Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ.....TMC ผู้นำผลิตเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค (ต่อ 2)

4,267


เฟสที่ 2 เป็นการก่อสร้างอาคารโรงงาน (Fabrication) และงานประกอบชิ้นส่วนเครนและเครื่องทุ่นแรงระบบไฮดรอลิค โดยจะสามารถเริ่มก่อสร้างเฟสที่ 2 ได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2556 ภายหลังการก่อสร้างอาคารโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรในเฟสที่ 1 แล้วเสร็จและเริ่มการผลิตได้ จากนั้นจะย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ในสายการผลิตดังกล่าวจากโรงงานแห่งที่ 1 และโรงงานแห่งที่ 2 โดยใช้เวลาก่อสร้างและขนย้ายเครื่องจักรประมาณ 6-8 เดือน เนื่องจากการย้ายกระบวนดารเชื่อมมาจากโรงงาน 1 จะทำให้สามารถลดระยะเวลาส่งชิ้นส่วนจากกระบวนการเชื่อมและแปรรูปโลหะไปยังกระบวนการประกอบอันจะทำให้ระยะเวลาการผลิตเครื่องจักรระบบไฮดรอลิคลดลง ทำให้บริษัทสามารถใช้พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทจะเพิ่มพื้นที่สำหรับการประกอบและเชื่อมเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิคขึ้นจาก 20 เครื่อง เป็น 28 เครื่อง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง นอกจากนี้บริษัทยังมีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการประกอบเครนและเครื่องทุ่นแรงระบบไฮดรอลิคจึงสามารถเพิ่มกำลังการผลิตสูงสุดของเครนและเครื่องทุ่นแรงระบบไฮดรอลิคได้อีกด้วย ดังนั้นผู้บริหารของบริษัทคาดว่าการขยายฐานการผลิตในโรงงานเฟสที่ 2 จะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 35 จากกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบันทำให้เมื่อรวมกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากเฟสที่ 1 บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณร้อยละ 60 

ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะต้องใช้เงินทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 255 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างอาคารโรงงานและการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ในสายการผลิต โดยจะใช้เงินทุนในการดำเนินการบางส่วนจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทแก่ประชาชนและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้โรงงานแห่งใหม่จะมีพื้นที่ใช้สอยทั้ง 2 อาคาร รวมประมาณ 9,600 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ใช้สอยในโรงงานที่ 1 เดิมซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 6,800 ตารางเมตร ทำให้บริษัทสามารถวางแผนผังสายการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้เวลาในการผลิตลดลง

นั่นคือ ภาพรวมทางธุรกิจคร่าวของTMC ไอพีโอน้องใหม่ ส่งท้ายเดือน 10 แล้ว เปิดเทรดวันแรก 26 ตุลาคม TMC จะร้อนเพียงใด...เป็นอะไรน่าลุ้นระทึก   เพราะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทฯ  (Price  Earning  Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 3.90 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 13.74 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรใน 4 ไตรมาสที่ผ่านมา  ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ถึง 30 มิถุนายน 2555 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ซึ้งเท่ากับ 290 ล้านหุ้น (Fully  Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.28 บาท โดยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วนลดร้อยละ 25.84 จากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เฉลี่ย ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 18.53 เท่า ทั้งนี้อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หุ้นเพิ่มทุนTMC 85,000,000 หุ้น เสนอขายต่อประชาชน แบ่งเป็น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 65,000,000 หุ้นเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท20,000,000  หุ้น ในราคาหุ้นละ 3.90 บาท ส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,000,000 หุ้นเสนอขายต่อพนักงานของบริษัท ในราคาหุ้นละ  3.12 บาท คิดเป็นส่วนลดจากราคา IPO 20% ซึ่งหุ้นในส่วนที่จัดสรรให้แก่พนักงานดังกล่าวจะถูกห้ามขาย (Lock-up Period) เป็นเวลา 3 เดือน 
นับเวลาถอยหลัง อีกไม่กี่วัน TMC หุ้นจองทองคำฝังเพชร จะโลดแล่นกระดานMAI  สูงระดับใด  คำตอบไม่ได้อยู่ที่บริษัท ฟินเน็กซ์  แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน-บล.ฟินันเซีย ไซรัส  ราชันอันเดอร์ไรท์แห่งเมืองไทย แต่อยู่ที่กลไกตลาด+ความศรัทธา+ความเชื่อมั่นของนักลงทุน.............10-9-8-7-6-5-4-3-2-1

จักรภพ รายงาน

บทความล่าสุด

เจ๊ชะเอม เคลมหุ้น (7 พ.ย. 68)

เจ๊ชะเอม เคลมหุ้น เห็นเส้นกราฟ เส้นเทคนิคของ ดัชนีหุ้นไทย กลับมายืนเหนือ 1,300 จุด..

จิ้งจอกเฒ่า (7 พ.ย. 68)

จิ้งจอกเฒ่า เห็นสภาวะตลาดหุ้นไทย ในตอนนี้ ก็ได้แต่ ก็ต้องทำใจ เข้าใจ และปรับตัว ...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้