Today’s NEWS FEED

News Feed

HOTNEWS : 7 เซียนเจาะ TISCO หลังโค้ง 2 ประกาศกำไร 1.79 พันลบ.

2,399

HotNews : 7 เซียนเจาะ TISCO หลังโค้ง 2 ประกาศกำไร 1.79 พันลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (11 กรกฎาคม 2562) ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ รวบรวมความเห็นของ 7 เซียนหุ้นที่มีต่อหุ้น TISCO หลังรายงานผลประกอบการงวดครึ่งแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิจำนวน 3,528 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 2/2562 มีจำนวน 1,798 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.2% หลังตั้งสำรองหนี้สูญลดลง

 

 

 

 

 

 

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 3,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.2%

 

 

เนื่องจากภาระการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง ตามระดับสำรองส่วนเกินที่มีเพียงพอ ส่วนรายได้จากธุรกิจหลักชะลอตัวลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์เกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อที่เข้มงวดขึ้น และสภาวะตลาดทุนที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม กลุ่มทิสโก้ยังสามารถรักษาระดับอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ให้อยู่ในระดับสูงที่ 19% ขณะที่ยังมีระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) สูงถึง 23.4%

 

 

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ยังคงเดินหน้าขยายการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ภายใต้การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ผ่านความร่วมมือระหว่างสายงาน และความร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือ (Cross-selling) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่จากนี้จะเห็นความชัดเจนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

“กลุ่มทิสโก้ยังคงดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ ในการเป็นผู้ให้คำแนะนำทางการเงินที่ดีแก่ลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งด้านการเงินการลงทุน การประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงคุณภาพชีวิตหลังเกษียณ เพราะตอนนี้โจทย์ความต้องการของลูกค้ามีมากขึ้น ไม่ใช่แค่การสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น แต่ยังต้องการดูแลเรื่องการบริหารควาามเสี่ยงในทุกช่วงของชีวิตด้วย ที่ผ่านมาทิสโก้มีแนวทางที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี มีความหลากหลายและตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างตรงจุด และเรายังเน้นการฝึกอบรมให้ความรู้พนักงานอย่างเข้มข้นให้สามารถแนะนำลูกค้าได้อย่างผู้เชี่ยวชาญ นอกเหนือจากความครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นธรรม ตามหลัก Market Conduct ของทางการ ซึ่งในครึ่งปีหลังก็จะมีผลิตภัณฑ์ดีๆ ทยอยออกมาแนะนำลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” นายสุทัศน์ กล่าว

 

 

 

 

 


ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้งวดไตรมาส 2 ของปี 2562 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง โดยในไตรมาสนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลงจากการโอนขายสินเชื่อส่วนบุคคล และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัวลง ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับธุรกิจตลาดทุนตามสภาวะตลาดทุนที่ผันผวน ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตามกลยุทธ์ Cross-selling และการมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์ของพนักงานที่เพิ่มขึ้นและค่าบริจาคเงินการกุศล ทั้งนี้ บริษัทตั้งสำรองหนี้สูญลดลงตามคุณภาพของสินเชื่อ และระดับสำรองส่วนเกินที่เพียงพอ

 

 

สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นจำนวน 3,528 ล้านบาท จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง โดยรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุนชะลอตัวลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น จากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานเกษียณอายุตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่เมื่อไตรมาส 1 ปี 2562

 

 

 

 

สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 มีจำนวน 241,215 ล้านบาท อ่อนตัวลง 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อย่างไรก็ดี ธุรกิจหลักของกลุ่มทิสโก้ยังคงสามารถเติบโตได้ดี ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งขยายตัว 0.7% ตามอุปสงค์ในประเทศที่เติบโต ประกอบกับสินเชื่อจำนำทะเบียน ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 4.9% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจและการขยายสาขาสำนักอำนวยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเป็นผลตามฤดูกาล ในขณะที่บริษัทยังคงรักษาระดับเงินสำรองหนี้สูญที่เพียงพอ โดยอัตราส่วนของเงินสำรองรวมของธนาคารต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงสูงถึง 209%

