Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ: หุ้นรีซูมเทรด BIG ลงสนามเทรด 3 มี.ค.58

5,552

BIG ถือเป็นหุ้นรีซูมเทรดอีกหนึ่งบริษัทที่นักลงทุนจับตามองแบบไม่กระพริบตา หลังABICO ที่เข้าเทรดเมื่อเร็วๆ นี้ พุ่งวันแรกว่า  2,000%  วันนี้ฤกษ์ดีทีมงานหุ้นอินไซด์ มีโอกาสได้พุดคุยกับผู้บริหารหนุ่มไฟแรง  คุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) BIG  ภายใต้การบริหาร บิ๊ก คาเมร่า ให้เติบโต มาเป็นต้นๆ ของวงการถ่ายภาพ ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจกล้องยังไม่ตาย  ส่วนปีนี้รายได้โต10%จากปีก่อน หลังมีเรื่องสาขาที่ครอบคลุมมากที่สุดปัจจุบันมี 230 สาขา ย้ำพร้อมพิจารณาปรับเรื่องฟรีโฟท หากปิดสมุดหลังเข้าเทรดเเล้วไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ทิ้งท้ายว่า เล็งทำทุกวิธีทางล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ให้หมด หวังจะกลับมาจ่ายปันผลคืนผู้ถือหุ้นให้ได้ ตามนโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ.........


****BIG ถือเป็นหุ้นรีซูมเทรด อยากให้ผู้บริหารฉายภาพของ BIGให้นักลงทุนทราบ ***

        ปัจจุบัน BIG เป็นบริษัทโฮลดิ้ง company  ซึ่งถือ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด อยู่ 100 %  โดย  บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด  ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ  ซึ่ง บิ๊ก คาเมร่า เองเป็นศูนย์รวมกล้องต้องเรียกว่าเป็น Onestop Service ของการถ่ายภาพทั้งหมด เพราะฉะนั้นลูกค้าที่เข้ามาในร้าน นึกถึงการถ่ายภาพทั้งหมดตั้งแต่การตั้งแต่การ Input ในเรื่องของอุปกรณ์ถ่ายภาพจนถึงการบันทึกภาพ จนถึงการปริ๊นเก็บไว้  เรามีหมดโดยธุรกิจหลักๆ
    เรามีบิ๊กคาเมร่า มีบิ๊กโมบาย  บิ๊กคาเมร่า เปิดมาเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันเนื่องด้วยการตอบสนองการพิมพ์ภาพเรามีเรื่องกลยุทธ์การสร้าง แบรนด์อิมเมจที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ  ปัจุบันเราก็มีการเสนอโปรดักส์ใหม่ขึ้นมา เป็นโฟโต้บุ๊คไว้เก็บภาพความทรงจำเป็นรูปเล่ม  มีเรื่องของการขยายเวลารับประกันกล้องที่เพิ่มเติมจากการรับประกันของศูนย์เซอร์วิส มีในเรื่องของการเซอร์วิสของการขายการซ่อมต่างๆ อันนี้ก็จะเป็นภาพรวมธุรกิจของบิ๊ก คาเมร่า
     ปัจจัยที่ทำให้ บิ๊ก คาเมร่า เติบโต มาเป็นต้นๆ อันดับหนึ่งของวงการ ถ่ายภาพเรา มีOnestop Serviceอย่างที่เรียนไปก่อนหน้า มีทีมงานขายที่มีความรู้ แข็งแกร่ง ที่สามารถให้คำแนะนำตอบโจทย์ลูกค้าได้ เรามีเรื่องสาขาที่ครอบคลุมมากที่สุดปัจจุบันมี 230 สาขา ต้องเรียกว่าเป็นบริษัทกล้องที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย และเรายังมีการทำการกิจกรรมตลาดอย่างต่อเนื่อง นั่นน่าจะเป็นปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้เรามาสู่จุดๆ นี้



