Today’s NEWS FEED

News Feed

(จบ) HotNews: แกะรอยงบแบงก์ Q3/60 กำไรหด 9.25% TISCO เข้าวินกำไรพุ่ง25.8%

923

 

 

 

 

 

HotNews: แกะรอยงบแบงก์ 

Q3/60 กำไรหด 9.25%
TISCO เข้าวินกำไรพุ่ง25.8% 


 
 

  CIMBT เผยงวด 9 เดือนกำไรหด 30.6% จากตั้งสำรองฯเพิ่มตามหนี้ NPL

          นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 60 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 9,838.6 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 145.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 59 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 3.6% และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 21% ในขณะที่รายได้อื่นลดลง 32.8%
          กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 0.6% เป็นจำนวน 4,406.5 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 2.3% อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิลดลงจำนวน 243.9 ล้านบาท หรือ 30.6% เป็นจำนวน 554.4 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 9.8% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นงวดก.ย. 59
          เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน 9 เดือนปี 60 และปี 59 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 266.7 ล้านบาท หรือ 3.6% เป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 9.1% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 254.0 ล้านบาท หรือ 21% มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนและรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อ รายได้จากการดำเนินงานอื่นลดลง 375.5 ล้านบาท หรือ 32.8% เนื่องจากการลดลงของกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
          ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจำนวน 120.9 ล้านบาท หรือ 2.3% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์สินรอการขายสุทธิกับการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ และค่าภาษีอากร อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ อยู่ที่ 55.2% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 59 อยู่ที่ 54.8% เป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการดำเนินงานอื่น     
          สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 12.2 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 5.7% ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธ.ค.59 อยู่ที่ 6.1% มีสาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในไตรมาส 1/60 ประกอบกับธนาคารมีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารคุณภาพสินทรัพย์รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการในการเรียกเก็บหนี้ที่มีอยู่
          อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 ก.ย. 60 อยู่ที่ 85.1% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 59 ซึ่งอยู่ที่ 77.3% ส่วนเงินสำรองของกลุ่มธนาคาร ณ วันที่ 30 ก.ย. 60 อยู่ที่ 10.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 3.6 พันล้านบาท และเงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 ก.ย. 60 มีจำนวน 43.8 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 18% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier-1) อยู่ที่  12.7%


LHBANK แจงงบรวมQ3/60 กำไรลดลง4% เหตุรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิวูบ31.6%

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)LHBANK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 จำนวน 670.7 ล้านบาทลดลงร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 เป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลงร้อยละ 31.6
ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยงวด 9 เดือน ของปี 2560 มีกำไรสุทธิ จำนวน 1,873.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.6 เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือน ของปี 2559 ที่มีจำนวน 2,072.1 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงร้อยละ 35.5 และการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ ลดลงร้อยละ 39.5 เนื่องจากธนาคารได้กันเงินสำรองไว้อย่างเพียงพอ ดังเห็นได้จากสัดส่วนเงินสำรองพึงมีต่อเงินสำรองพึงกันอยู่ในสัดส่วนที่สูงที่ร้อยละ 184.32



KKP  โค้ง3/60 กำไรสุทธิ 1.72 พันลบ. โต 1.9%   -สินเชื่อขยายตัว 4.4


  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  20  ตุลาคม  2560 ) --------นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)KKP   เปิดเผยว่า ?ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 1,185 ล้านบาทในไตรมาส 2/2560 และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,691 ล้านบาท  
สินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 3/2560 มีการขยายตัวที่ร้อยละ 0.2 จากสิ้นไตรมาส 2/60 ส่งผลให้สินเชื่อรวมของธนาคารขยายตัวที่ร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 โดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวที่ร้อยละ 149.3 สินเชื่อ Micro SMEs ซึ่งรวมสินเชื่อ SME Car3x ขยายตัวที่ร้อยละ 73.4 สินเชื่อบุคคลขยายตัวที่ร้อยละ 29.9 สินเชื่อบรรษัทมีการขยายตัวที่ร้อยละ 73.4 สินเชื่อ Lombard ขยายตัวที่ร้อยละ 38.3 สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวที่ร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 ในด้านคุณภาพของสินเชื่อ ปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพรวมมีการปรับตัวลดลงจากสิ้นไตรมาส 2/60 โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2560 อยู่ที่ร้อยละ 5.6 เทียบกับร้อยละ 5.8
ณ สิ้นไตรมาส 2/2560 ทางด้านธุรกิจบริหารหนี้ ธนาคารขายทรัพย์รอการขายได้ในไตรมาสที่ 3/2560 จานวน 316 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายทรัพย์รอการขาย 149 ล้านบาท ทางด้านธุรกิจตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บล.ภัทร) มีส่วนแบ่งตลาด (SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท) ร้อยละ 4.65 โดยลดลงจากร้อยละ 4.93 ในไตรมาส 2/2560 ซึ่งเป็นอันดับที่ 5 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 37 แห่ง
สำหรับไตรมาส 3/60 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจานวน 1,185 ล้านบาทในไตรมาส 2/2560 และมีกำไรเบ็ดเสร็จรวมเท่ากับ 1,796 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.8 จากจำนวน 1,416 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 โดยกำไรเบ็ดเสร็จรวมได้รวมผลจากการวัดมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขายอันเป็นผลจากความผันผวนของตลาดทุน
หนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่า ในไตรมาส 3/2560 มีจำนวน 75 ล้านบาท ลดลงจากจานวน 1,011 ล้านบาทในไตรมาส 3/59 เนื่องจากในไตรมาส 3/59 ธนาคารได้มีการตั้งสารองทั่วไปจำนวน 750 ล้านบาท นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่าที่ลดลงโดยรวม เป็นผลจากการที่คุณภาพสินเชื่อมีการปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวลดลง รวมถึงสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษที่มีการปรับตัวดีขึ้น และจากการขยายตัวของสินเชื่อรวมที่ยังไม่ได้อยู่ในระดับสูง
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/60 ยอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้มีจำนวน 10,892 ล้านบาท โดยมียอดสำรองทั่วไปทั้งสิ้นจานวน 4,500 ล้านบาท อัตราส่วนสำรองทั้งสิ้นต่อสารองตามเกณฑ์เท่ากับร้อยละ 185.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 181.6 ณ สิ้นไตรมาส 3/59 และมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเท่ากับร้อยละ 105.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 105.4 ณ สิ้นไตรมาส 3/59


----จบ--- 


 
 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้