 

 

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 23.4% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.5% และ 5.0% ตามลำดับ

 

 

 

 

 

 

 

ด้านบริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

 

ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของ TISCO ใน 2Q62 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (+4% QoQ และ +5% YoY) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเราและ consensus แม้ว่ากำไรสุทธิจะเป็นไปตามคาด แต่กำไรจากธุรกิจหลักต่ำกว่าคาดเนื่องจากรายได้หลักลดลง และมีค่าใช้จ่ายพิเศษ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลประกอบการงวด 1H62 คิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรและคำแนะนำเอาไว้เหมือนเดิม

 

 

กำไรสุทธิของ TISCO ใน 2Q62 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (+4% QoQ และ +5% YoY) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเราและ consensus ในขณะที่กำไรสุทธิงวด 1H62 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (คิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรปีนี้ทั้งปีของเรา)

 

 

กำไรจากธุรกิจหลักที่ต่ำกว่าคาดเป็นผลจาก

 

1.) รายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ในตลาดเงินลดลงและ รายได้ค่าธรรมเนียมสินเชื่อต่ำกว่าคาด

2.) มีค่าใช้จ่ายพิเศษ 59 ล้านบาทจากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเกษียณ และค่าใช้จ่ายบริจาคก้อนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารพยายามสร้างสมดุลให้ผลประกอบการ 2Q62 ด้วยค่าลดค่าใช้จ่ายในการกันสำรองลง โดยคิดเป็นต้นทุนการตั้งสำรอง/สินเชื่อ (credit cost) แค่ 18bps (จาก 25bps ใน 1Q62, 90bps ใน 2Q62) ซึ่งการลด credit cost ลงในช่วงที่ NPL กำลังเพิ่มขึ้นส่งผลให้สัดส่วน NPL coverage ลดลงเล็กน้อยเป็น 155% ใน 2Q62 (จาก 158% ใน 1Q62)

 

 


NPL เพิ่มขึ้นติดต่อกันสามไตรมาสแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อ yield สูง (รวมสินเชื่อ car-for-cash และ home-for-cash ด้วย) โดยรวมแล้ว gross NPL เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 20% YoY ซึ่ง NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 19% YoY โดยสัดส่วน segment NPL อยู่ที่ 2.8% ในขณะที่ NPL ของสินเชื่อ yield สูงเพิ่มขึ้น 8% QoQ และ 112% YoY โดยสัดส่วน segment NPL อยู่ที่ 6.5%

 

 

Yield สินเชื่อลดลงเล็กน้อยเกือบ 10bps เนื่องจาก yield จากการปล่อยกู้ในตลาดเงินลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงก็ช่วยชดเชยไปได้ ในขณะที่ NIM ก็ทรงตัวอยู่ที่ 3.9%

 

 

สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (+1.6% YoY) โดยส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อ yield สูง (+10% YoY) ในขณะที่สินเชื่อกลุ่มอื่น ๆ ยังคงหดตัว

 

 

เนื่องจากผลประกอบการงวด 1H62 คิดเป็น 51% ของประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของเรา และ NPL ที่ผันผวนก็ไม่ได้ทำให้นโยบายการกันสำรองในปีนี้เปลี่ยนไป ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรและคำแนะนำเอาไว้เหมือนเดิม

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า TISCO

 

