สัมภาษณ์พิเศษ : SCโรดแม็ปปี62รายได้2หมื่นลบ.
Boulevard คือ ถนนสายหลัก
ภาพของ SC ในทศวรรษที่ 2 นำทีมโดยผู้บริหารหนุ่มไฟแรง" ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ประกาศวางโรดแม็ป มั่นใจขึ้นแท่นรายได้ 20,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี พร้อมวางเป้าการเติบโตรายได้จากนี้โตเฉลี่ยปีละ 10% ส่วนปีนี้วางเป้ายอดขายปีนี้โต 52% แตะ 13,000ลบ. ผุด7 โครงการใหม่ มูลค่า 14,000 ลบ. ทั้งบ้านเดี่ยว - คอนโดมิเนียม พร้อมตั้งเป้าNet ProFitปี 2562 มากกว่า 15% จากปี58 คาดอยู่ที่ระดับกว่า12% ชูยุทธศาสตร์เชิงรับ "รีดไขมันไม่ลดคุณภาพ" ด้วยการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในระดับพรีเมี่ยม มองตลาดอสังหาฯ ปีนี้โต5-10% เชื่อตลาดระดับ10 ลบ.โตได้ราว10% ........เชิญติดตามอ่านฉบับเต็มค่ะ
***ภาพของ SC ในทศวรรษที่ 2 ***
จากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างสร้างสรรค์และใส่ใจมาตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ภายใต้นโยบายการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนทำให้ผลประกอบการของ SC ก้าวเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไรสุทธิ และเพื่อการเติบโตต่ออย่างมีเสถียรภาพมั่นคงในทศวรรษที่ 2
ชื่อของเเบรนด์ Boulevard ความหมายของ Boulevard คือ ถนนสายหลัก และวันนี้เราจะมาพูดถึงเเผน 5 ปีจากนี้ รายได้โตเฉลี่ยปีละ 10% จนถึงปี 2562 จะมีรายได้ที่ 2 หมื่นล้านบาท .....SC เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์มาเเล้ว 11 ปี 3 เดือน เราพัฒนาโครงการอสังหาฯ มาเเล้วหลายโครงการ ดังนั้น นโยบายเน้นการเติบโตแบบมีคุณภาพเเละยั่งยืน ดังนั้นการเติบโตระยะยกลางและยาว ต้องยั่งยืนโดยมาจากการสร้างรายได้ การบริหารกำไรขั้นต้น และจะสะท้อนมายังผลกำไร
*** เป้าหมายการเติบโตรายได้ใน5 ปีข้างหน้า***
SC ตั้งเป้าหมายว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า(2562) จะมีรายได้ 20,000 ล้านบาท ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย
1.ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการลงทุน เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในระดับพรีเมี่ยม และพร้อมที่จะรุกเข้าไปยังตลาดเซกเมนต์ระกับราคาใหม่ๆ ที่บริษัทฯยังไม่เคยเข้าไป
2.ยุทธศาสตร์เชิงรับ "รีดไขมันไม่ลดคุณภาพ" ด้วยการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การรักษาคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทั้งสินค้าและบริการ ควบคู่ไปกับการเติบโตของบริษัทฯ
4.การมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรและสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการสร้างสรรค์และใส่ใจ และ5.คิดค้นและพัฒนา นวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง
*** เป้าหมายการเติบโต Net Profitใน5 ปีข้างหน้า***
ตามกลยุทธ์ 5 ปี บริษัทฯ วางเป้าหมายอัตรากำไรสุทธิ หรือ Net Profit อยู่ที่ระดับมากกว่า 15% จากปี2558 คาดอยู่ที่กว่า12% โดยจากนี้ต่อไปอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ตามยุทธศาสตร์ 5 ปี เอสซี แอสเสท จะต้องเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งปริมาณควบคู่ไปกับคุณภาพโดยรักษาผู้นำตลาดบ้าน เดี่ยวในระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังรักษาคุณภาพทั้งสินค้าและบริการก่อน-หลังการขาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาพันธสัญญา ( Commitment ) ที่ให้ไว้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สิ่งนี้จะทำให้เราเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง
***ภาพธุรกิจในปี2558***
ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ของยอดรายได้ปีที่ผ่านมา และเป้ายอดขายที่ 13,000 ล้านบาท เติบโต 52% โดยปีนี้ จะมีโครงการทยอยโอนคอนโด 3 โครงการต่อเนื่องจากปีก่อน และยอดโอนจากโครงการ The Crest สุขุมวิท 34 โอนปลายช่วงปลาย Q1/58 และ คอนโดมิเนียม เซ็นทริค ซี พัทยา ทยอยโอนครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ กลุ่มหลักที่จองช่วงต้นปีเป็นจีน และฮ่องกง โดยลูกค้าต่างชาติจองเพียง10% ซึ่ง SC โครงการเสร็จเร็วแผน และโครงการทำเลดี คาดว่าจะดึงดูดความสนใจต่างชาติ
***แผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี2558***
มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวมกันประมาณ 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 กว่าล้านบาท พร้อมกับคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,660 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกจะเปิด 2 โครงการหรู เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดลักซ์ซัวรี่ คือโครงการกรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม จำนวน 36 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 36 ไร่ ราคา 50-140 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการ 2,150 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เยี่ยมชมโครงการตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป
