ทีมงานหุ้นอินไซด์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารไฟแรง "พีระพงศ์ จรูญเอก"  บิ๊ก บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ นามซื้อขายในกระดานหุ้นว่า ORI  โดยออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ก่อตั้งปี 52 ด้วยผู้บริหารคนเก่ง เเย้มจะเคาะราคา IPO  28 ก.ย  คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัยพ์(SET) 7 ต.ค. นี้  เดินหน้ารุกตลาดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเน้นแถบรอบนอกของกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมยิ้มรับมาตรากระตุ้นอสังหาฯ ของคลัง ช่วยหนุนอุตสาหกรรมอสังหาฯ มีเงินหนุนเวียนในระบบ แถมสร้างความน่าสนใจให้หุ้น ออริจิ้น  แถมตุนBacklogราว 6 พันล้านบาท เตรียมรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 2.1 พันล้านบาท ที่เหลือรับรู้ยาวถึงปี 60  ยังปักธงรายได้ 5 ปีจากนี้ แตะ2 หมื่นล้านบาท

Q : ฉาพภาพธุรกิจ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI
            เดิมทำอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้วเคยทำเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ด้วย ส่วนตัวผมเองจริงเป็นวิศวกรโยธา แต่มองว่าธุรกิจอพาร์ทเม้นเป็นขาลง คนหันมาสนใจคอนโดกันเยอะขึ้น เลยต้องเปลี่ยนธุรกิจ ใน6-7 ปีก่อนเลยต้องคิดว่าทำคอนโดแล้วแหละ และเราก็มีประสบการความรู้ด้านการก่อสร้างเรารู้ค่อนข้างละเอียดคิดว่าประสบ การตรงนี้ช่วยได้ เลยเริ่มทำ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ตอนปี 52 และเลือกตั้งชื่อบริษัทฯว่า ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ความหมายว่าเป็นสิ่งเริ่มต้นดีๆ  และเราประกาศตัวว่าเราเป็นดีเวอลอปเปอร์ที่เป็นเจ้าตลาดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า รายเดียว ที่เน้นแถบรอบนอกของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยขยายมา 4 เส้นทางแล้ว  ซึ่งข้อดีของเราเองเป็นอสังหาฯที่ไม่ได้ใหญ่มากนักความเสี่ยงก็เลยไม่สูงมาก และเป็นเจ้าตลาดที่คนแข่งขันไม่เยอะ
 โครงการของเราณ วันที่ 30 มิถุนายน2558 บริษัทฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมที่ปิดโครงการแล้ว จำนวน 1 โครงการ โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 21 โครงการ โดยแบ่งเป็น โครงการที่พัฒนำแล้วเสร็จจำนวน 8 โครงการ (ซึ่งเป็นโครงการของออริจิ้น วัน 1 โครงกำร ได้แก่ โครงการ B-Loft สุขุมวิท 109)และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา จำนวน 13 โครงการและโครงการในอนาคต จำนวน 5 โครงการ 
 
Q :  ความคืบหน้าเข้าตลาด
              เราคาดว่าจะกำหนดราคา IPO 28 ก.ย และเซ้นอันเดอร์ไรท์ 29 ก.ย จะเข้าซื้อขายในSET ประมาณ 7 ตุลาคม และเท่าที่กสิกรกรประเมินนั้นความต้องการนั้นคาดว่ายอดจองจะล้น หลังจากเราไปให้ข้อมูลมาหลายที่ ทั้งนี้เราจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคต รวมถึงการซื้อที่ดินและ เป็นเงินทุนหมุนเวียน หุ้นเราเป็นหุ้นที่มีการเติบโตเยอะที่สุด ROE 138 % ในขณะที่ฐานทุนไม่เยอะ  D/E หลังIPO ก็จะเหลือ1.4 เท่าจาก 3.7 เท่าตามในไฟลิ่ง   หุ้นผมมีการรับรู้รายได้เหมือนแนวราบผมมีการเรียงไว้ให้รับรู้สม่ำเสมอคับ
           ทั้ง นี้ ORI  มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น  25 % ของทุนจดทะเบียนของบริษัทภายหลัง IPO โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในเดือนตุลาคมนี้  ประกอบกับยังมีการจ่ายปันผลต่อเนื่องโดยฯ มีนโยบายจ่ายเงิน ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่ำร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ

