Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ: TPCH ปักธงเป็น King of South

3,647




 

                ทีมข่าวหุ้นอินไซด์  มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ผู้บริหารหนุ่มวิสัยทัศน์ไกล "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล"  กรรมการผู้จัดการใหญ่  แห่ง บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ  TPCH  หลังนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประเดิมเทรดเป็นตัวแรกของปี 2558  จังหวะก้าวเดินหลังจากนี้  TPCH   ชัดเจนขอพุ่งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 150  MW ใน 3-4 ปีจากนี้เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลา5 ปี  หลังเดินหน้าพัฒนาโรงไฟฟ้าชีวมวลรวมทั้งการเข้าซื้อกิจการพลังงาน เพื่อก้าวขึ้นสู่ King of South  ด้านชีวมวล ด้วยมาร์เก็ปแคปแตะ 1 หมื่นลบ.  ขอเชิญพบกับเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้....

              

 

***ฉายภาพธุรกิจปี 2558 ***

                "ปี58 เราจะมีโรงไฟ้เพิ่มอีก 3 แห่ง จากปี 57 ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  นครสวรรค์  และที่สมุทรสาคร และขนาดกำลังการผลิตก็จะเพิ่มขึ้น โดยเราคงจะมองเรื่องของโรงไฟฟ้าทั้งรูปแบบการเข้าซื้อกิจการหรือการพัฒนา เพิ่มเติม ส่วนในปี 2559  จากแผนเราในปีนี้ที่เราจะมีกำลังการผลิตทั้งหมด 40  MW  ไม่รวมที่เราจะเข้าไปซื้อ และในปี 2559  เราจะมีเพิ่มอีกประมาณ 60  MW   เพราะฉะนั้นจากเดิมที่บริษัทฯ วางแผนไว้ว่าประมาณ 3-5 ปี เราจะมี 150  MW  เราคิดว่าเราน่าจะทำได้ค่อนข้างจะเร็ว จากเดิมที่เมื่อก่อนเคยวางเป้าไว้ 5 ปี 150  MW  มาตอนนี้ผมคิดว่า 3-4   ปี 150  MW   เราน่าจะไปถึง

 

***จะขยายไปที่ไหนบ้าง***

                จริงๆก่อนที่เราเข้าตลาดฯ เราได้ทำแผนที่จะเป็น King of  South  ทางด้านไบโอแมส และเราจะไปทั้งหมด 14 จังหวัดในภาคใต้ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของเรา ตอนนี้สภาพเศรษฐกิจก็ดี หรือว่านโยบายต่างๆ ของภาครัฐฯ ก็ดีก็เข้ามามีบทบาททำให้อัตราการเติบโตของเราเพิ่มขึ้น   หลังจากมีการกำหนดอัตราคิดค่าไฟใหม่เป็น  Feed in Tariff (FiT)  ซึ่งจะทำให้โครงการใหม่ๆ ของบริษัทฯ  มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จาก30%  ที่บริษัทฯ  ทำได้ในระบบ ADDER เป็นประมาณ 40-45%ในระบบ  Feed in Tariff   โดยเฉพาะใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตอนนี้กำลังพัฒนาอยู่ที่เราปักธงลงไป ตรงนี้อัตรากำไรสุทธิก็ค่อนข้างจะสูงมาก คิดว่าอัตราการคืนทุนก็ไม่น่าจะเกิน 4 ปี

 

 

***กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันรายได้ให้โตไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่***
                แน่น่อน ผมคิดว่ารายได้ก็น่าจะปรับตัวล้อไปกับอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 3 ปี  1000%   คือ 3  ปี 10  เท่า จาก 10  MW  ในปี 57 เป็น100  MW  ในปี 60   เพราะฉะนั้น10 เท่าตามกำลังการผลิตในส่วนของรายได้และกำไรสุทธิ ต้องเติบโตในทิศทางเดียวกันแน่นอน

 

***แผนการซื้อกิจการ ***

                ถ้าในต่างประเทศเราคงเข้าไปพัฒนาต่อคือโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาว ถัดมาคือในประเทศตอนนี้ก็มีดีลที่เรากำลังศึกษาอยู่ ถ้ามีความชัดเจนเมื่อไหร่ก็จะประกาศอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งดีลนี้จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น  ....ปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้สัก 2-3 ดีล

 

 

