Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

เลี่ยงหุ้นที่เจอพิษน้ำท่วม

6,135

เลี่ยงหุ้นที่เจอพิษน้ำท่วม รง.หยุดผลิต-คนตกงาน มุ่งได้อานิสงส์หลังน้ำลง ค้าปลีก-อาหาร-ก่อสร้าง

By : เอกยุทธ อัญชันบุตร

น้ำมาหนัก หุ้นดิ่งแรง "กูรูหุ้น" แนะนักลงทุนเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะที่มีรง.แถวอยุธยา แต่ให้หันมาดูกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบ อาทิ "ค้าปลีก-ขายอาหาร-กิจการยาง-วัสดุก่อสร้าง-ก่อสร้าง" เพราะจะได้อานิสงส์หลังน้ำลด

วันที่ 10 ต.ค. 2554 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า ตลาดหุ้นหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวนสูงมาก ตั้งแต่เดือนที่แล้วมี Black Monday ลงมาเกือบ 10% จนมีสถานการณ์ปลั๊กหลุด และจันทร์ที่แล้วก็เจอไปอีก -5% กว่า เรียกว่าเป็น Double Black Monday โดยผลกระทบมาจากปัญหาหนี้กรีซ จากนั้นหุ้นก็เริ่มดีดกลับ ขึ้นมาถึง 50 จุด โดยในวันนี้ปิดตลาดภาคเที่ยงที่ระดับ 900.99 จุด ลดลง -8.18 จุด หรือคิดเป็น -0.90% มีปริมาณการซื้อขาย 7,971 ล้านบาท

"อยากเตือนนักลงทุนว่า การขึ้นของหุ้นบ้านเราในช่วงหลัง เหตุผลหลักคือ 1.ต่างชาติขายหุ้น นำเงินออกนอกประเทศ เพราะค่าเงินบาทเราอ่อนลง ทำให้นักลงทุนหันไปถือค่าเงินดอลลาร์กัน 2.ภาวะการถูกฟอร์ตเซลล์ของนักลงทุน ถูกบังคับขายเยอะ 3.พวกป๊อบเทรด พวกโบรกเกอร์ที่มีกองทุนในบริษัท เทรดกันเอง-สร้างวอลุ่มเทียม 4.กองทุนหลายกองทุน มีมาตรการและกฎเกณฑ์คล้ายกันคือ การตัดขาดทุนเมื่อถึง 3% ระดับที่สองคือ 10% ตอนที่หุ้นลงมา ตัวใหญ่ก็แทบทุกตัวที่ถูกขายกันออกมา 5.การช็๋อตเซลล์ของบรรดาขาใหญ่และบรรดากองทุนต่างๆ ทำให้หุ้นตกลงมาเหมือนตกลิฟท์...นี่คือสาเหตุหลักใหญ่ๆ ที่หุ้นตกลงมาในช่วงที่ผ่านมา"นายเอกยุทธระบุ

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า ความเคลื่อนไหวและความเป็นไปได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ท่ามกลางข่าวสารบ้านเราทางด้านการเมืองและธุรกิจที่ยังไม่มีความชัดเจน หลายเรื่องถูกปิดบังมาก อย่างสัปดาห์ก่อน หน่วยงานรัฐ-นักวิชการ ก็ออกมาพูดว่า ความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ ประเมินกันแค่ 2-3 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ตนบอกว่า มีหลายแสนล้านบาท วันนี้เห็นชัดเจนว่า น้ำท่วมไหลเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ประเมินคร่าวๆ หลักแสนล้านบาท และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะอันสั้นจากนี้ไปคือ ภาวะคนตกงานช่วงสั้น เพราะโรงงานที่ได้รับผลกระทบ ต้องปิดซ่อมแซม สินค้าผลิตไม่ได้ ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อไป

"ช่วงนี้ การเล่นหุ้นก็อย่าไปชื่นชมกับตัวเลขของผลประกอบการที่จะออกมา เพราะผลประกอบการของไตรมาส 3 ที่จะออกมา กลุ่ม "พลังงาน-ธนาคาร" น่าจะมีกำไร แต่ในไตรมาส 4 พวกนี้มีผลกระทบแน่"นายเอกยุทธกล่าวและว่า โดยโอกาสที่หุ้นขึ้นมาเด้งช่วงสั้นคือ ระดับ 960-980 จุด ก็อาจเกิดได้ จาก 2 สาเหตุคือ 1.ผลประกอบการจากธนาคาร-พลังงาน มีมากเกินกว่าประมาณการ 2.ข่าวร้ายที่อาจกลายเป็นดี คือกรณีกรีซ จะส่งผลระยะสั้นให้ตลาดตอบรับที่อาจรีบาวด์

