HotNews : SKY เล็งย้ายเข้า SET ปี 62 รายได้ก้าวกระโดด 3.3 พันลบ.

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 มิถุนายน 2562) "สิทธิเดช  มัยลาภ"  บิ๊ก  SKY คาดรายได้ปี 62 โตก้าวกระโดด คาดโกยไม่ต่ำกว่า 3.3 พันลบ.  พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 10%  หลังตุน Backlogในมือ 3.34 พันลบ.  พร้อมเปิดตัว Digital Platform ของ AOT ส.ค.นี้ รับรู้รายได้ Q3/62 ศึกษาย้ายเข้าเทรดใน SET หวังเพิ่มโอกาสรับงานขนาดใหญ่

 

 

 

 

 

 

 

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2562 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,070.42 ล้านบาท พร้อมจะรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 10% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10.14 % เนื่องจาก โดยปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ(Backlog)จำนวน 3,343 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่บริษัทฯเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2561 จำนวน 2,626 ล้านบาท และเป็นงานจากการเซ็นสัญญาตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2562 จำนวน 717 ล้านบาท โดยมูลค่างานดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด

 

 

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯยังมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องหลายโครงการทั้งของภาครัฐและเอกชนมูลค่ารวมกว่าหลายพันล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากความต้องการของผู้บริโภคทั้งภาครัฐและเอกชน

 

 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังเตรียมเซ็ญสัญญาเป็นพันธมิตรกับ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ระดับโลกเพื่อรุกธุรกิจสมาร์ทซีเคียวริตี้ ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรและธุรกิจ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีแผนขยายการให้บริการแบบเต็มรูปแบบและรุกเข้าสู่กลุ่มลูกค้าภาคเอกชน เช่น กลุ่มห่างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน โรงงานขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมเป็นต้น

 

 

 

 

นอกจากนี้ ยังมีดิจิตแพลตฟอร์ม ที่บริษัทฯได้พัฒนาให้เแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ด้วยระยะสัญญา 10 ปี ซึ่งเตรียมเปิดตัวในวันที่ 6 สิงหาคม 2562 และสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป โดยสิ้นปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะมียอดผู้ดาวโหลดแอพพลิเคชั่นดังกล่าว 500,000 ราย และตั้งเป้าปี 2563 จะมีผู้ดาวโหลด 2,300,000 ราย

 

 

ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของผู้โดยสารที่เข้ามาเที่ยวในประเทศมากขึ้นโดยปี 2563 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากแอพลิเคชั่นดังกล่าวอย่างเต็มปี หรือประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะมีสัดส่วนการดาวโหลดจากผู้โดยสารชาวไทย 65% จากต่างชาติ 35% และบริษัทฯมีแผนขยายดิจิตแพลตฟอร์มไปต่างประเทศด้วยเช่น เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการขยายการเติบโตของธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต

 

 

"เราเป็นผู้พัฒนาระบบ AOT Digital Platform ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ โดยรายได้มาจากผู้โดดยสารให้บริการผ่านแอพลลิเคชั่น AOT Mobile Platform ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นให้เลือกกว่า 20 รายการ เช่น บริการข้อมูลเที่ยวบิน การจองที่จอดรถ สิทธิเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆภายในสนามบิน การสะสมและแลกคะแนนเป็นต้น ซึ่งแอพพลิเคชั่นดังกล่าว จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯอย่างสม่ำเสมอตลอดอายุสัญญา 10 ปี โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป "

 

 

 

 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังให้บริการ Free wifi แก่ผู้โดยสารและผู้ที่มาใช้บริการภายในสนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ซึ่งประกอบไปด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่และสนามบินเชียงราย และจากการที่ AOTได้บริหารจัดการ 4 สนามบินใหม่ ได้แก้ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร ในอนาคตบริษัทฯก็จะมีแผนเข้าไปรับงานด้านระบบไอทีด้วย เนื่องจากมองว่ามีประสบการณืในการบริหารทั้ง 6 สนามบินแล้ว โดยงบลงทุนในทั้งหมดที่จะต้องปรับปรุงทั้ง 4 สนามบิน มีจำนวน 1,000 ล้านบาท และ 10-20% จะเป็นงบลงทุนสำหรับด้านไอที

 

 

สำหรับ วิทยุสื่อสารดิจิตอล (Radio Trunk) โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ชนะการเสนอราคาและได้ดำเนินการลงนามในสัญญาโครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอล ระยะที่ 2 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะจัดหาโครงข่ายระบบวิทยุสื่อสารแบบดิจิตอลที่มีความปลอดภัยสูงพร้อมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของระบบวิทยุสื่อสารให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะเน้นในเมืองท่องเทียวเช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น พัทยา หัวหิน ภูเก็ตและหาดใหญ่ จากระยะที่ 1 ที่บริษัทฯติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอลเพียงแค่ในกรุงเทพมหานครเท่านั้น

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาย้ายหลักทรัพย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเป็นการเพิ่มเครื่องมือการระดมทุนซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ปรับลดลง รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงแผนการดังกล่าวได้ภายในปี 2563

 

 

SKY