รายงานกำไรสุทธิ 2Q62 เท่ากับ 1.8 พันล้านบาท (+5.2%YoY, +4%QoQ) เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ธนาคารมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงกว่าคาด เพราะมีรายการจ่ายพิเศษ คือ มีการปรับเพิ่มผลตอบแทนพนักงาน ตั้งสำรองผลตอบแทนพนักงานตามกฎหมายใหม่เพิ่ม 59 ล้านบาท (หลังตั้งไปแล้ว 213 ล้านบาทใน 1Q62) และบริจาคเพื่อการกุศลเนื่องในครบรอบ 50 ปี แต่ก็ตั้งสำรองฯน้อยลง กำไรสุทธิ 1H62 คิดเป็น 46% ของประมาณการทั้งปี สินเชื่อสิ้นมิ.ย.62 เติบโต 0.2%YTD (+1.6%YoY, -0.2%QoQ) โดยหลักเป็นการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำ

 

 

ทั้งนี้สินเชื่อเช่าซื้อ +0.7%QoQ สินเชื่อจำนำ +2.7%QoQ แต่สินเชื่อที่พักอาศัยและสินเชื่อโครงการที่พักอาศัยลดลงต่อในไตรมาสนี้ด้าน NPL สิ้น 2Q62 เพิ่มขึ้น 5.5%QoQ เพราะการปรับระบบการจัดชั้นหนี้ ทำให้ NPL ratio เพิ่มเป็น 3.19% จาก 3.02% ในสิ้น 1Q62 ส่วน Coverage ratio ลดลงจากสินเชื่อเติบโตและตั้งสำรองฯใน 2Q62 ลดลง แต่ก็ยังสูงที่ 147% คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 102 บาท คาดการณ์ Dividend Yield ปี 62 ไว้ที่ 6% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) ทั้งนี้ราคาพื้นฐานนั้นเทียบเท่ากับ P/BV ปีนี้ที่ 2.0 เท่า

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด

 

ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ยังคงคำแนะนำ "ถือ" TISCO ที่ราคาเป้าหมาย 94.00 บาท อิง P/BV ที่ 1.9x เทียบเท่า +1.25SD ของค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี เนื่องจากกำไรสุทธิในปีนี้เติบโตน้อย และทิศทางของ NPL กลับดูน่าเป็นห่วงอีกครั้ง แต่ TISCO มีโอกาสที่จะ maintain จำนวนเงินปันผลในปีนี้เท่ากับปีก่อนที่ระดับ 7 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร

 

 

โดย TISCO ประกาศกำไรสุทธิใน 2Q19 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +2% YoY และ +4% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยการเติบโตที่ยังเพิ่มขึ้นได้ทั้ง YoY และ QoQ มาจากการตั้งสำรองที่ระดับต่ำกว่าที่เราคาดไว้มาก แต่ถูกชดเชยไปกับค่าใช้จ่ายพิเศษที่มากกว่าคาด ในส่วนของ NPL มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.19% จาก 3.02% ใน 1Q19 เนื่องจากลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อมีการชำระเงินล่าช้า ส่งผลให้ Coverage ratio มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 147% จาก 159% ในไตรมาสก่อน

 

 

ทั้งนี้ เรายังคงกำไรสุทธิปี 2019 และคาด 2H19 มีโอกาสอ่อนตัวลงจากการกลับมาตั้งสำรองฯที่ระดับปกติ แต่อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิที่เราคาดไว้มีโอกาสที่จะมี upside เพิ่มเติม หาก TISCO มีการตั้งสำรองฯที่ต่ำกว่าคาดกำไรสุทธิ 2Q19 เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด TISCO ประกาศกำไรสุทธิใน 2Q19 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +2% YoY และ +4% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด โดยการเติบโตที่ยังเพิ่มขึ้นได้ทั้ง YoY และ QoQ มาจากการตั้งสำรองที่ระดับต่ำกว่าที่เราคาดไว้มาก โดยคิดเป็น Credit cost เพียง 19bps ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 26bps (เป้าทั้งปีที่เราให้ไว้ที่ 60bps)

 

 

