รวมข้อผิดพลาดในการเทรด 2018...(Part1) By : โค้ชรัฐ รัฐพล พิทยาวิริยะกุล เพจ Stock Rookie

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 9 กรกฎาคม 2562 ) ----- ก่อนจะสิ้นปี 2018 และก้าวเข้าสู่ปีใหม่...ผมอยากแชร์ประสบการณ์ข้อผิดพลาดในการเทรด ทั้งจากที่ผมเจอเอง..และจากที่พบกับคนที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสไว้หลักๆ 10 ข้อดังนี้

.
1. เทรดหุ้นโดยไม่มีความรู้ : อันนี้เจอบ่อยมากกับมือใหม่ ที่มักจะซื้อหุ้นโดยแทบไม่รู้อะไรเลย หลายท่านที่ผมเจอมาคือ อ่านหนังสือมา หรือฟังตามรายการต่างๆ แล้วก็เข้าตามเลย โดยอาศัยคำว่าหุ้นพื้นฐาน หรือออมเงินในหุ้น แต่ส่วนมาก คนเหล่านี้มักจะลงเงินไม่เยอะ จึงขาดทุนเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่มักจะไม่ stop loss ถึงแม้ขาดทุนเป็นจพนวนเงินไม่เยอะ แต่คิดเป็นเปอร์เซ็นก็เยอะเลย : อันนี้วิธีแก้ไขคือต้องศึกษาให้มากกว่านี้ แรกๆ อยากให้ทดลองเทรดกระดาษก่อน ถ้า 3-6 เดือน โอเค ถึงลงเงินจริง แต่ถ้าอยากเอาจริง ผมแนะนำทางลัดคือ ลงคอร์สสัมนาไปเลย เดี๋ยวนี้มีเยอะ ทั้งที่ฟรี และเสียเงิน หรือจะติดตามทางเพจนี้ก็ได้ครับ ^^

.
2. ขาดการวางแผน : อันนี้คือเจอบ่อยมากๆๆๆ โดนเฉพาะเมื่อเราต้องการเก็งกำไร คนที่เล่นตามทริเกอร์ ติดเทรด คันมือตลอด หรือคนที่พึ่งโดนคัทและอยากเอาคืน อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mindset การยับยั้งชั่งใจ ...การเทรดโดยขาดการวางแผน เหมือนเป็นการเล่นไปตามเกมส์ของคนอื่น...หลายตัวที่เราเห็นในทริกเกอร์คือหุ้นมันขึ้นไปแล้ว แบะพร้อมจะทิ้งตัวได้ตลอด นั่นคือการไล่ราคา เหมือนการวิ่งไล่ราคาที่มันวิ่งออกไปแล้ว ....สิ่งที่ต้องทำสำหรับผมคือ ตั้งสติก่อนเลย...จากนั้นก็หาแนวราคาต่อไป โดยอาจใช้ TF 5 นาทีเข้ามาช่วย หาการพักตัว และหาจังหวะเข้าซื้อต่อไป ทั้งนี้ถ้าเราไม่คิดจะ daytrade เราควรรออีกวันก็ได้ถ้าราคามันไปไกลแล้ว จำไว้เสมอหุ้นขึ้นยังไงก็ต้องย่อ แต่ถ้ามันจะขึ้นอย่างเดียวไม่มีย่อ แบบ SMM ก็ปล่อยไปครับ ถ้าอยากเล่น สำหรับผม คงเอากำไรมาเล่นคือพร้อมเสียและทำเหมือนซื้อหวยไปเลย แต่ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ mindset จะเสียโดยไม่รู้ตัว จะติดการไล่ราคานะครับ

