สำนักข่าวหุ้นอินไซด์  (13 มิถุนายน 2561)  บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) หุ้น Resume Trade ตัวที่ 2 ของปีนี้ เตรียมลงสนามเทรดในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ท่ามกลางการจับจ้องของบรรดานักลงทุนว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่า ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา หุ้นที่กลับเข้ามา Resume Trade วันแรก ส่วนใหญ่จะถูกเทกระจาด จากบรรดาขาใหญ่ ที่เข้าไปร่วมลงทุนในลักษณะของการเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ในต้นทุนที่ต่ำ ทำให้มีการปล่อยของใน “วันแรก” ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปซื้อขายหุ้นในวันแรกต่างเจ็บตัวกันถ้วนหน้า

เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ NFC ตัดสินใจดำเนินการบางอย่างเพื่อ “ปลดล็อค” ปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เป้าหมายเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะปมปัญหาความขัดแย้ง (ทางความคิด) ของอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ของ NFC ซึ่งได้เคลียร์คัท ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด ผ่านสัมพันธภาพอันดีระหว่าง “ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นเอฟซี (NFC) และ “วิชัย ทองแตง” เจ้าของฉายา “ทนายนักช้อป”

โดย “ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี” ได้เข้าไปขอซื้อหุ้น NFC ที่อยู่ในมือ “วิชัย ทองแตง” คืนทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะลงสนามเทรดอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการสลัดภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีตและปลดโซ่พันธนาการทั้งปวง โดยซื้อคืนหมดทั้งจำนวน 25.6 ล้านหุ้น ในราคา 11.72 บาท/หุ้น รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท งานนี้จึงถือว่าเคลียร์คัทจริงๆ เพราะหมดกังวลเรื่องที่กลัวว่ารายใหญ่จะขายหุ้นออกมา

สำหรับหุ้นในส่วนของ “ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี” ปัจจุบันที่มี 58.19% ก็นำเข้าไปติดไซเร็นพีเรียด 55% และแม้จะมีส่วนล้นออกมาแต่ก็มีการยืนยันว่าจะไม่ขายออกมาแน่นอนแม้แต่หุ้นเดียวส่วนอนาคตข้างหน้าของ NFC “ณัฐภพ” ให้ความเห็นว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากที่ปรับโมเดล ธุรกิจของ NFC จากที่เคยเป็นผู้ผลิตปุ๋ยและมีรายหลักจากการจำหน่ายปุ๋ย วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด "เลิกทำธุรกิจปุ๋ยแล้วโดยสิ้นเชิง" ปัจจุบันมาดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายแอมโมเนีย แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ และกรดกำมะถัน รวมทั้งให้บริการคลังสินค้า โลจิสติกส์แบบครบวงจร

“ผมมองเห็นถึงศักยภาพของ NFC ผมจึงตัดสินใจเข้าลงทุนในบริษัทฯ ที่ผ่านมาเราได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ เปลี่ยนจากบริษัทที่ทำธุรกิจแล้วขาดทุน มาเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง มีกำไรจนสามารถกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้อีกครั้ง”

ในอนาคตธุรกิจของ NFC จะมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ภายใต้จุดแข็งในเรื่องของ Location Location และ Location เพราะ NFC มี Asset ที่มีศักยภาพในมาบตาพุด พื้นที่กว่า 565 ไร่ มีท่าเทียบเรื่อ ที่ดินติดทะเล ติดทางรถไฟ ซึ่ง NFC ได้เตรียมแผนขยายการลงทุนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับปรุงคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า รองรับสินค้าประเภทปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก รองรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล

ถือเป็น 15 ปีแห่งการรอคอยของ “ณัฐภพ” ที่เห็นโอกาสในการพลิกฟื้นธุรกิจของ NFC เพราะเขามองเห็นโอกาส และอนาคตการเติบโตที่สดใส ซึ่งในช่วง 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจนี้จะสร้างรายได้จำนวนมหาศาล จากจุดแข็งใน Location ของ NFC ซึ่งกำลังพลิกโฉมธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญในอนาคตของบริษัท

และอย่าลืมว่า “ณัฐภพ รัตนสุวรรณทวี” เขาคือ เจ้าของอาณาจักร SC Group ผู้นำด้านโลจิสติกส์ เชิงบูรณาการของประเทศไทย ซึ่งให้บริการด้านการขนส่งปิโตรเลียม น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เคมีภัณฑ์ รถยนต์และสินค้าทั้งทางบก และทางน้ำ มีรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท/ปี และมีมูลค่าสินทรัพย์กว่า 10,000 ล้านบาท โปรดจับตาการก้าวย่างที่ไม่ธรรมดาของ “ณัฐภพ” ที่พร้อมที่จะปลุกให้ NFC กลับมาผงาด...ในเวลาไม่นานเกินรอ

By : ศิลปินหุ้น

คำค้นหา
  NFC