Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ : MEB ผู้นำธุรกิจ E-Book เบอร์หนึ่งเมืองไทย

11,162

                หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง อนาคตไกล บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ผู้นำธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite บริษัทในเครือ CRC เข้าเทรดวันแรก 14 ก.พ.66 นี้ รับ “วาเลนไทน์”  ชูจุดแข็งผู้นำอุตสาหกรรม-แนวโน้มธุรกิจเติบโตสูง-ความสามารถในการทำกำไรและสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง ไร้หนี้-แบ็คอัพแข็งแกร่ง จับตา New S Curve ในต่างประเทศ

 

                นับถอยหลังวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.66 นี้ หุ้นน้องใหม่ ผู้นำธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite บริษัทในเครือ CRC เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ราคาไอพีโอที่ 28.50 บาท หากพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 ต.ค.64-30 ก.ย.65) เท่ากับ 321.16 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลัง IPO (Fully Diluted) 300 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.07 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ประมาณ 26.64 เท่า เทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) (GLORY) 45.01 เท่า

 

 

 

                ขณะที่มุมมอง 3 โบรกเกอร์ระบุว่า MEB มีความสนใจมาก หากมองในแง่โอกาสการเติบโตในอนาคต ภายหลังเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มโอกาสในการเติบโตและขายธุรกิจบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้าง New S Curve ใหม่

 

                บล.บัวหลวง เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น MEB โดยประเมินว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2565-2567 ที่ 317 ,373 และ 436 ล้านบาท เติบโต 15.0% 17.8% และ 16.9% ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 16.6% CAGR ปี 2565-2567 การเติบโตของ MAU ของทั้ง meb และ readAwrite เป็นปัจจัยหลักในการหนุนการเติบโตของกำไร

 

                โดยสรุป 4 ประเด็นสำคัญในการลงทุนดังนี้ 1.ป็นแพลตฟอร์มหนังสือออนไลน์ที่มีรายได้เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย MEB ถือเป็นแพลตฟอร์มหนังสือออนไลน์ที่มีส่วนแบ่งรายได้เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย (เมื่อพิจารณาจากรายได้) ที่ทำรายได้ทิ้งห่างจากคู่แข่งอย่างมาก

 

                โดยจุดเด่นที่ทำให้ MEB ได้รับความนิยมคือ เนื้อหาที่นำเสนอ ความเสถียรของระบบและความง่ายในการใช้งานของแพลตฟอร์ม และจากความสัมพันธ์กับสำนักพิมพ์และนักเขียนที่ดีที่มีมาอย่างยาวนาน (เนื่องจากผู้ก่อตั้งดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมหนังสือมาอย่างยาวนาน) และการบริการที่ให้กับทั้งผู้ใช้งานและเจ้าของผลงานที่ดี (MEB มีทีมช่วยเหลือผู้ใช้บริการและเจ้าของผลงานที่ทำงาน ตั้งแต่ 6.00-2.00 น. ทุกวัน และมีการสร้างระบบที่เจ้าของผลงานสามารถตรวจสอบยอดขายและสถิติต่างๆ ได้ด้วยตนเอง) ทำให้ MEB มีความสามารถในการหาผลงานวรรณกรรมลิขสิทธ์ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของผู้อ่านได้ดี

 

                โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565  meb และ Hytexts มี E-book ทั้งหมดกว่า 180,000 เล่ม/ชุด (SKU) และ 35, 000 เล่ม/ชุด (SKU) ตามลำดับ และ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 meb มีเจ้าของผลงานทั้งหมด (อย่างเช่นนามปากกา กิ่งฉัตร แก้วเก้า และ ว วินิจฉัยกุล ที่ E-book เจ้าอื่นไม่มี)

 

                2.อุตสาหกรรมหนังสือออนไลน์ยังมีแนวโน้มการเติบโตสูง คาดการเติบโตของอุตสาหกรรมหนังสือออนไลน์ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ในระดับมากกว่า 10% ต่อปี จากเทรนด์การที่ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินซื้อความบันเทิงออนไลน์มากขึ้น และจากส่วนแบ่งการตลาดของหนังสือออนไลน์ในประเทศไทยที่อยู่ในระดับต่ำ (ต่ำกว่า 20% ในปี 2564) เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างเช่น อเมริกาที่มีสัดส่วนผู้อ่านหนังสือผ่าน E-reader สูงถึง 50% (จากข้อมูลของ Statista) นอกจากนี้ในระยะสั้นมาตรการช็อปช่วยชาติ น่าจะเป็นปัจจัยส่งเสริมยอดขายหนังสือออนไลน์

 

                3.กลยุทธ์ “เจอ จ่าย จบ” ทำให้ MEB แปลงผู้ใช้งานเป็นยอดรายได้และกำไรจริง และ 4.ความสามารถในการทำกำไรและสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง และบริษัทฯ เองก็อยู่ใน Net cash position (เนื่องจากบริษัทไม่มีหนี้สิน) นอกจากน้ี การที่ CRC เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MEB ก็มีส่วนช่วยทำให้บริษัทฯ ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานในหลายด้าน

 

 

 

                บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ระบุว่า ธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ที่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นอยู่นักอ่าน-เขียน MEB เป็นผู้นำในธุรกิจจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ ที่มีความหลากหลาย โดยมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจปัจจุบัน และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ในต่างประเทศ เพื่อสร้างความหลากหลายในการประกอบธุรกิจ คาดกำไร 3 ปีข้างหน้าจะเติบโต 14% ต่อปี

 

                

                บล.โนมูระ พัฒนสิน ชี้ให้เห็นถึงความโดดเด่นของ MEB คือ  1.เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ของไทย มีส่วนแบ่งการตลาดและอัตราการเติบโตเชิงรายได้มากสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ  2. มีทีมผู้บริหารมืออาชีพสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพผสานกับกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ที่สูงขึ้นหนุนปริมาณการใช้งานจากผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มบริษัทในช่วงที่ผ่านมาให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด  และ3. คาดปี 2565F-2567F กำไรสุทธิโตกว่า +18%CAGR ประโยชน์จาก Big data , กระแสตอบรับจากการขยายเนื้อหา, รูปแบบและตลาดการให้บริการ เช่น กลุ่มการ์ตูน,readAwrite และตลาดต่างประเทศ เป็นต้น

 

                ขณะที่นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MEB) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite กล่าวว่า คาดว่าจะได้จากการระดมทุนครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 2,151.75 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินดังนี้ 1.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ประเภทนิยายและไม่ใช่นิยาย 2.เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ โดยเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ไปพร้อมกับซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และ 3.เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

 

                “มั่นใจว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อเปิดโอกาสสำคัญในการต่อยอดธุรกิจทั้งการสร้างแพลตฟอร์มใหม่หรือการควบรวมกิจการหรือการเข้าซื้อกิจการในอนาคต และต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบการดำเนินงานมุ่งสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า MEB ยังมีโอกาสและช่องทางการเติบโตทางธุรกิจได้อีกมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต” นายรวิวร กล่าวในที่สุด

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้