***เงินที่ระดมทุนตอนขาย IPO นำไปใช้อะไรบ้าง***
               เงินที่ระดมทุมมาได้ 1.1 พันล้านบาท  จำนวน 600-700  ล้านบาท เราจะนำไปลงทุนในโครงการที่เราพัฒนาขึ้นมาแล้ว คือโครงการพัทลุงกรีน สตูลกรีน  และปัตตานีกรีนที่เหลืออีก 300-400 ล้านบาท ก็จะใช้เป็นทุนหมุนเวียนและพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงการเข้าไปซื้อกิจการ

 

***นอกจากโรงไฟฟ้าชีวมวล สนใจพลังงานด้านอื่นด้วยหรือไม่***

                ตอนนี้เราก็ศึกษาพลังงานทางเลือกอย่างอื่น น่าจะให้ความชัดเจนในQ2/58  อีกอย่างหนึ่ง เป็นพลังงานที่ภาครัฐให้การสนับสนุน  ซึ่งใกล้เคียงกับ Know How  ของเรา คือพลังงานขยะ ที่เมื่อสักครู่ พูดถึงไบโอแมส 2-3 ดีล  ส่วนขยะมีอยู่ประมาณ 3 ดีลที่เราศึกษาอยู่ว่าสนใจจะไปร่วมลงทุนหรือไม่  ตอนนี้มีหลายรูปแบบมากความชัดเจนน่าจะมีในไตรมาส2/58 ช่วงตอนออก Oppertunity Day   น่าจะได้แจ้งข่าวให้ทราบกันครับ

 

***หลังเข้าตลาดหุ้นมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง***

                หลังเข้าตลาดหุ้นมาเราก็ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุน  ก่อนนี้ทุกคนจะบอกว่าหุ้น  TPCH   มี P/E  ที่ค่อนข้างสูง  แต่ถ้าเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตที่เราบอกว่า 3 ปี เติบโต 10 เท่า แล้วก็ 5 ปี 150  MW  เราน่าจะทำได้เร็วขึ้น อีกทั้งถ้าเข้าใจในเรื่องของธุรกิจไบโอแมส ก็ถือว่าสูสีและก็ไม่แพ้กับพลังงานทางเลือกประเภคอื่นๆ เลย

 

 

***รายได้ปีนี้จะเติบโตกี่% ****

 

                รายได้ปี 58 เมื่อเทียบกับปี 57 น่าจะเติบโตมากขึ้น30-40%  อัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า30%  แต่อย่างที่เรียนไปว่าเรากำลังรอความชัดเจน แม้ว่าในเรื่องของ  Feed in Tariff  ออกมาแล้ว  แต่ความชัดเจนในโครงการของเราตอนนี้เรามีใบอนุญาติอยู่ 5 ใบคือโครงการที่นครศรีธรรมราช และที่สมุทรสาคร  2 โครงการนี้กำลังทำเรื่องเข้าไปสอบถามว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็น Feed in Tariff  ได้หรือไม่ ถ้าเปลี่ยนได้ตรงนี้ก็จะทำอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 40-50% จาก 30%เพราะ Feed in Tariff  โดยฉลี่ยที่ได้เราเราขายไฟในโครงการช้างแรก อัตราขายไปอยู่ที่ 3.40 บาท ตัว Feed in Tariff  ใหม่ได้เพิ่มอีก 1 บาท  ซึ่งค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับกำไรที่จะกลับเข้ามา เพราะให้ดูเป็นตัวเลขง่ายๆ ว่ากำลังการผลิตประมาณ 10  MW  ขายไฟที่9  MW   จะมีกำลังการผลิตสักประมาณ 70  ล้านหน่วย ถ้าเราได้เพิ่มอีก 1 บาท ก็ได้เพิ่มมาอีก 70 ล้านบาทตรงนี้จะเป็น  Growth  ที่แฝงอยู่

 

***ฝากทิ้งท้ายถึงผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ***

                ผมคิดว่าหุ้น  TPCH  เป็นหุ้นที่เติบโตเร็ว และแผนธุรกิจของเราชัดเจน เราวางPositionของเราว่าจะเป็น King of South  ทางด้านไบโอแมส ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้เราก็เป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่เข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เราวางเอาไว้ว่ามาร์เก็ตแคปจะขึ้นไปอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ไม่เกิน 2ปี  จากตอนนี่มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5 พันล้านบาท  อันนี้เป็นธงที่เราตั้งไว้เลยว่า ต้องขึ้นไปแตะ 1 หมื่นล้านบาท  ตรงจุดนี้เราแสดงให้เห็นว่าแผนธุรกิจเราชัดเจน และจากนโยบายของภาครัฐที่ออกมา ผมมองว่ามาร์เก็ตแคปหมื่นล้านไม่ไกล

 

---จบ---

 By: สุกัญญา ศิริรวง/ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ 

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้