HotNews : GUNKUL ตั้งธงปี 63 รายได้นิวไฮสู่ 1 หมื่นลบ.

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 พฤศจิกายน 2562) GUNKUL ส่งสัญญาณกำไรปี 62 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากรายได้จากการขายไฟฟ้าโครงการกังหันลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ COD ไปกว่า 400 เมกะวัตต์เติบโตเท่าตัว  “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” เผยเตรียมร่วมประมูลโครงการใหม่อีกเพียบ เพื่อเสริมศักยภาพรายได้และกำไรกลุ่มบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากกว่าที่เป็นอยู่

 

 

ด้าน "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ขุนศึก GUNKUL คาดปี 63 รายได้นิวไฮสู่ 1 หมื่นลบ. หลัง COD โซลาร์เพิ่ม 120 MW - แผน PDP ใหม่หนุน - รับรู้งาน EPC ต่อเนื่อง ระบุปัจจุบันตุน Backlog ในมือ 1 หมื่นลบ. รับรู้ปีหน้า 4 พันลบ. ขณะที่ปี 63 เล็งเข้าประมูลงานใหม่ 1.5 หมื่นลบ. หวังได้งาน 5 พันลบ.

 

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2562 ของกลุ่มบริษัทฯ ว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ได้ COD ไปก่อนหน้านี้กว่า 400 เมกะวัตต์ รวมถึงธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ที่ยังเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี

 

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ซึ่งหากได้งานจะส่งผลต่อรายได้และกำไรของกลุ่มบริษัทฯ ให้เติบโตและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ใน 2 ปี ข้างหน้า

 

 

“หลังจากที่บริษัทย่อยของ GUNKUL ได้เข้าซื้อหุ้นของ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล หรือ FEC ที่เน้นรับงานรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า ทำให้เห็นว่าการลงทุนดังกล่าวได้สร้างมูลค่าและเสริมศักยภาพให้กลุ่มบริษัทฯ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า และช่วยส่งเสริมให้กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สิน ผลกำไร และกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยเชื่อว่านับต่อจากนี้กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการใหม่ๆเข้ามาหนุนรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะได้เห็นการเติบโตทุกไตรมาส” นางสาวโศภชากล่าว

 

 

อย่างไรก็ตาม GUNKUL ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ได้เป้าหมายเมกะวัตต์สะสมไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564 จากปัจจุบัน มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือรวมกันแล้วประมาณ 600 เมกะวัตต์

 

 

ด้านนายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2563 แตะระดับ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20-25% จากปีนี้คาดทำได้ 7,000 ล้านบาท

 

 

ซึ่งเป็นการเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังบริษัทฯเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าโซลาร์เพิ่มเข้ามาอีก 120 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ในประเทศเวียดนาม 50 เมกะวัตต์ โครงโซลาร์รูฟท็อปของภาคเอกชน 30 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ประเทศมาเลเซีย 37 เมกะวัตต์ รวมในปีหน้าจะมีการปรับแผน Power Development Plan (PDP) ใหม่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนเช่นกัน

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีงานในมือ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 8,000 ล้านบาท และขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานโครงการสายเคเบิ้ลใต้น้ำที่เกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะหยี๋ มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาทที่จะประกาศผลในเร็วๆนี้ ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะได้รับงานจากโครงการดังกล่าว และสนับสนุนให้สิ้นปี 2562 บริษัทฯมี Backlog ทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า 4,000 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยปีหน้ามีแผนเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานการสถานีสายส่ง และสายไฟลงดิน 10,000 ล้านบาท และงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ) 5,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯคาดหวังที่จะได้รับงาน 5,000 ล้านบาท จากมูลค่างานทั้งหมด

 

 

ด้านความคืบหน้าโครงการพลังงานลมในประเทศเวียดนามปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาร่วมกับพันทมิตร 2-3 ราย ส่วนโครงการลมในประเทศไต้หวัน ปัจจุบันได้มีความคืบหน้าพอสมควรซึ่งบริษัทฯอยุ่ระหว่างศึกษาและพิจารณาว่าจะสามารถทำพลังงานลมนอกชายฝั่ง(ออฟชอร์ )ได้หรือไม่ หรือจะเปลี่ยนแผนมาทำบนชายฝั่นแทน ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบทันที

 

 

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ประเทศเมียนมาร์ บริษัทฯยังไม่ได้โฟกัสมากนักในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้ตะเริ่มทำการศึกษามากขึ้นหลังมองว่ารัฐบาลเมียนมาร์จะมีการทยอยปล่อยโครงการ ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทฯจะเข้าไปลงทุนในอนาคต

 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานในปี 2563 จะเหลือเพียง 60-65% จากปัจจุบัน 80% หลังมีงานในมือ (Backlog) จากธุรกิจก่อสร้างเข้ามาค่อนข้างมาก

 

 

GUNKUL