Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : ORI ปี63 ดันยอดขายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นลบ. ลุยเปิดโครงการใหม่ 2.9 หมื่นลบ.

2,569


HotNews : ORI ปี 63 ดันยอดขายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นลบ. ลุยเปิดโครงการใหม่ 2.9 หมื่นลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 พฤศจิกายน 2562) ORI คาดยอดขายปี 63 ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นลบ. หลังมีแผนลุยเปิดโครงการใหม่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2.9 หมื่นลบ. พร้อมเตรียมนำ บ.ย่อย "พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น" เข้าตลาด mai ปลายปี 63 โบรกฯ คงกำไรปกติปี 2019 ที่ 2.7 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน นับว่ายังทำได้ดีเมื่อเทียบกับกลุ่ม แนะซื้อ เป้า 8.50 บาท

 

 

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ปี 2563 จะไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทฯมีแผนเปิดโครงใหม่มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 29,000 ล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทฯจะเน้นเปิดบ้านจัดสรรเพิ่มเป็น40% ของพอร์ต จากปัจจุบันอยู่ที่ 30%

 

 


ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทฯมองว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวจากปีนี้เล็กน้อย หลังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการจากทางภาครัฐที่ได้ประกาศมาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย (มาตรการลดภาระฯ) เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม

 

 

 


"ปีหน้าเรามองว่าจะดีกว่าปีนี้นิดนึง เพราะได้มาตรการรัฐมาช่วยซึ่งทำปลุกตลาดอสังหากลับมาคึกคักอีกคนั้ง แถมสิ้นปีหน้าจะมีออกมาอีก และต่อไปเราก็ใช้กลยุทธ์ทำความเข้าใจในตัวลูกค้าว่าต้องการอะไร เพื่อให้เหมาะสมกับคนในพื้นที่นั้นๆรวมถึงปรับปรุงทุกโครงการที่ออกมาเพื่อเป็นการต่อยอดอีก ที่สำคัญเราจะเน้นเรียลดีมาต์มากขึ้น" นายพีระพงศ์ กล่าว

 

 

 


อย่างไรก็ตาม บริษัทฯวางงบลงทุนไว้ปีละ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับรองรับโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านจัดสรร รวมทั้งใช้สำหรับซื้อที่ดินรองรับพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่งบลงทุนสำหรับโรงแรม บริษัทฯวางไว้ปีละ 500-1,000 ล้านบาทสำหรับ ภาพรวมผลการดำเนิงานในปี 2562 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำยอดขาย(Presale) ได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 28,000 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถทำได้แล้ว 23,148 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83% ของเป้าทั้งหมดส่วนรายได้คาดว่าจะทำได้ตามเป้า 19,000 ล้านบาท ด้วยเช่นกัน

 

 

 


ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายรอโอน(Backlog) อยู่ที่ 40,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในระยะเวลา 3 ปี (2563-2565) ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯทีสต็อกพร้อมขาย จำนวน 8,000-9,000 ล้านบาม โดยในมูลค่าดังกล่าวมีโครงการที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทประมาณ 60-70% ซึ่งมองว่าได้รัยประโยชน์จากมาตรภาครัฐ ส่วนรายได้ประจำของบริษัทฯจะมาจากเปิดโรงแรม 2 แห่ง ในช่วงมกราคม 2563 ได้แก่ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ และ โรงแรมไอบิส โดยปีหน้าบริษัทฯจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี ขณะที่ ความคืบหน้าในการนำ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯที่ประกอบธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ350 ล้านบาท และบริษัทฯคาดว่าจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 2563

 

 


ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท อิง 2020E PER ที่ 7.3 เท่า (-0.75SD below 4-yr average PER) ORI รายงานกำไรปกติ 3Q19 ที่ 652 ล้านบาท +13% YoY, +13% QoQ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 687 ล้านบาท -23% YoY, -7% QoQ ใกล้เคียงกับที่เราและ consensus คาด ดังนั้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติ 2019E ที่ 2.7 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ดีกว่ากลุ่มที่กำไรปรับตัวลดลง โดยกำไรปกติ 4Q19E จะทำสุดสูงสุดของปี ส่วนปี 2020E ประเมินกำไรปกติที่ 2.9 พันล้านบาท +7% YoY ซึ่งจะยังคงเติบโตได้ดีกว่ากลุ่ม เนื่องจากจะมีคอนโดใหม่เริ่มโอนเพิ่มมากขึ้น

 

 

 

ราคาหุ้นปรับตัว -13% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อตลาดอสังหาฯ ที่ชะลอตัวมากกว่าคาด ทั้งนี้ เรายังมองเป็นโอกาส ซื้อ จากกำไรปกติ 3Q19 ที่ดีขึ้น และแนวโน้มกำไรปกติ 4Q19E ยังคงเติบโตทำจุดสูงสุดของปี เนื่องจากมีโครงการใหม่เริ่มโอนมากขึ้น ปัจจุบันมี backlog รอโอนปีนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 90% จากรายได้ที่เราประเมิน ขณะที่ presales ปีนี้จะยังเติบโตได้และมีโอกาสทำได้สูงกว่าเป้าหมาย สำหรับราคาหุ้นปัจจุบัน valuation กลับต่ำสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ 2019PER ที่ 5.3 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 6.5 เท่า

 

 

 

กำไรปกติ 3Q19 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ORI รายงานกำไรสุทธิ 3Q19 ที่ 687 ล้านบาท (-23% YoY, -7% QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาดไว้ โดยมีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 35 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าวจะมีกำไรปกติ 652 ล้านบาท เทียบฐานกำไรปกติ +13% YoY และ +13% QoQ (3Q18 มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 315 ล้านบาท และ 2Q19 มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 59 ล้านบาท

 

 

 

และรายได้จากเงินมัดจำรับจากการยกเลิกสัญญาจองราว 100 ล้านบาท) โดยกำไรปกติ 3Q19 ได้ผลบวกจากยอดโอนที่ยังทำได้ดีราว 3.15 พันล้านบาท (-2% YoY, +12% QoQ) เนื่องจากโครงการเดิมที่เริ่มโอนในช่วงปลาย 2Q19 โอนได้มากขึ้นใน 3Q19 และมีคอนโดใหม่เริ่มโอนโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn ที่มีมูลค่าโครงการสูง 3.9 พันล้านบาท เริ่มโอนช่วงปลาย 3Q19 ด้านอัตรากำไรขั้นต้นยังโดดเด่นที่ 43.0% ดีขึ้นจาก 3Q18 = 40.4% และใกล้เคียงกับ 2Q19 = 42.9%

 

 



ยังคงกำไรปกติปี 2019E/20E และทำได้ดีกว่ากลุ่ม โดยกำไรปกติ 4Q19E จะทำจุดสูงสุดของปีนี้ เรายังคงกำไรปกติปี 2019E ที่ 2.7 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน นับว่ายังทำได้ดีเมื่อเทียบกับกลุ่ม และกำไรปกติ 4Q19E จะทำจุดสูงสุดของปีนี้ จากการโอนคอนโด Knightsbridge Prime Sathorn ได้มากขึ้น และจะมีโครงการใหม่โอนเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่จะมีการเปิดขายโครงการใหม่ รวมถึงจะได้ผลบวกมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ สำหรับปี 2020E คาดกำไรปกติที่ 2.9 พันล้านบาท +7% YoY ซึ่งจะยังคงเติบโตได้ดีกว่ากลุ่ม เนื่องจากจะมีคอนโดใหม่เริ่มโอนเพิ่มมากขึ้น

 

 

 


ประเมินราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 8.50 บาท อิง PER 7.3 เท่า (-0.75SD below average PER) กำไรปกติจะยังเติบโตต่อเนื่องใน 4Q19E และปี 2019E จากคอนโดใหม่ที่เริ่มโอนมากขึ้น และจะได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

 

 

ORI

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้