บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)  หรือ MST ได้ก้าวสู่ยุคใหม่อย่างใหม่อย่างเต็มตัว หลังจากทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  เมย์แบงก์  ยุคใหม่  จะเติบโตอย่างไร? บนบริบทสภาวะแวดล้อม  ความผันผวนของเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินและตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ  ตลอดจนพฤติกรรมการลงทุนของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัล ภายใต้การนำของ "อารภัฏ สังขรัตน์"  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  MST   

อารภัฏ สังขรัตน์" แม่ทัพเมย์แบงก์ (ไทยแลนด์) กล่าวกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ด้วยแววตามุ่งมั่นว่า     วันนี้ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) แตกต่างจากในอดีตมาก เราได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีความยืดหยุ่นพร้อมรับการความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเรามุ่งที่จะเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจลูกค้า เมื่อนึกถึงการลงทุน ต้องนึกถึงเมย์แบงก์เป็นชื่อแรกๆ

"ภาระกิจหลักในฐานะ CEO คือการปรับองค์กรให้สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่งคงและรวดเร็วเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ที่ผ่านมากว่า 2 ปี ถือว่าสำเร็จตามเป้าหมาย มีการเสริมความแข็งแกร่งในสายงานต่างๆทั้งด้านการบริหารจัดการองค์กร (Management)  เสริมทีมผู้เชี่ยวชาญ เปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรจำนวนมากเพื่อสร้างทีมบริหารรุ่นใหม่ภายใต้วัฒนธรรมองค์กรใหม่ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (New Investment Solutions) ที่ตอบโจทย์ตรงใจนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

ในเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เมย์แบงก์ได้เปิดตัว  Application  ใหม่ คือ “Maybank Invest (MBI)"  ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ได้ครบจบในแอปฯเดียว ครอบคลุมทั้งหุ้น กองทุน ตราสารหนี้ และอื่นๆมากมาย นอกจากนี้ยังจะระบบประมวลผลข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านักลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสม เลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีหลากหลายฟังก์ชันด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม  โดยคาดการณ์ว่าจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ “Maybank Invest (MBI)" จะค่อยๆขยับขึ้นในอนาคต  โดยมีเป้าหมายการเติบโตที่ประมาณ 5 เท่าจากปัจจุบัน ภายในปี 2568

แม่ทัพเมย์แบงก์ (ไทยแลนด์) กล่าวเพิ่มเติมว่า เรามีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างการลงทุนอย่างเท่าเทียม เราจึงให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่ม ให้นักลงทุนทุกคนสามารถเข้าถึงเราได้ง่าย ไม่ว่าจะมีฐานเงินลงทุนเท่าไหร่ก็ตาม เรามุ่งมั่นกับการให้ความรู้ ให้คำแนะนำ มีความจริงใจในการให้บริการ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่มีคุณภาพ สร้างการลงทุนที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน อีกทั้ง เรายังให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด มีการแยกทรัพย์สินของลูกค้าจากทรัพย์สินของบริษัท มีการทำทะเบียนควบคุมความถูกต้องแยกรายลูกค้า และรายงานต่อ ก.ล.ต. อย่างสม่ำเสมอโดยมีมาตรฐานการทำงานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเทียบเท่าระดับสากล

ไม่เพียงด้านธรรมาภิบาลที่ลูกค้ามั่นใจได้ ในเรื่องของความมั่นคง เมย์แบงก์มีตัวเลขสภาพคล่องของทั้งเครือธนาคารเมย์แบงก์เป็นเครื่องการันตี มีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิมากกว่า 5.7 แสนล้านบาท และสภาพคล่องในประเทศไทย กว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่สำนักลงทุน ก.ล.ต.กำหนดไว้ที่ 25 ล้านบาท ขณะที่บริษัทแม่ของเราธนาคารเมย์แบงก์ ประเทศไทยมาเลเซีย ยังเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 70 ของโลก

นายอารภัฏ เน้นย้ำว่า เมย์แบงก์เป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนที่เน้นย้ำการลงทุนด้วยความรู้ การลงทุนที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของการพนัน แต่เป็นเรื่องของการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ถี่ถ้วน ด้วยตัวเอง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ โดยมีหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ พร้อมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้คนไทย โดยเปลี่ยนความเสี่ยงให้เป็นโอกาสผ่านการใช้เครื่องมือดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่าง Maybank Invest เพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม

เมื่อถามถึงสถานการณ์การลงทุนปัจจุบันมีความสนใจมากน้อยเพียงใด  นายอารภัฏ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจในการลงทุน  จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งแรงหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว อย่างไรก็ตาม โอกาสมีอยู่เสมอเพื่อการลงทุน เวลาตลาดลงก็มีโอกาสได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จริงว่าจะลงทุนลงอะไร ปัจจุบันนักลงทุนไทยทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ศึกษาหาความรู้กันมากขึ้น มองปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก" นายอารภัฏ กล่าว

ปัจจุบันเมย์แบงก์  มีธุรกิจในด้านวาณิชธนกิจ หรือ  Investment Banking มากขึ้น โดยที่เหลือของปีนี้ เมย์แบงก์จะมีดีลนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งเราการทำงานกับบริษัทที่มีคุณภาพสูงที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม เมื่อมองด้านการแข่งขันในธุรกิจหลักทรัพย์ ปัจจุบันมีการแข่งขันสูงแต่เป็นเรื่องที่ดีที่มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น ทำให้โบรกเกอร์ที่อยู่ในตลาดอยู่แล้วต้องปรับปรุงการบริการ ผู้ที่จะได้ประโยชน์ คือ นักลงทุน ขณะเดียวกันโบรกเกอร์ต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า เชื่อว่า ปี 2566 ของเมย์แบงก์จะเป็นปีที่ธุรกิจไปได้ดีมาก เป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวความสำเร็จจากการปรับเปลี่ยนองค์กร สร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ มีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จที่ไม่ใช่เพียงเรื่องของกำไร แต่เป็นพื้นฐานแห่งความแข็งแกร่งมั่นคง ที่จะสร้างให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าเมื่อนึกที่ที่ปรึกษาด้านการลงทุน