Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

สัมภาษณ์พิเศษ: NDR ผงาด15 ม.ค. นี้

2,555

  NDR ผงาด15 ม.ค. นี้" ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา"  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR)  ผู้บริหารหนุ่มอนาคตไกล  มั่นใจนักลงทุนให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม เหตุปัจจัยพื้นฐานแกร่ง เติบโตตามอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ เผยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจเอาหุ้นเข้า Lock-up Period 100% เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ตั้งเป้าภายใน 3ปี ติดอันดับ TOP3 ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศ   ด้าน“วิชา โตมานะ”ที่ปรึกษาทางการเงินและอันเดอร์ไรท์มือเก๋า แห่ง บล. ฟิลลิป   กระซิบกระแสตอบรับดีช่วงเปิดขายไอพีโอ  ระบุกำหนดราคาไอพีโอเหมาะสม มีค่าพีอีเรโชว์เพียง 11 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับค่าพีอีเรโชว์ ของตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งคาดหลังการเข้าเทรดจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เหตุ NDR เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยางรถจักรยานยนต์ยาวนานมากว่า 20 ปี ขณะที่ทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล แถมมีแผนการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง กระจายรายได้และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง............เชิญ อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆค่ะ



***ฉายภาพธุรกิจ***

    บมจ. เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในวันที่ 15 มกราคม2558 โดย NDR ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ ภายใต้ตราสินค้า  ND Rubber และรับจ้างผลิตยางรถจักรยานยนต์ ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตรถจักรยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์โดย จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ของบริษัทซึ่งมีอยู่ประมาณ 270 รายทั่วประเทศและมีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้น ส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากยาง

****สัดส่วนการกระจายหุ้น****

    NDR มีทุนชำระแล้ว 215 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 150 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 65 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน63.50 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อผู้บริหาร (ที่มิใช่กรรมการ) ของบริษัท และพนักงานของบริษัท จำนวน 1.50ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 7-9 มกราคม 2558 ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 175.50 ล้านบาทมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 580.50 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการ จำหน่าย


***กระแสตอบรับช่วงเสนอขาย  IPO เป็นอย่างไร

เรา ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน หลังจากกระแสตอบรับในช่วงเปิดขายหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่ 7-9 มกราคม ที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ NDR ที่เติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมจักรยานยนต์และแผนการขยายฐานลูกค้าทั้ง ในประเทศ และต่างประเทศ



***โครงสร้างการถือหุ้นหลัง IPO ***

    NDR มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มสัมฤทธิวณิชชา ถือหุ้น 69.79% กลุ่มปรุงพัฒนสกุล  ถือหุ้น 2.95% และ Phillip Securities PTE.,LTD. ถือหุ้น 0.93%การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 11.36 เท่าคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ต.ค. 2556 -  30 ก.ย. 2557) ซึ่งเท่ากับ 51.08 ล้านบาทหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น0.24 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40%ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด


***การเข้ามาจดทะเบยีนใน mai ถือเป็นอักก้าวสำคัญของบริษัทหรือไม่***

    การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจเพื่อให้บริษัทบรรลุ เป้าหมายในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน3 อันดับแรกในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศภายใน 3 ปี ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินระดมทุนส่วนหนึ่งไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

***มีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)****

    ผมมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้น NDR  ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่  15 มกราคม 2558 จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน หลังจากกระแสตอบรับในช่วงเปิดขายหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่ 7-9 มกราคม ที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นแนวโน้มในอนาคตธุรกิจของ NDR ที่เติบโตตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมจักรยานยนต์และแผนการขยายฐานลูกค้าทั้ง ในประเทศ และต่างประเทศ

*** วางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง***


    เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเป็นผู้ผลิตของอุตสาหกรรมผลิตยางรถ จักรยานยนต์ในประเทศ โดยมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า พัฒนาสินค้าให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ในระยะยาวพร้อมสร้างความแตกต่างของ ผลิตภัณฑ์ได้ โดยวางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตยางรถจักรยานยนต์ในประเทศภายใน 3  ปี (2560)

   

****ฝากถึงนักลงทุน***

    ขอให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นใน NDR ว่าคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้ เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีแผนการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและขอให้นักลงทุนทุกท่านสบายใจและมั่นใจได้ เพราะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เต็มใจนำหุ้นที่เหลือเข้า Lock-up Period  ทั้งหมด 100% นอกเหนือจากหุ้นที่เข้าเกณฑ์จะต้องติดไซเรนพีเรียดอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่าเราพร้อมจะยืนหยัดอยู่กับ เอ็น.ดี.รับเบอร์ ตลอดไป


****มุมมองจากอันเดอร์ไรท์มือเก๋า แห่ง บล. ฟิลลิป  *****


    นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ   บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 65 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาหุ้นละ 2.70 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีค่าพีอีเรโชว์เพียง 11 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับค่าพีอีเรโชว์ ของตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งคาดว่าหลังการเข้าเทรดจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจาก NDR เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยางรถจักรยานยนต์ยาวนานมากว่า 20 ปี ขณะที่ทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์กว้างไกล โดยมีแผนการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายรายได้และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง
    มั่นใจว่าหุ้น NDR จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง ซึ่งมีลูกค้าหลักประเภท OEM ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 รายทั่วประเทศ และรับจ้างผลิตในประเทศให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย เช่น YAMAHA เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีแผนการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่มีการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต



***เปิดมุมมองนักวิเคราะห์ต่อธุรกิจ****
       นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์  บล.เอเซียพลัส     เปิดเผยว่า คาดราคาหุ้น บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ  NDR   จะยืนเหนือราคาจองไอพีโอที่ 2.70   บาท  ในการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)  ได้ในวันที่ 15  มกราคม 2558    เนื่องจากประเมินจากค่า  P/E  ที่ 11 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/Eของตลาดฯ อยู่ที่ 15 เท่ายังถือว่า NDR   มีความน่าสนใจ  ประกอบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยยังยืนเหนือระดับ 1500 จุด ได้ในขณะนี้  ทำให้หุ้น  NDR   น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในทิศทางที่ดี 


---จบ---

By: ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์


 

บทความล่าสุด

ต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นนักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทย วานนี้ จัดไป เกือบ 3,600 ล้านบาท ส่วนในประเทศ พร้อมใจขายอย่าง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้