.
3. ไม่ทำตามแผน : อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในข้อที่พบกันบ่อยมากๆ และเป็นปัญหาด้าน Mindset เช่นกัน เหตุผลหลักๆ ทั้งที่เจอกับตัวเอง และคนรอบข้างมาจากหุ้นที่วางแผนไม่มา นิ่งๆ ไม่ไป, เข้าหุ้นก่อนเพราะคิดว่ามันจะไป เช่นหุ้นยังไม่เบรค ก็ไปรีบเข้า ทำให้กลายเป็นไปซื้อแนวต้าน หรือบางทีทำตามแผนแต่ๆๆๆ ยังดูไม่ดีพอ เช่นการรับหุ้นที่แนวรับในตอนที่หุ้นกำลังโดนขาย แล้วหลุด อันนี้แก้โดยต้องอาศัยประสบการณ์ การดูอารมณ์การซื้อ-ขาย การดูการกลับตัวของแท่งเทียน แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากบอกคือ ขาดทุนตามแผน มันแก้ได้โดยปรับแผน แต่การไม่ทำตามแผน มันแก้ไม่ได้ครับ

.
4. ขาดการโฟกัส เปลี่ยนหุ้นบ่อย : อันนี้จะเกี่ยวเนื่องจากข้อ 2-3 เพราะส่วนมากการไม่โฟกัส หรือเปลี่ยนหุ้นบ่อย เกิดจากการที่หุ้นที่เราทำการบ้าน วางแผนมา มันยังไม่ไป หรือมันยังไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งเป็นแบบนี้บ่อยมากๆ เทรดเดอร์ที่ดีควรรอให้เป็น และคิดเสมอว่า หุ้นที่เราดูมันตลอด เห็นพฤติกรรมมันตลอด (แล้วไอ้ที่ให้ดูพฤติกรรม มันดูอะไร...สำหรับผมคือดูนิสัยหุ้นครับ เช่น การที่มันเบรกแล้วมันชอบย่อลึกไหม มันชอบทำเข็มหรือบ่าว ปกติการซื้อขายแต่ละวันมันมี vol เท่าไหร่ รวมไปถึงการวาง bid offer กาาซื้อแต่ละไม้ว่าประมาณเท่าไหร่ เช่นไม้ 100,000 หรือไม้ 100 มันส่งผลยังไง มันเป็นยังไง...พยายามเปรียบเทียบตอนมันเป็นปกติ..เพื่อที่จะได้รู้ว่าเวลามันอารมณ์ดี พร้อมเบรกขึ้นมันเป็นยังไง หรือตอนอารมณ์กลัวมันเอาลงยังไง ผมเคยพูดกัน นักเรียนเสมอว่าให้เราคิดเสมือนว่าทั้งตลาดมีหุ้นแค่ 3-5 ตัวที่เราสนใจและโฟกัสพอ จะช่วยให้เราทำกำไรได้ดีขึ้นมากๆ

.
5. หวังกำไรนิดหน่อย : อันนี้ผมว่าหลายคนเป็นคือรู้หละว่าไล่ราคา รู้หละว่ายังไม่ถึงจุดที่ต้องเข้า ส่วนมากมักจะเป็นกันคนที่มีความรู้ มีหน้าเทรดนะ แต่หวังกำไรแต่ 1-2 ช่อง เลยเข้า ข้อนี้บอกเลยว่าสร้างความเสียหายกับพอร์ตมันนักต่อนักแล้ว เพราะพอเราทำแบบนี้บ่อยๆ เราจะติดนิสัยเอากำไรแค่ 1-2 ช่อง นำมาซึ่ง การกำไรขาดทุนพอๆ กัน และตามมาด้วยการไม่ยอมคัท ดังนั้นจึงเกิดการได้เหรียญ เสียแบงค์ เกิดขึ้น คือกำไรนิดเดียว แต่ขาดทุนหนัก ดังนั้นทางที่ดีคือ อย่าหวังเพียงกำไรเล็กน้อย จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง...

.
จะเห็นว่าหลักๆ จะเป็นด้าน Mindset แทบทั้งนั้น จะมีด้านวิธีการก็เล็กน้อย ซึ่งเรื่อง Mindset สอนกันไม่ได้ ต้องฝึกบ่อยๆ จนชิน...เดี๋ยวผมจะมาต่อเนื้อหาในส่วนที่ 2 (ข้อ 6-10) อีกทีนะครับ ^^

โค้ชรัฐ รัฐพล พิทยาวิริยะกุล เพจ Stock Rookie