***รู้สึกอย่างไรที่หุ้นบิ๊กเป็นหุ้นรีซูมเทรด ที่กลับมาเทรดวันที่ 3 มี.ค นี้ ***


    ในเรื่องราคาหุ้นผมคิดว่า คงจะเป็นเรื่องของการตอบรับจากนักลงทุนมากกว่า ในถ้าถามว่าในตัวธุรกิจเองของเราเป็นธุรกิจที่เราทำและเติบโตมาตลอด เราก็เป็นแบรนด์ที่เรียกว่าในตลาดค่อนข้างเป็นที่รู้จัก เพราะว่าเราต้องยอมรับว่า คนที่จะซื้อกล้องถ่ายก็คงจะคุ้นชื่อบิ๊กคาเมร่าดี เพราะเราอยู่ในห้างทั้งหมด ก็ต้องอยู่ที่แรงตอบรับจากนักลงทุนครับ


****คิดว่าความแรงของBIG ในวันแรกจะเหมือกับABICO ที่เข้าเทรดเมื่อเร็วๆ นี้ หรือไม่****

    อันนี้ผมว่าให้เป็นกระแสตอบรับของตลาดดีกว่า...........ผมคงยังตอบไม่ได้ 

*** เดิม BIG ชื่อ SUN ****

      บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG  เดิมชื่อบริษัท ซันวู้ดอินดัสทรีส์ จำกัด  (มหาชน) ("SUN")  เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์") ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ "BIG"
       SUN กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบิ๊กคาเมร่า SUN ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
         1. บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระเเล้ว 882,219,000 บาท  ประกอบธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company)
         2. บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด  มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระเเล้ว 300,000,000 บาท และประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพยี่ห้อชั้นนำ ธุรกิจให้บริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพ ธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่
            3. บริษัท บิ๊ก คาเมร่า (2001) จำกัด มีทุนจดทะเบียนและทุนชำระเเล้ว 5,000,000 บาท และประกอบธุรกิจค้าส้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กับ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เพียงรายเดียว
     

***ความเป็นมาของบิ๊ก คาเมร่า***

    เริ่มต้น คุณชาญ เธียรกาญจนวงศ์ เป็นผู้ริเริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นผู้ค้าส่งอุปกรณ์การถ่ายภาพภายใต้ชื่อบริษัท ชาญ เอ็นเตอร์ไพรส์ (1994) จำกัด ตั้งแต่ปี 2533 นับเป็นนักธุรกิจที่มากด้วยประสบการณ์ในวงการอุปกรณ์ถ่ายภาพมากว่า 35 ปี
    ในปี 2540 บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด ได้ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพ
    ในปี 2556-2557 ได้มีการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท และได้เข้าถือหุ้นบริษัท บิ๊ก คาเมร่า (2001) จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 97 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเพียงบริษัทเดียว ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่เฉพาะยี่ห้อซัมซุงให้กับบิ๊กคาเมร่า เพียงรายเดียว
    จนถึงปัจจุบันบิ๊กคาเมร่าเป็นผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาทและมีขนาดสินทรัพย์มากกว่า 1,500 ล้านบาท

***ลักษณะของธุรกิจ***

    1.ธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพและมือถือ รวมถึงอุปกรณ์เสริม
    2.ธุรกิจให้บริการพิมพ์ภาพถ่ายและโฟโต้บุ๊ค
    3.ธุรกิจให้บริการขยายระยะเวลาการรับประกันอุปกรณ์ถ่ายภาพ
    4.ธุรกิจให้บริการซ่อมแซมอุปกรณ์ถ่ายภาพ

***ผลประกอบการย้อนหลังของBIG 3 ปีทีผ่านมาเป็นอย่างไร


    3 ปีที่ผ่านมายอดขายเติบโตเรื่อยๆ ตลอดอย่างต่อเนื่องรวมทั้งผลประกอบการกำไรของเราก็เติบโตมาตลอด  จนกระทั่งปี 2556 เราก็ก้าวกระโดดขึ้นมา จนกระทั้งปี 2557 ผลประกอบการก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จนกระทั้งปีนี้ประกอบการก็ดีขึ้นไตรมาสแรก 2 เดือนแรก ยอดขายก็ยังเติบโตอยู่