ขณะที่ไตรมาสนี้มีค่าใช้จ่ายเข้ามาเยอะมากกว่าคาดจากการตั้ง employee benefit เพิ่มเติมอีก 59 ล้านบาท จาก 1Q19 ที่ตั้งไปแล้ว 213 ล้านบาท เพราะมีการปรับปรุงสมมติฐานใหม่ ประกอบกับ มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการบริจาคเนื่องจากครบรอบ 50 ปี อีกจำนวน 48 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจหลักของธนาคารยังคงทรงตัว โดยสินเชื่อรวมใน 2Q19 เติบโตได้เพียง +0.4% YTD แต่ NIM ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.24% จากไตรมาสก่อนที่ 4.19% เนื่องจากปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ลดลง แต่เน้นการปล่อยสินเชื่อในรายย่อยเพิ่มขึ้น

 

 

โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อบ้าน ในส่วนของ NPL มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.19% จาก 3.02% ใน 1Q19 เนื่องจากลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อมีการชำระเงินล่าช้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Seasonality ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอมและมีวันหยุดยาวหลายวันติดกัน ส่งผลให้ Coverage ratio มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 147% จาก 159% ในไตรมาสก่อน

 

 


คงกำไรสุทธิปี 2019 และคาด 2H19 มีโอกาสอ่อนตัวลงจากการกลับมาตั้งสำรองฯที่ระดับปกติ กำไรสุทธิใน 1H19 คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี เราจึงยังคงประมาณการโดยคาดกำไรสุทธิในปี 2019 จะอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง +4.4% YoY โดยเราคาดว่า แนวโน้มกำไรใน 2H19 มีโอกาสชะลอตัวลง เพราะเราคาดว่าจะกลับมาตั้งสำรองฯที่ระดับปกติที่ระดับ credit cost ที่ราว 60bps

 

 

แต่อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิที่เราคาดไว้มีโอกาสที่จะมี upside เพิ่มเติม หาก TISCO มีการตั้งสำรองฯที่ต่ำกว่าคาด ราคาเป้าหมายที่ 94.00 บาท อิง P/BV ที่ 1.9x เทียบเท่า +1.25SD ของค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี เนื่องจากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะทรงตัวในปีนี้ ประกอบกับ TISCO มีโอกาสที่จะ maintain จำนวนเงินปันผลในปีนี้เท่ากับปีก่อนที่ระดับ 7 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยคิดเป็น Dividend yield ที่ระดับสูงถึง 7% แต่อย่างไรก็ดี ทิศทางของ NPL กลับดูน่าเป็นห่วงอีกครั้ง แต่เราเชื่อว่าระบบการจ่ายเงินในสินเชื่อ Auto cash น่าจะเสร็จสิ้นใน 3Q19 ซึ่งจะทำให้ NPL มีโอกาสหยุดการเพิ่มขึ้นได้

 

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

 

ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า TISCO ประกาศกำไร 2Q62 ที่ 1,798 ลบ.เพิ่มขึ้น 5.2% YoY สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองที่ลดลง 423 ลบ. หรือ ลดลงถึง 79% YoY จากการปรับลดระดับสำรองส่วนเกิน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากการโอนขายสินเชื่อบุคคลซึ่งมี Yield สูง ทางด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักลดลงเช่นกันทั้งจากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจตลาดทุน ในส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.2% YoY จากค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์พนักงานและค่าบริจาคเงินการกุศล หากเทียบผลการดำเนินงานกับงวดไตรมาสก่อนก็มีกำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4% QoQ สินเชื่อ 2Q62 อยู่ที่ 2.4 แสนลบ. ลดลง 0.2% QoQ สาเหตุหลักมาจากการชำระคืนหนี้ของสินเชื่อธุรกิจ SME ปัจจุบันยังคงเน้นสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก

 

 

โดยสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย ต่อสินเชื่อธุรกิจและ SME อยู่ที่ 80:20 ทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL ณ สิ้น 2Q62 อยู่ที่ 7.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 5.5% QoQ เพราะผลกระทบต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการจัดชั้นสินเชื่อเมื่อสิ้นปี 61 ประกอบกับสินเชื่อเช่าซื้อได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการชำระเงินล่าช้าเป็นผลตามฤดูกาลในช่วง Q2 ที่มีวัดหยุดยาวติดต่อกันหลายช่วง

 

 

ทั้งนี้ % NPL / สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.19% จาก 3.02% ณ 1Q62 โดยสำรองต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ ธปท.อยู่ที่ 209% ขณะที่ Coverage Ratio (LLR/NPL) อยู่ที่ 147% ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จากการที่ TISCO มีการปรับลดระดับส่วนเกินลงบางส่วนต่อเนื่อง  ผลประกอบการที่ออกมาถือว่าใกล้เคียงคาด (ดีกว่าคาด 2%) กำไร 1H62 คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปีของเรา ทั้งนี้กำไรที่ออกมาโตเล็กน้อยไม่ได้มาจากธุรกิจหลักแต่มาจากการลดสำรองส่วนเกิน และราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่า จึงแนะนำ "เปลี่ยนตัวลงทุน" ไปซื้อ "KKP" ซึ่งคาดว่ากำไร 2Q62 จะออกมาโดดเด่น ประกอบกับธุรกิจทางด้านตลาดทุนน่าจะหนุนกำไรของ KKP ในปีนี้ให้เติบโตดีด้วย

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)

คงคำแนะนำ "เก็งกำไร"  TISCO ด้วยราคาเหมาะสม 88.0 บาท เชิงปัจจัยพื้นฐาน เราคาดแนวโน้มกำไร 2H62 สดใสกว่า 1H62 คาดกำไร 3Q62 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยการเติบโต YoY หนุนจากการลดลงของ Credit cost เพราะในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า TISCO ตั้งสำรองสูงเพื่อเร่งเพิ่มปริมาณสำรองส่วนเกิน ขณะที่การเติบโต QoQ หนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง พร้อมกับคาดกำไรทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q62 สำหรับแนวโน้มกำไรปี 2563 คาดเติบโตต่อเนื่อง 5% YoY ด้วยแผนกลับมารุกตลาดสินเชื่อรถยนต์ ซึ่ง TISCO มีความถนัด ผสานกับแผนคุมค่าใช้จ่ายตั้งสำรอง และค่าใช้จ่ายพนักงาน เชิงกลยุทธ์ เรามองว่าราคาหุ้นอาจตอบรับเชิงลบต่อผลการดำเนินงานเป็นไปตามคาด และความผิดหวังต่อคุณภาพสินทรัพย์แย่ลง เราคงคำแนะนำ "เก็งกำไร" ด้วยราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 88.0 บาท ด้วย TISCO มีปันผลเด่น คาด 7.0 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend yield ราว 7.4%

 

 

 


บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า กำไรเพิ่มขึ้น y-y และ q-q : โดยมีกำไร 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% y-y เนื่องจากการตั้งสำรอง และค่าใช้จ่ายลดลง ถึงแม้ว่ารายได้ทั้งรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะลดลง และเพิ่มขึ้น 4% q-q จากการตั้งสำรองที่ลดลงด้วย และมีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น สินเชื่อกลับมาหดตัวจากสินเชื่อ SME: สินเชื่อของ TISCO ในไตรมาสนี้หดตัวลง 0.1% q-q และทำให้สินเชื่อเติบโตจากสิ้นปี 61 เหลือ 0.36% ytd

 

 