Q : เป้าหมายยอดขายและรายได้ ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง
              ปีนี้เราตั้งเป้าPresale ไว้ที่ 5พันล้านบาท ปัจจุบันทำได้แล้ว 4.5 พันล้านบาท คาวด่าน่าจะทำได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้หรือทำได้ประมาณ 6 พันล้านบาท  ส่วนปี 59 ตั้งเป้ายอดขาย 8.5 พันล้านบาทและปี60  จะมียอดขายแตะ 1หมื่นล้านบาท  เราคิดว่าปี 59 จะเป็นบริษัทที่ทำกำไรสูงสุดติด 1ใน10 บริษัทฯ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วยรายได้ปีนี้คาดว่าทำได้ 2.1 พันล้านบาท  มาจาการรับรู้รายได้Backlogราว 6 พันล้านบาท โดยBacklog ดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ถึงปี 60  อย่างไรก็ดีคาดว่ารายได้จะแตะ2 หมื่นล้านบาทใน 5 ปีซึ่งเป็นแผนในอนาคต
 แม้ว่าคอนโดจะล้นตลาดในทำเลที่แข่งขันสูงๆ ชั้นในกทม. ทุกวันนี้ความเปลี่ยนกำลังจะเกิดขึ้นกับพฤษติกรรม คือการเปลี่ยนแนวราบเป็นคอนโด 5 ปีก่อนสัดส่วนคอนโดและแนวราบอยู่ที่ 50:50 แต่ปัจจุบันนี้แนวราบ 30 % เอง วันนี้ไปถามผู้ประกอบการหาที่ดินทำทาวเฮ้ายากแล้วที่ดินราคาแพง ฉะนั้นปีหน้าแนวราบอาจจะเหลือ 20% เท่านั้น คนที่จะซื้อคอนโดในกทม.คงน้อยแล้วราคาก็สูงมาก ต้องหันออกไปรอบข้างมาก  อย่างก็ตามใน 2-3 ปีนี้จะโตเป็นเท่าตัว

Q :  ยอดปฎิเสธสินเชื่อเป็นอย่างไรบ้าง
             ยอดปฎิเสธสินเชื่อปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5-10 % ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 15-20 %  ลูกค้าเราส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ดี แต่ตอนนี้เกณฑ์แบงค์ก็สูงด้วย เพราะกลัว NPL

Q : ด้านมาตราการกระตุ้นอสังหาฯ ของคลังล่าสุดส่งผลดีอย่างไรบ้าง
            มาตรากระตุ้นอสังหาฯเรารออยู่นะ คิดว่าช่วยวงการอสังหาฯได้จริง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหมุนเวียนได้อีก 5-6 รอบ คนทำวัสดุก่อสร้างต้องมีโรงงาน คือตั่งแต่คนซื้อจนถึงคนผลิต ถือว่าดีมาก จริงๆ ช่วยกระตุ้นทั้งระบบ มีผลกับเราเยอะนะเราทำคอนโดส่วนมาก 1-3 ล้าน เฉลี่ยออกมา 2 ล้านบาทพอดี  ช่วยให้หุ้น ออริจิ้น มีเสน่เพิ่มขึ้นด้วย

Q ฐานะทางการเงิน
            ณ สิ้นปี 2554 ปี 2555 ปี 2556 ปี2557 และสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2558 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม จำนวน 121.4 ล้านบำท 459.6 ล้านบาท 1,011.0 ล้านบาท 1,909.8 ล้านบาท และ 2,451.1  ล้านบาท ตามลำดับ โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อ ขาย ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2554 ปี 2555 ปี 2556 ปี2557 และสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2558 บริษัทฯ มีหนี้สินรวม จำนวน 86.4  ล้านบาท 247.0  ล้านบาท 710.2  ล้านบาท1,623.1  ล้านบาท และ 2,073.8  ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 35.0  ล้านบาท 212.7  ล้านบาท 300.8  ล้านบาท 286.7  ล้านบาท และ 377.3  ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 2554 ปี 2555 ปี 2556 ปี 2557 และสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2558 คิดเป็น 2.47 เท่ำ 1.16 เท่า 2.36 เท่า 5.66 เท่า และ 5.50เท่า ตามลำดับ และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น คิดเป็น 1.22 เท่า 0.57 เท่า 1.10 เท่า 3.60 เท่า และ 3.68 เท่า ตามลำดับ