Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : PORT ปักใจเป้ารายได้ปี 63 โต 5% แม้เผชิญโควิด - 19

2,513

HotNews : PORT ปักใจเป้ารายได้ปี 63 โต 5% แม้เผชิญโควิด-19

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (31 มีนาคม 2563) "บัญชัย ครุจิตร"  บิ๊ก  PORT ตั้งเป้าปี63 รายได้โต 5% ตามการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ แม้มีปัจจัยเสี่ยงจากโควิด-19   พร้อม เชื่อ H2/63 ผลงานจะสดใสกว่า H1/63 หลังประเมินโควิด-19บรรเทาลง

 

 

นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ ปี 2563 เติบโต 5% จากปีก่อนทำได้ 1,558.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของทุกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่ม TERMINAL ซึ่งเป็นการให้บริการขนส่งทางเรือ(BBT) บริษัทฯตั้งเป้ามีความสามารถในการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 TEUs ภายในปีนี้ หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีการขยายพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

ส่วนธุรกิจขนส่งทางรถ(BTS) ในปีนี้บริษัทฯคงเดินหน้าให้บริการขนส่งสินค้ามายัง BBT เช่นเคย และมีแผนที่จะขยายไปยังลูกค้ารายอื่นๆนอกเหนือจากนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทฯคาดว่าปีนี้การขนส่งทางรถจะมีไม่ต่ำกว่า 80,000 TEUs

 

 

 

 

ทั้งนี้ บริษัทฯยอมรับว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งบริษัทฯได้รับผลกระทบดังกล่าวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังประเทศจีนซึ่งเป็นคู้ค้ารายสำคัญได้มีการปิดท่ารือขนส่งตามประกาศของรัฐบาล อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในประเทศจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐบาลใช้ระยะเวลในการแก้ไขปัญหาเพียง1-2 เดือนเท่านั้น บริษัทฯจึงเชื่อว่าเดือนเมษายนนี้ ปริมาณการใช้เรือจากประเทศจีนจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งหลังถูกระงับการส่งสินค้ามานาน

 

 

ส่วนการส่งออกและนำเข้าทางฝั่งยุโรปและอมเริกายอมรับว่าได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าไรนักเนื่องจากบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากอมเริกาเพียง 5% เยอรมัน 4% ส่วนอิตาลี และสเปน 2% เท่านั้น ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลงภายในระยะเวลา 2-3เดือนนี้ ซึ่งเชื่อว่าครึ่งปีหลังปริมาณการนำเข้าและส่งออกสินค้าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง ขณะที่ปัญหาภัยแล้งบริษัทฯประเมินว่าสถานการณ์จะไม่รุนแรงมากนัก แต่หากไม่เป็นอย่างที่คาดไว้บริษัทฯก็มีแผนออกมาขุดลอกที่หน้าท่าเรือเพื่อให้ลึกขึ้นเพื่อเป็นการรับมือ

 

 


นายบัญชัย กล่าวเสริมว่า ถึงแม้ว่าปีนี้จะยังมีปัจจัยกดดันเศรษฐกิจ อย่างเช่นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 ที่กระทบกับภาพร่วมเศรษฐกิจแบบเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจัยนี้ยังคงประเมินผลกระทบได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯก็ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีมาตรการต่างๆเพื่อให้พนักงานปลอดภัยในการปฎิบัติงานและลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการเข้ามาติดต่องาน โดยบริษัทฯคาดว่าปีนี้บริษัทยังคงเติบโตในส่วนของกิจกรรมการขนส่งทางบกและยังคงเติบโตได้ในกิจกรรมท่าเรือชายฝั่งของบริษัทย่อย (บริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จำกัด) ซึ่งทั้งสองส่วนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว และมั่นใจว่าการเปิดให้บริการโครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ได้ในช่วงปลายปี 2563

 

 

โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย ในขณะที่โครงการ ท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่าน บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal) ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564ซึ่งทั้ง 2 โครงการนอกจากจะช่วยในการเติบโตและขยายฐานของบริษัทฯให้ใหญ่ขึ้น ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย

 

 

 

 

 

"สำหรับแผนการรับมือ โควิด-19 เบื้องต้นมองว่าอนามัยของพนักงานและคนที่มาติดต่อสำคัญที่สุดเราก็ได้มีการวางเจลแอลกอลฮอล์ตามจุดต่างๆที่มีการติดต่อกับผู้คน ส่วนในแง่ขอธุรกิจเราได้รับผลกระทบมาตั้งแตต่เดือนกุมภาพันธ์เพราะจีนปิดท่าเรือเป็นเวลาหนึ่งเดือนตอนนั้นโรงงานที่จีนก็ปิดด้วยทำให้การนำเข้าและส่งออกจากจีนของเราหายไป แต่เดือนมีนาคมเริ่มมีวอลุ่มเข้ามาบ้างต้องยอมรับว่ารัฐบาลของเค้าทำงานได้ค่อนข้างดีและรวดเร็วคาดว่าเดือนเมษายนวอลุ่มจะพีคที่สุดเลยและหลังอั้นมานานแต่ถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อนานเกินเราก็มีแผนที่จะออกมาปรับเป้าใหม่อีกครั้งครับ" นายบัญชัย กล่าว

 

 


ด้านนายวรวิทย์ เอื้อทรัพย์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า “สำหรับผลประกอบการปี 2562 ซึ่งบริษัทฯมีรายได้รวม 1,528.72 ล้านบาท ลดลง 1.87 % จากรายได้รวม 1,557.89 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 367.37 ล้านบาท ลดลง 7.79 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 109.04 ล้านบาท ลดลง 20.16 % จากกำไรสุทธิ 136.57 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยการชะลอตัวของการนำเข้า-ส่งออกจากสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดัน

 

 

 

 

อนึ่ง บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบ วงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการตั้งแต่

 

1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot)

 

2.ธุรกิจการให้บริการขนส่ง ตู้คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง

 

3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม

 

4.ธุรกิจการให้บริการ เกี่ยวเนื่องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น

 

 

PORT

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้