โดยสินเชื่อ SME เป็นสินเชื่อหลักที่ทำให้สินเชื่อของ TISCO หดตัวลง โดยลดลง 12.5% q-q ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจเติบโต 2.1% q-q และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 0.5% q-q คงประมาณการ ปรับราคาพื้นฐานเป็น 103.50 บาท แนะนำ "ทยอยซื้อ" : ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 62 ของ TISCO ไว้ที่ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% y-y ถึงแม้ว่าสินเชื่อในไตรมาสนี้จะหดตัว แต่ยังคาดว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่สินเชื่อของ TISCO นั้นกลับมาเติบโตหลังหดตัวต่อเนื่องมาหลายปี นอกจากนี้ TISCO ยังเป็นธนาคารที่มีปันผลโดดเด่น ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 63 ที่ 103.50 บาท ยังคงแนะนำ "ทยอยซื้อ"

หมายเหตุ : กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

 

 

 

 



บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน)

 

ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า TISCO รายงานกำไรสุทธิ 2Q62 ที่ 1,798 ลบ. +5%YoY, +4%QoQ หลักๆมาจาก provision ที่ปรับตัวลง 422 ลบ. -79%YoY ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานเพียง 2,350 ลบ. ลดลง -14%YoY, +4%QoQ จากทั้ง Net interest income และ Non-interest income ที่อ่อนตัวลง -2%YoY และ -8%YoY ตามลำดับ โดยสินเชื่อของ 2Q62 หดตัว -0.1%QoQ, +0.3%YTD เนื่องจาก housing loan, SME loan และสินเชื่ออื่นๆที่หดตัวลง แต่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังขยายตัวได้ +0.7%QoQ และ +2.7%QoQ ตามลำดับ ส่วน NIM มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากขายพอร์ต personal loan ที่ให้ yield สูงใน 2Q61 ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น

 

 

Non-interest income อ่อนตัวลงที่ 1.55 พันลบ. -8%YoY จาก brokerage fee ที่ลดลง -8%YoY, รายได้ค่าธรรมเนียม Mutual Fund ที่ลดลง -2%YoY โดยบริษัทได้มีการบันทึกค่าใช้จ่าย Employee Benefit เพิ่มเติมจากไตรมาสก่อน 59 ลบ.เนื่องจากมีการปรับปรุงสมมติฐานประมาณการผลประโยชน์ของพนักงานเพิ่มเติม จากรายได้ที่อ่อนตัวลง -4%YoY แต่ operating expense ยังคงเพิ่มขึ้น +8%YoY ส่งผลให้ Cost to income เพิ่มขึ้นจาก 44% สู่ระดับ 50%

 

 

NPL เพิ่มขึ้นอีก 402 ลบ.ที่ระดับ 3.19% จาก 3.02% ในไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก การปรับเกณฑ์ในการจัดชั้นคุณภาพสินทรัพย์และอีกส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการชำระเงินล่าช้าของลูกค้าในไตรมาส 2 ซึ่งมีวันหยุดยาวมาก ขณะที่ credit cost ปรับตัวลงที่ 0.18% ส่งผลให้ LLR Coverage อ่อนตัวลงจาก 159% สู่ระดับ 147%

 

 

จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงจึงปรับลดคาดการณ์กำไรปี 62 ลง 2% จาก 7.36 พันลบ. ลงที่ 7.23 พันลบ. +3%YoY แต่ยังคงมูลค่าพื้นฐานไว้ที่ 90.00 บาท อิง P/BV 1.83x TISCO เป็นหุ้นปันผลสูง dividend yield ราว 7-8% แต่ XD ไปแล้วเมื่อเดือนเม.ย. ขณะที่ราคาปัจจุบันสูงเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว จึงแนะนำเพียง "ถือ" หากจะซื้อให้รอเมื่อราคาย่อตัวเพื่อให้มี upside และ dividend yield ที่เพิ่มขึ้น

 

 

TISCO

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

แนวรบเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ แม้สภาพตลาดหุ้นไทย นักลงทุน ยังไม่กลับมา แต่สำหรับแนวรบ หุ้นเก็งกำไร ......

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing Series 2024

พีทีจี เอ็นเนอยี ส่ง ออโต้แบคส์ เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เตรียมประกาศความพร้อมการแข่งขัน PT Maxnitron Racing..

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้