****เป้าหมายการเติบโตในปีนี้***

    ปีนี้เรามองรายได้เติบโตราว10% เพราะBIG มีอุปกรณ์ถ่ายภาพและอุปกรณ์เสริมที่ครบครัน เป็น One Stop Service สำหรับผู้ถ่ายภาพ และมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ 230 สาขา ซึ่งในระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดกล้องทั้งในประเทศไทย และทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มีการถดถอยอย่างต่อเนื่องในกลุ่มกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับเริ่มต้น ซึ่งถูกทดแทนด้วย Smart Phone
    จริงๆ แล้วตลาดกล้องเป็นช่วงทรงๆ จนถึงแนวโน้มลง ส่วนมูลค่าของตลาดจะประเมินได้ลำบาก เพราะ BIG ขายสินค้าที่หลากหลาย ทั้งกล้อง, อุปกรณ์กล้อง และอื่นๆ
ธุรกิจกล้องของเรา ถือว่า ดีมาก ส่วนของสมาร์ทโฟนถือว่ามาเป็นส่วนเติมเต็มตลาด โดยปัจจุบันมีทั้งหมด  19 สาขา ที่ขายสมาร์ทโฟน
   
   
***ตลาดกล้องไม่ดี แต่ทำไม BIG จึงยังมีการเติบโต***

   
     ปีก่อนตลาดไม่ดีนัก ที่ผ่านมาคนใช้กล้องน้อยลง หันมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น และการใช้งานกล้อง กล้องคอมแพคเกือบหายไปเลย แต่เรื่องของรายได้ BIG เรายังโตสวนตลาด  เพราะด้วยการจัดเทรนด์สินค้า จับตลาดได้ และสินค้าหลากหลาย รวมถึงยังการบริการที่ดี หลังการขาย และเรายังมีการจัดคอรส์สำหรับการถ่ายภาพ แม้คนใช้กล้องจะลดลงหันไปใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ชอบการถ่ายภาพ หนุนให้ตลาดการถ่ายภาพใหญ่ขึ้น จึงทำให้พฤติกรรมการชอบถ่ายภาพเหล่านั้น จะสะท้อนกับมายังการหาซื้อกล้องที่ตอบสนองความต้องการ และมาเลือกซื้อกล้องที่ลูกเล่นสูง  และผู้ผลิตกล้องก็ปรับตามพฤติกรรม โดยมีเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น บางรุ่นใช้  WIFI บางรุ่นสามารถโทรศัพท์ได้ ลูกค้าจะเลือกสเปค ตรงตามต้องการมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลบวกต่อธุรกิจร้านขายกล้อง
    เราปรับกลยุทธ์มาใช้กล้องเปลี่ยนเลนส์ โดยพอเทรนด์กล้องเปลี่ยน คนมาใช้กล้องที่มีคุณภาพสูงขึ้น
 
****ทำไมจึงเข้ามาสู่วงการตลาดหุ้น****


    จริงๆ ในการเข้าสู่ตลาดหุ้นถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการลงทุน และมีโอกาสในการลงทุน ในตลาดทุนค่อนข้างสูง  อันที่จริง เรามองการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมาหลายปีเเล้ว และมีการเตรียมตัวมาหลายปีแล้ว และพอได้จังหวะนี้พอดี  เกิดการเทคโอเวอร์ขึ้น ผมก็มองว่าเป็นช่องทางหนึ่งการเเข่งขัน ในการเติบโตของบริษัท และการที่ไปได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราเป็นลักษณะ Family  และการก้าวเข้ามาสู่ตลาดหลักทรัพย์ก็มีระบบตรวจสอบ และเชื่อว่าบริษัทฯ ก็จะอยู่อย่างยั่งยืน  ก็เชื่อว่าจะมีการเติบโตแบบยั่งยืนกว่าการบริหารงานแบบ Family
 
