
HotNews : UAC กำไรแกร่งอย่างเสือ
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 มิถุนายน 2563) "ชัชพล ประสพโชค " บิ๊ก UAC เผย 19 มิ.ย. นี้ ประชุมบอร์ดนัดพิเศษ ถกแผนงาน-เล็งทบทวนเป้าหมายธุรกิจ พร้อมประมูลไฟฟ้าชุมชน Quick Win หวังคว้า 3 MW -ซุ่มศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าใน CLMV ราว 2-3 โครงการ พร้อมชูธงรักษากำไร - EBITDA
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ นัดพิเศษ ในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 นี้ เพื่อพิจารณาแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ รวมทั้งอาจจะมีการทบทวนเป้าหมายธุรกิจด้วย เนื่องจากสถานการณ์ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่แพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจรวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่มีความผันผวนจากสงครามราคาน้ำมัน ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ ต้องกลับมาทบทวนการดำเนินธุรกิจ เพื่่อที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงต่อไป โดยบริษัทฯ จะมีการแจ้งผู้ถือหุ้นและนักลงทุนให้รับทราบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิและกำไรก่อนจะหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมากำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตเป็นสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีกำไรสุทธิ 103.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.74 ล้านบาท คิดเป็น 53%
ขณะที่การขยายธุรกิจบริษัทฯ ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจพลังงานทางเลือก ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าราว 12 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าในประเทศไทย ที่กระจายอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ,สุโขทัย , ขอนแก่นเป็นต้น ซึ่งโรงไฟฟ้าที่จังหวัดขอนแก่น มีขนาด 3 เมกะวัตต์ เข้าข่ายในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเร่งด่วน (Quick Win) ซึ่งหากรัฐบาลเปิดรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการในเดือนมิ.ย.นี้ บริษัทฯพร้อมยื่นข้อเสนอทันทีและคาดหวังว่ามีโอกาสสูงที่จะได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการบริหารจัดการขยะที่สปป.ลาว โดยถือหุ้นในโครงการนี้อยู่ 50.1% ขณะนี้่อยู่ในระหว่างดำเนินการในเฟส 1 ในส่วนการคัดแยกขยะคาดแล้วเสร็จต้นไตรมาส 4/63 ส่วนเฟส 2 คือการผลิตไฟฟ้าจากขยะคาดแล้วเสร็จได้ในปลายปี 2564 ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมองโอกาสการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ศึกษาความเป็นไปได้ประมาณ 2-3 โครงการ
นายชัชพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ วางแผนระยะยาว ที่จะสร้างรายได้เติบโตไปถึงระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 2566 พร้อมรักษา EBITDA ให้เติบโตในระดับ 15% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตจะมาจากทั้ง 3 ธุรกิจ คือธุรกิจเทรดดิ้งเคมีภัณฑ์ ,ธุรกิจทางด้านเคมีลาเท็กซ์โพลิเมอร์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ที่ดำเนินการโดย บริษัท ยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (UAPC) รวมทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน
อีกทั้งยังได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจาก บริษัท บางจาก ไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 30% โดยขณะนี้ภาครัฐมีการสนับสนุนที่ให้ใช้ไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนโดยปรับให้มีการใช้น้ำมันดีเซลจาก B10 เป็น B20 ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์ด้วย ขณะที่บริษัทฯ ยังมีแผนนำ บริษัท ยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (UAPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตัวและทำให้ผลประกอบการมีการเติบโตอย่างแข็งแรง
UAC