สัมภาษณ์พิเศษ : "ชาติศิริ โสภณพนิช" คาดสินเชื่อปีหน้าโต 5-7%
"ชาติ ศิริ โสภณพนิช" กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ BBL เปิดมุมมองเศรษฐกิจปีหน้า พร้อมคาดสินเชื่อปีหน้าโตประมาณ 5-7%ล้อกับ GDP ของประเทศที่คาดโต 4-5 % ระบุการเมืองกระทบต่อเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เชื่อภาคเอกชน ได้มีการขยายการลงทุนต่างๆ -ปรับปรุงการผลิตต่างๆ ของตน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งออก ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงเรื่องศก.โลก โดยเฉพาะ QE อาจทำประเทศตลาดเกิดใหม่สะท้าน....เชิญอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆๆได้เลยคะ...
*** สินเชื่อในปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้***
ประเมินสินเชื่อของเรา.....ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ ก็ยังโตในระดับที่คาดหวัง ปีนี้สินเชื่อคาดไว้โต 5- 6 % ตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินตัวเลขสินเชื่อ เบื้องต้นคาดปีหน้าโตประมาณ 5-7%ล้อกับ GDP ของประเทศ......ถึงแม้จะมีปัญหาการเมืองเข้ามา แต่เราก็ประเมิน ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) GDP ปีหน้าโตระดับนี้
***ภาวะที่ตัวเลข GDP ขยายตัวเพียง 3 % ปัจจัยที่ทำให้สินเชื่อของ BBL โตมากกว่า GDP เป็นเพราะอะไร***
แม้จะเผชิญสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ โดยคาดว่าสถานการณ์ทางการเมือง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะสั้นโดยอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอลงเล็กน้อย และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง โดยเชื่อว่าการเติบโตจะมากจากภาคการส่งออก การบริโภคในประเทศ และการลงทุนภาคเอกชน ที่ผู้ประกอบการยังมีการลงทุนจากการขยายการลงทุนต่อ และในปีหน้าการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ ก็มาจากกการลงทุนต่างๆ ของทางภาคเอกชน
ผมก็เห็นว่าทางภาคเอกชน ได้มีการขยายการลงทุนต่างๆ และยังมีการปรับปรุงการผลิตต่างๆ ของตน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งออก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
***ปีหน้ามองทิศทางเศรษฐกิจและเป้าสินเชื่อ BBL เป็นอย่างไรบ้าง ***
เราก็ประมาณการ ตัวเลขเศรษฐกิจก็หน้าจะโตราว 4-5 % น่าจะเป็นพื้นฐานที่ดี ให้กับประเทศของเรา
***ภาพรวมสินเชื่อทั้งระบบของแบงก์ในปีหน้าโตเท่าไหร่***
ผมมองว่า จะสามารถโตได้ดีนะครับ ถ้าหากเป็นในระบบ ผมก็คิดว่าน่าจะโต 6-8 % ได้ โดยเฉลี่ยนะครับ
***ปกติ BBL มีการเติบโตสูงกว่าระบบหรือไม่ ***
...สินเชื่อของ BBL อาจจะเพิ่มขึ้น หรือ ลดลง ตาม GDP
***สำหรับปัจจัยบวกที่จะทำให้ทิศทางของเศรษฐกิจ ดีขึ้นจะมากจากอะไรบ้างคะ และการลงทุนเรายังจะดีอยู่หรือไม่ในปีหน้า ***
ก็มาจากทางด้านต่างๆ หลักๆ ก็มาจากส่งออก, การอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และก็จากการลงทุน ขยายกำลังการผลิตต่างๆ กระจายตามกลุ่มแตกต่างๆ ออกไป
***ส่วนภาวะทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ต้องมีแผนรับมือกับอย่างไรบ้างคะ ***
ตอนนี้ลูกค้าไม่ได้ยกเลิก ไม่ลดลง ตัวเลข NPL ตอนนี้ไม่ได้สร้างความกังวลให้เรา.........ในมุมมองของเอกชนที่จะกระทบ ในเรื่องเศรษฐกิจไม่ควรจะมีปัญหาอะไรในขณะนี้ ก็ดำเนินการต่อเนื่องต่อไป ซึ่งก็เห็นได้ว่าการชุมนุมก็เป็นไปอย่างสงบและด้วยความเรียบร้อย และผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็ยังไม่มีผลโดยตรง
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงเรื่องทางด้านเศรษฐกิจโลก คงต้องจับตาดูนโยบาย QE ของสหรัฐฯ ว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศในตลาดเกิดใหม่อย่างไร แต่เชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง โดยตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPL ) ยังเป็นปกติ ใน ขณะนี้ นะครับ
***ปัจจัยเสี่ยงปีหน้า ***
มองว่าเป็นเรื่อง ศก.โลก และยังมีการที่เฟดมีแผนที่จะยกเลิกการขยายเพดานหนี้และงบประมาณของสหรัฐเป็น อีกประเทศที่ธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) หรือ QE ซึ่งจะกระทบต่อประเทศเกิดใหม่ .........แต่เรายังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง
***หลายประเทศเริ่มมีการประกาศออกมา ว่าจะมีการboycottประเทศไทยแล้ว มันจะมีผลในเรื่องของ การส่งออกการส่งสินค้า ของประเทศไทยหรือไม่***
เราจะไม่เห็นสัญญาณต่างๆ เหล่านี้เลยครับ และมองว่าทุกอย่างยังเรียบร้อยดีอยู่ ....
---จบ---
By ชุติมา แก้ววิเศษ/ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์
แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....
FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68