เรายังมีโครงการที่จะเปิดใหม่อีกแห่งคือ "โครงการ Saladaeng One " ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมซุปเปอร์ลักซ์ซัวรี่ ที่เอสซี แอสเสท ภูมิใจในเอกลักษณ์และดีไซน์ของสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่บนทำเลศาลาแดงซอย 1 ทำเลนี้นอกจากจะเป็นทำเลไพร์มที่อยู่ใจกลางดาวน์ทาวน์กรุงเทพแล้วที่ดินผืน นี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผืนสุดท้ายในทำเลซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนา คอนโดมิเนียมแนวสูง มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ 3 งาน ขนาด 1-3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่เริ่มตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยมากกว่า 280,000 บาท/ตร.ม. จำนวน 185 ยูนิต และ 2 พูลวิลล่า มูลค่าประมาณ 3,700 ล้านบาท โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการ ให้ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมได้ในเดือน พฤษภาคม 2558 ซึ่งระดับราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท โดยเมื่อวานเปิดลงทะเบียน และได้รับการตอบรับอย่างดี
***โคงการปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด ณ ปัจจุบัน***
ปัจจุบันมีโครงการต่อเนื่องที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด จำนวน 32 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 22,930 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 24 โครงการ และโครงการแนวสูง 8 โครงการ พร้อมกับยอดขายรอโอน ( Backlog) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 57 ประมาณ 8,800 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 44%
***ผู้นำในตลาดระดับพรีเมี่ยม*****
ยอดจองบ้านหรูปีก่อน......... SC เป็นผู้นำอันดับ1 และช่วง3 ปีที่ผ่านมา จำนวนการเปิดบ้านราคา 15 ล้านขึ้นไป สูงเป็นอันดับต้น และเเผน5 ปีจากนี้ SC จะรักษาระดับบ้าน15 ล้านนี้ไว้ตลอดไป
ส่วนบ้านระดับราคา 5 -15 ล้านบาทนั้น SC จะอยู่ในอันดับ Top 5 ภายใน 5 ปีจากนี้
ส่วนบ้าน 3-5 ล้านบาท คาดจะมีสัดส่วนรายได้ราว10-15% หรือมีรายได้ประมาณ 1500-2000 ล้านบาท ในปี2562 โดยในปีนี้จะเปิดบ้านราคา3-5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ Pave อยู่ที่รังสิตคลอง 4 ประมาณไตรมาส3/58 โดยสร้างด้วยระบบพรีเครส ระดับบ้านราคา3-5 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นบุกเพิ่มเติมในปีนี้
ส่วนโครงการแนวสูงจะเปิด 2-4 โครงการในทุกๆ ปี โดยคาดจะมียอดขายเฉลี่ยปีนี้ละ 4,500-6,500 ล้านบาท ทั้งนี้ จะรักษาฐานบ้านหรู และรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบ้านพรี่เมี่ยม
****ทำไมถึงเข้าไปเจาะตลาดบ้าน 3-5 ล้านบาท****
สาเหตุที่เราลงไประดับ 3-5 ล้านบาท เพราะเราโตขึ้น เราต้องขยายพอร์ตเพื่อรองรับการเติบโต และเซกเมนต์ไหนที่สร้างการเติบโต และมีโอกาสเราจะเดินไป และเมื่อไประดับ3-5 ล้านบาท เราก็จะเข้าไปเล่นในระดับราคา3-5 ล้านบาท แบบพรี่เมี่ยม ซึ่งสัดส่วน10-15% ของพอร์ตเรา ก็โอเค และเรามองว่าตลาด 3-5 ล้านบาท โอเค พอไปได้ แต่จบปี 2019 เราจะรักษาฐานบ้าน 5 ล้านบาทขึ้นไปอยู่แล้ว
****แผนลงทุนต่างประเทศ
ผมมองว่าตลาดในไทยยังมีโอกาสการเติบโตที่ดี ทำให้ปัจจุบันเรายังไม่มีแผนเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ โดยมองการลงทุนในประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมามีต่างชาติเข้ามาพูดคุยกับบริษัทบาง โดยเป็นกลุ่มเอเซีย และยุโรป แต่ทั้งนี้ดีลยังไม่ได้สรุป เนื่องจากบริษัทฯ มองว่าในช่วงนี้เศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ดี ยุโรปยังไม่ฟื้น ขณะที่บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโต ดังนั้น บริษัทฯ จึงมองการเติบโตในประเทศ และตลาดพรี่เมี่ยมเป็นหลัก
***ภาพรวมในปี 2557***
ปี2557 รายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ 12,000 ล้านบาท และในปีก่อนยอดปฎิเสธสินเชื่อมีเพียง5% ยิ่งสะท้อนความเเข็งแกร่งในตลาดบ้านหรู โดยคาดว่าจะมีการประกาศผลการดำเนินงานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้
***มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้อย่างไรบ้าง****
ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คาดตลาดอสังหาริมทรัพย์โต5-10% โดยแรงขับเคลื่อนมาจากตลาดบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมราคา 10 ล้านบาท เพราะในช่วงปีก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวไม่มากนัก ดังนั้นคาดว่าตลาด10 ล้านบาทปีนี้น่าจะโตราว10% และSC เจาะตลาดพรี่เมี่ยม โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดโครงการระดับราคาดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะได้รับประโยชน์
***มือการเงิน "อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ "ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน เปิดเเผนการใช้เงินในปีนี้ว่า***
เราวางงบซื้อที่ดิน 5.2 พันล้านบาท เพื่อ รองรับการเปิดโครงการช่วง2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเร็วๆ นี้จะสรุปแผนซื้อที่ดินอีกราว2 แปลง และในปีนี้มีแผนออกหุ้นกู้ในปีนี้ วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อใช้รีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิมที่จะหมดอายุช่วงกลางปีนี้ ประกอบกับ มองว่าปีนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยดีและเหมาะสม ขณะที่ D/E ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 เท่า
---จบ---
By: ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์
แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....
FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68