นายเอกยุทธ กล่าวต่อว่า แต่ระยะ 2-3 เดือนข้างหน้าจากนี้ ถ้าดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กระทบอย่างหนักแล้ว ตลาดหุ้นคงไปยาก การผลิตจะลดลง คนที่เดือดร้อนก็ต้องการสิ่งต่างๆ เพื่อการยังชีพ มากกว่าจะไปมุ่งหวังจากนโยบายบ้านหลังแรก-รถคันแรก โดยคาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบคือพวกที่มีโรงงานแถวอยุธยาที่เจอน้ำท่วม ซึ่งจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 3-6 เดือน ก็เป็นโอกาสของนักลงทุน ถ้าหุ้นตกแรงๆ อย่างแย่สุดคือ ระดับ 680-740 จุด แต่จุดที่น่าจะรับได้เบื้องต้นคือ 820 จุด ถ้าไม่ต่ำไปกว่าระดับนี้ เพราะภาวะหนี้ของกรีซไม่มีปัญหา มีการช่วยเหลือและผ่อนคลาย ขณะที่บ้านเราตอบรับข่าวน้ำท่วมที่เบาบางได้แล้ว ระดับนี้ก็น่าสะสมได้ แต่หากสถานการณ์ต่างๆ นี้ไม่ดีขึ้น เชื่อว่าตลาดหุ้นคงไปเล่นระดับต่ำกว่า 800 จุดแน่นอน

สำหรับหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์คือ หุ้นค้าปลีก-ขายอาหาร และพวกกิจการยาง เพราะต่างประเทศมีราคากระโดดขึ้นมาสูง พวกนี้จะได้รับผลบวกชัดเจน รวมถึงกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโรงงานที่โดนน้ำท่วม เพราะหลังน้ำลดจะใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้มาก ขณะที่กลุ่มก่อสร้างก็จะได้รับงบประมาณการซ่อมแซม ทำนุบำรุง โดยหุ้นเหล่านี้ ควรเลือกเพียง 5-10 ตัว แล้วคัดมาซื้อจริงๆ แค่ 5 ตัวก็พอ นี่คือทิปในการเล่นหุ้นช่วงจากนี้ หลังหมดภาวะน้ำท่วม

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน-อาหาร-ธนาคาร ก็อยากให้นักลงทุน ลองหาตัวเลขมาดู เพราะหลายบริษัทมีราคาหุ้นลงมามากกว่าครึ่งของการขึ้นไปรอบที่แล้ว โดยลองดูว่า หุ้นดีๆ ที่มีอนาคตหลายตัว ตัวไหนมีราคาลงมามากกว่าครึ่ง แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม และไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ก็น่าเข้าไปสะสม และในระยะ 2-5 ปี จะได้กำไรมากกว่าเท่าตัว โดยต้องซื้อในจังหวะที่ตลาดกำลังแย่

"อย่าลืมว่า ให้เลือกคัดสรรตัวเล่นตามที่บอก และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ประสบภัยธรรมชาติน้ำท่วม แต่ให้ซื้อกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบคือ อาหาร-ค้าปลีก-วัสดุก่อสร้าง"นายเอกยุทธกล่าว

ส่วนราคาทองคำ ยังไม่แนะนำเหมือนเดิม แม้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะมีความพยายามผลักดันให้ถึง 1,800-2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์อีก แต่ราคาทองคำที่จะขึ้นในระดับนี้ได้ ต้องเกิดภาวะเศรษฐกิจแย่จริงๆ และเงินไม่มีที่ไป แต่ช่วงนี้กระแส Flow ของเงิน มีให้เลือกเยอะ ความเป็นไปได้ที่จะขึ้นสูงจริง ก็อาจมีบ้าง แต่ไม่เยอะ จึงไม่น่าจะลงทุน

ทางด้านค่าเงินบาทไทยนั้น จะเห็นว่า ยุคสมัยทักษิณอยู่ ค่าเงินจะปั่นป่วนทุกครั้ง อ่อนค่าลงไปเยอะ และกลับมาแข็งในช่วงที่รัฐบาลแข็งแกร่ง ใครรู้ล่วงหน้า ก็สามารถสร้างกำไรมหาศาล มารอบนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แค่เพียง 2 เดือนจากระดับ 29 บาท ขึ้นมาถึง 31-32 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ขึ้นมา 10% ถ้าคนรู้ล่วงหน้า กำหนดนโยบายได้ ก็รวยมหาศาลแบบไม่มีต้นทุนเลย

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้