   

*****แผนงานในช่วงอี1-2 ปี หลังเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย***

    คือจริงๆ เราก็ยังคงความเป็นProfessional  เราก็ยังคงยึดภาพคอนเซ็ปต์ที่เราเป็นความชำนาญในด้านการถ่ายภาพอยู่  ฉะนั้นภาพที่ออกมายังเน้นธุรกิจที่เป็น เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิมอยู่ ส่วนธุรกิจที่จะต่อยอดอะไรยังไงยังอยู่ในระหว่างการศึกษา

**** ศึกษารูปแบบไหนบ้าง****


    คืออย่างที่บอกอะครับ  ตอนนี้เราเป็นเรื่องของ Onestop Service เรามีอุปกรณ์ขายเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่มีสาขาเยอะอยู่ละ เราอาจจะไปในเรื่องของงานพิมพ์ ที่ยังอยู่ในรอบตัวของการถ่ายภาพทั้งหมด


 ****แผนขยายสาขา****


    ปกติเราจะเปิดสาขา อิงตามห้างขนาดใหญ่ เช่น  เซ็นทรัล และโรบินสัน  งบลงทุนต่อสาขาจะแตกต่างกันไปตามขนาดพื้นที่ โดยเริ่มตั้ง 7-8 แสนบาท /สาขา 


 ***ฟรีโฟทของ BIG น้อยมาก บริษัทมีแผนดูเเลอย่างไรบ้าง***
   
     หลังเข้าเทรดวันที่ 3 มี.ค. 2558  จะมีการปิดสมุด เพื่อดูรายชื่อผู้ถือหุ้น  ก็ถ้าทุกอย่างเป็นตามเกณฑ์ก็คงไม่มีปัญหาอย่างใดแต่ถ้าไม่เป็ฯตามเกณฑ์   ยังน้อยอยู่ เราอาจจะคุยกับทาง ผู้ถือหุ้น (Shareholder)ก่อน ทั้งนี้ผู้ถือหุ้น BIGถือหุ้นอยู่ 82.83%


 ***AEC เตรียมเปิดเเล้ว BIG มีแผนจะขยายไปหรือไม่****

    มองตลาดเมืองไทยยังมีช่องว่างเยอะสำหรับธุรกิจกล้อง ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต่อยอดในธุรกิจกล้อง และตลาดกล้องในเซาท์อีสเอเชีย ประเทศไทยยังมีโอกาสสูงสุด ยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่

 
 ***สนใจจะขายแฟรนไชส์ไหม *****

    ถ้าในประเทศคงจะยังไม่มีไอเดียนั้น แต่ถ้าถามถึงโอกาสในต่างประเทศ หากมีก็น่าจะศึกษาดู
 

 ***จะเห็นการจ่ายปันผลหรือไม่ ******

 
    ในช่วง1-3 ปี ยังไม่สามารถจ่ายปันผลได้ เพราะเรามีขาดทุนสะสมหลักร้อยล้านบาท  และเราคงต้องพิจารณาเรื่องการล้างขาดทุนสะสมก่อน จะรีบล้างส่วนนี้ให้เร็วที่สุด เราจะเร่งล้าง เพื่อที่จะจ่ายปันผลให้เร็วที่สุด  ส่วนเครื่องมือที่จะใช้ขออุบเอาไว้ก่อน ไม่สามารถเปิดเผยได้
    .....เราอยากให้มองเรื่องของตัวลูก ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และมีการเติบโตที่ดี .....
 
  ***นโยบายปันผล****

    ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวม ภายหลังจากการหักทุนสำรองต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว เว้นแต่จะมีความจำเป็นเหตุอันควรที่ไม่สามารถจ่ายได้ (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม)

 
 ---จบ---

 By:ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์

บทความล่าสุด

Microsoft ลงทุนไทย By: แม่มดน้อย

ภาพรวมหุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา แกว่งตัวซิกแซกขึ้น สงสัยตอบรับข่าวดี Microsoft ลงทุนไทย....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้