สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (15 กุมภาพันธ์ 2564)-----โบรกฯ สแกนหุ้น TQR นายหน้าประกันภัยต่อของคนไทย เจ้าแรกเข้าระดมทุนตลาด mai เตรียมเข้าเทรดวันแรก 17 ก.พ.นี้ จุดเด่นเพียบ! โอกาสเติบโตสูง ผู้บริหารมีประสบการณ์มายาวนาน-พันธมิตรแกร่ง-สัญญาประกันภัยหลากหลาย และผลตอบแทนสูง เคาะราคาเป้าหมาย 6.70 บาท โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปี 63 โตสนั่น เพิ่มขึ้นกว่า 79.54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

หุ้นน้องใหม่ “ป้ายแดง” บริษัท ที คิว อาร์ จํากัด (มหาชน) (TQR) นายหน้าประกันภัยต่อของคนไทย เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 17 ก.พ.2564 นี้ หลังระดมทุนผ่านการขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาไอพีโอ 5.10 บาท/หุ้น พาร์ 0.50 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิล่วงหน้า 12 เดือน (Forward P/E) ที่ 14 เท่า

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า TQR ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) การให้บริการจัดหาสัญญาประกันภัยต่ออย่างครบวงจร โดยให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาแก่บริษัทประกันภัยเพื่อจัดหาสัญญาประกันภัยต่อแบบสัญญาและสัญญาประกันประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย โดยฝ่ายวิจัยประเมินกรอบเป้าหมาย Base case ที่ 6.70 บาท/หุ้น โดยใช้ ค่าเฉลี่ยราคาจากวิธี DCF และวิธีเทียบ PER โดยได้ค่าเฉลี่ย PER 17.9 เท่า

 

สำหรับประเด็นสำคัญการลงทุนมีดังนี้ 1) เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการเติบโตสูง โดยเราประเมินอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยต่อปี 2563-2565 ที่ 12.6%/ปี (CAGR), 2) มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยมีจุดแข็งคือ ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์, พันธมิตรแข็งแกร่ง และสัญญาประกันภัยครอบคลุมหลายประเภท, และ 3) ผลตอบแทนสูง สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง รองรับการขยายธุรกิจ เนื่องจากเป็นธุรกิจบริการที่ใช้ทรัพยากรบุคคลเป็นหลัก ดังนั้น ที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรต่ำ

 

 

 

 

***บล.ธนชาต คาดกำไรปี 64-66 โต 17-20%

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มองว่า ด้วยเป็นนายหน้าประกันภัยต่อที่มีแนวคิดริเริ่ม TQR ยกระดับบริการนายหน้า โดย TQR ได้เริ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) ตั้งแต่ปี 2559 บริการนี้เป็นการร่วมมือกับ Cedants ในการพัฒนาและออกกรมธรรม์ใหม่ที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งช่วยให้ TQR ได้รับธุรกิจประกันภัยต่อและได้ค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าแบบเดิม ด้วยเกิดเหตุระบาดของโควิด-19 ประชาชนจึงตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันมากขึ้น และเมื่อรวมกับการนำระบบดิจิตอลมาใช้อย่างรวดเร็ว เราจึงมองว่า ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยไซเบอร์ และประกันภัยวัตถุประสงค์เฉพาะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของ TQR ในการเร่งผลักดันการเติบโตของ Alternative Business และได้ค่านายหน้าสูงขึ้น

 

“เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 17-20% ในปี 2564-2566F ปัจจัยผลักดันการเติบโตมาจากทั้งปริมาณและราคา เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ Cedants มากขึ้นหลังการเสนอขายหุ้น IPO และ alternative business ที่กำลังเติบโตดังกล่าวข้างต้น เราจึงคาดว่าเบี้ยประกันภัยจะเติบโตเฉลี่ย 6-10% และคาดว่าอัตราค่านายหน้าเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นจาก 2.30% ในปี 2563 เป็น 2.35-2.57% ในปีดังกล่าว TQR ได้เพิ่มทีมงานที่มีความสามารถตั้งแต่ปี 2562 ดังนั้นเราจึงคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก operating leverage และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานและอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น

 

ทั้งนี้ TQR มีแผนที่จะออกหุ้นใหม่ 60 ล้านหุ้น ผ่านการเสนอขายหุ้น IPO ทำให้มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 230 ล้านหุ้น เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO จะถูกนำไปใช้เพื่ออัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเป็นหลัก เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO และกระแสเงินสดภายใน น่าจะเพียงพอที่จะครอบคลุมการลงทุน ดังนั้นเราจึงคาดว่า TQR จะยังคงอยู่ในสถานะเป็นเงินสดสุทธิ ด้วยใช้วิธี DCF เราได้มูลค่าเหมาะสมที่ 1,612 ล้านบาท

 

 

***โชว์กำไรแกร่ง! 9 เดือนแรกปี 63 พุ่ง 79%

 

 

 

 

นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ (Operational Efficiency Improvement Platform) การลงทุนพัฒนาแบบจำลองทางการเงิน (Financial Model) สำหรับธุรกิจการประกันภัย รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต

 

สำหรับผลประกอบการของ TQR ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2560-2562 มีรายได้รวม 104.96 ล้านบาท 153.75 ล้านบาท 132.49 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 160.47 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 57.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ จากกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business)

 

ส่วนกำไรสุทธิสำหรับปี 2560 – 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 23.62 ล้านบาท 32.88 ล้านบาท 44.04 ล้านบาทตามลำดับ โดยในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 มีกำไรสุทธิ 68.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38.22 ล้านบาท

By:ศิลปินหุ้น