Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : BCPG อัดงบ 3.44 พันลบ. ลุยโรงไฟฟ้าพลังน้ำฯ 45 MW ในสปป.ลาว

6,324

HotNews : BCPG อัดงบ 3.44 พันลบ. ลุยโรงไฟฟ้าพลังน้ำฯ 45 MW ใน สปป.ลาว

 

 

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) BCPG เดินหน้าขยายธุรกิจพลังน้ำในลาว ด้วยการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ในเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นแห่งที่ 2  ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในลาวเพิ่มเป็น 114 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้ทันที พร้อมเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเวียดนาม รองรับการขายไฟให้การไฟฟ้าเวียดนามขนาด 500 เมกะวัตต์ หลังเปลี่ยนสัญญาจากการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าลาว เป็นการไฟฟ้าเวียดนามในปี 2565 ส่งผลให้แผนการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV  มีรายได้เติบโต มั่นคง ในระยะยาว

 

 

 

 

 

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B Power Sole Co., Ltd. ระหว่างบริษัท บีซีพีจี อินโดไชน่า จำกัด (BIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบีซีพีจี ดำเนินกิจการลงทุนโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV กับบริษัท Phongsubthavy Roads and Bridges Construction and Irrigation (PSG)

 

 

ซึ่งการลงนามสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 ที่อนุมัติให้ BIC เข้าซื้อหุ้นทั้งหมด ใน Nam San 3B Power ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียนจัดตั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้า 27 ปี นับตั้งแต่วันเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อ 25 สิงหาคม 2558 นอกจากนี้ โครงการ Nam San 3B ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (EVN) เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ EVN แทนการขายไฟฟ้าให้กับ EDL เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ทำให้ Nam San 3B ได้รับการขยายเวลาจำหน่ายไฟฟ้าจากปี 2585 เป็นปี 2590 เช่นเดียวกับโครงการ Nam San 3A ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนไปก่อนหน้านี้

 


ทั้งนี้ บีซีพีจีจะใช้เงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B รวมทั้งสิ้น 113 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,447 ล้านบาท โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเริ่มรับรู้รายได้ทันทีหลังการเข้าลงทุน

 

 

 


นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท BIC ร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท PSG ในการก่อสร้าง และดำเนินการกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า จากโครงการ Nam San 3A และ Nam San 3B ไปยังจุดเชื่อมต่อที่ชายแดนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยสายส่งดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 79 กิโลเมตร สามารถรองรับการขายไฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้กว่า 500 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบัน PSG อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอีกกว่า 400 เมกะวัตต์ เพื่อเชื่อมต่อกับสายส่งนี้ และจำหน่ายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้มีสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว ภายใต้กรอบสัญญาระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ

 

 

สำหรับเงินลงทุนในการก่อสร้างและดำเนินการกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า ในเบื้องต้นอยู่ที่ 10.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 305 ล้านบาท

 

 

 


“การลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ อาทิสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และขายไฟฟ้าให้กับประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งจะช่วยทำให้รายได้ของบริษัทฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศใกล้เคียง ที่ต้องการผู้ร่วมทุนที่มีความพร้อมในการลงทุน และประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจที่มีมาตรฐานสากล นับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV ให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้”

 

 

“การลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำในครั้งนี้ ช่วยสร้างสมดุลของความหลากหลายของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ และเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าที่มีรายได้ที่มั่นคง ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่คุ้มค่า ทำให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นมีความมั่นคงมากขึ้น” นายบัณฑิตกล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายกำลังผลิตรวม 520 เมกะวัตต์ (ตามสัดส่วนการถือหุ้น) ภายในปี 2567 เพิ่มขึ้น 29% จากสิ้นปี 2562 ที่คาดว่าจะมีกำลังผลิตอยู่ที่ 404 เมกะวัตต์ จาก 6 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ (1) โครงการ Solar Rooftop ในไทย ขนาด 12 เมกะวัตต์ เริ่มผลิตไฟฟ้าปี 2563 (2) โครงการ Solar ในญี่ปุ่น 3 โครงการใน Komagane, Chiba และ Yabuki กำลังผลิตรวม 75 เมกะวัตต์ ทยอยเริ่มผลิตไฟฟ้าระหว่างปี 2564 - 2566

 

 

อย่างไรก็ตามแนวโน้ม 4Q62 อ่อนตัว QoQ แต่กำไรปกติปี 62 ยังเติบโต รายได้จากธุรกิจเดิม (โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม) เข้าสู่ Low season รวมไปถึงโรงไฟฟ้า Geothermal มีแผนหยุดซ่อมเพิ่มขึ้นจาก 3Q62 เป็นปัจจัยลบต่อผลประกอบการ แม้บริษัทจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการลีกอร์ กำลังผลิต 9 เมกะวัตต์ และรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว กำลังผลิต 69 เมกะวัตต์ โดยก่อนหน้านี้บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 9M62 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท คิดเป็น 78% ของประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 2562 ที่เราประเมินไว้ที่ 1.67 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6%YoY

 

 

บริษัทเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพ (Geothermal) ในอินโดนีเชียตั้งแต่ ก.ค. 2560 จากบริษัท Star Energy Group Holdings Pte. โดยบริษัทถือหุ้นในโครงการ Wayang Windu ในสัดส่วน 20% และโครงการ Salak กับ Darajat ในสัดส่วนโครงการละ 17.3% โดยประเทศอินโดนีเซีย รวมเทียบเท่า 995 เมกะวัตต์ (100%) ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ Geothermal ได้มากถึง 20,000 - 25,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการผลิต 1,340 เมกะวัตต์ (อันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐญ และฟิลิปปินส์) จากโครงการทั้งที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรวม 4,160 เมกะวัตต์

 

 

จากการเข้าเยี่ยมชนโรงไฟฟ้า Geothermal ในประเทศอินโดนีเซีย โครงการ Wayang Windu (BCPG ถือหุ้นในสัดส่วน 20%) กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 347 เมกะวัตต์ (100%X เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 227 เมกะวัตต์ (100%) เป็นโครงการที่ผลิตเฉพาะกระแสไฟฟ้า จำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้ ให้แก่การไฟฟ้าอินโดนีเซีย (PLN) ภายใต้สัญญารับซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวอายุสัญญา 30 ปี นับตั้งแต่หน่วยผลิตสุดท้ายเริ่มดำเนินการผลิต โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาเพิ่มอีก 2 หน่วย (Unit 3 และ 4) กำลังผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2565 และ 2567 ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่คาดว่าจะเริ่มในปี 2563 และ 2565

 



ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ "BUY" ราคาเป้าหมาย 21 บาท/หุ้น

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Microsoft ลงทุนไทย By: แม่มดน้อย

ภาพรวมหุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา แกว่งตัวซิกแซกขึ้น สงสัยตอบรับข่าวดี Microsoft ลงทุนไทย....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้