fiber-based Packaging ในเวียดนาม โดย SCGP คาดว่าจะเกิด Synergy ทั้งในด้านฐานลูกค้าที่หลากหลายขึ้น+การมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม+การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากการซื้อกิจการสำเร็จในเดือน ธ.ค. 63 เรามองว่า SCGP จะมีดีลลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก เพราะมีเงินทุนจาก IPO ราว 2.7 หมื่นลบ. ไว้ใช้ขยายธุรกิจ ทั้งนี้ หากรายได้ในไทยไม่หดตัวไปมากกว่านี้ เราคาดว่าน่าจะเห็นรายได้ในภาพรวมของ SCGP กลับมาเติบโตได้ หลักๆ จากการทำ M&A

 

คาดกำไรกลับมาเติบโตใน 4Q63F ด้วยฐานกำไรในปีก่อนที่ไม่สูงราว 1.2 พันลบ. เมื่อประกอบกับต้นทุนการเงินจะลดลงมากทั้ง QoQ, YoY จากการนำเงิน IPO ราว 1.3 หมื่นลบ. ไปชำระคืนสถาบันการเงิน ทำให้เราคาดการณ์ในเบื้องต้นว่ากำไรในไตรมาสหน้าจะแสดงการเติบโตได้ทั้ง QoQ, YoY นอกจากนั้น มองว่ารายได้ยังได้แรงหนุนจากยอดขายที่น่าจะเติบโตตามการขายสินค้าคงทนในช่วงปลายปีและการรวมกิจการ SOVI ในช่วงเดือน ธ.ค.



คงคำแนะนำ ซื้อ เรามองว่า SCGP ยังมีประเด็นบวกรออยู่ข้างหน้าจากการทำดีล M&A ใหม่ๆ และคาดว่ากำไรในไตรมาสหน้าจะกลับมาเติบโต ราคาหุ้นที่ลดลงต่ำกว่าราคา IPO จากการที่ตลาดผิดหวังกับตัวเลขกำไร เรามองเป็นโอกาส ซื้อ ทั้งนี้ SCGP ยังคงมีสถาบันต่างชาติถือหุ้นไม่มากเพียง 3% เมื่อเทียบกับกลุ่มฯ ที่มีต่างชาติถือหุ้น 10-15% ซึ่งหมายถึงมีโอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาถือหุ้นมากขึ้นในระยะถัดไป




ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ การแข่งขัน การขาดแคลนวัตถุดิบหรือต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น การไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและปัจจัยภายนอกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทยปรับขึ้นตามหุ้นต่างประเทศด้วยมีความหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ....

ตามตัวเลข By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นั่งเล่นในดงกล้วย มองดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของบ้านเราที่ประกาศออกมา ทั้งตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ที่หดตัวเป็น...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้