ผู้บริหารคนเก่ง "สุรเชษฐ์  กมลมงคลสุข"  กรรมการ บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC ปักธงปีหน้าฟ้าสดใส ย้ำธุรกิจจะกลับมามีกำไร หลังมีแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีกว่า 60 ล้านบาทหมดเกลี้ยง แม้ปีนี้ผลการดำเนินงานดูจะสะดุดตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ไม่หวั่นเดินหน้าลดต้นทุน สร้างโรงงานใหม่ดันมาร์จินกลับเข้าที่ 20-30 % จากปัจจุบันลดลงมา 10% แถมเดินหน้าขยายธุรกิจรับ AEC ดันสัดส่วนรายได้เพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ 10% หวังกระจายความเสี่ยงหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ  ได้ยินแบบนี้แล้วผู้ถือหุ้นคงต้องอดใจรอสักนิด.....รับรองมีข่าวดีเร็ววัน แน่นอน

Q : ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
     ครึ่งปีแรกเราก็ได้ไม่ตามเป้าหมายครับตั้งไว้ว่าต้องมีรายได้ 400 ล้านบาทแต่ทำได้ประมาณ 300 ล้านบาท เพราะลูกค้าบางรายก็มีการเลื่อนคำสั่งซื้อออกไป หรือ รับออเดอร์มาแล้วอยากให้ส่งมอบปีหน้าก็มีประกอบกับเศรษฐกิจชะลอตัวเรา ก็แย่ด้วยกระทบต่อกำลังซื้อการตัดสินในซื้อสินค้าด้วยซึ่งเราก็ต้องมาทบทวน ใหม่ในเรื่องการดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ เพราะครึ่งปีแรกเรายังขาดทุนอยู่ 64 ล้านบาทเป็นการขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อนที่ขาดทุนประมาณ 40 ล้านบาท

Q : ปีนี้จะกลับมามีกำไรได้หรือไม่ แล้วเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเป็นอย่างไร 
     ส่วนปีนี้จะกลับมามีกำไรได้หรือไม่ยังเป็นเรื่องที่ตอบลำบากจริงๆ ต้องดูสถานการณ์ครึ่งปีหลังประกอบด้วยว่าจะเป็นอย่างไร เพราะครึ่งปีแรกที่เราขาดทุนนั้น ที่จริงเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสื่อนค่าเครื่องจักรเป็นค่าใช้ จ่ายทางบัญชีซะมากกว่า
    แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีและก็พยายามลดต้นทุนด้วยการย้ายโรงงานมารวมกัน การดูผลิตภัณฑ์ที่มีาร์จินสูงออกมาผลักดันให้จำหน่ายๆได้มาก รวมไปถึงการที่หาสินค้าที่เป็นความต้องการกับตลาดด้วยให้ยอดขายของเราไม่ตก ซึ่งเราก็หวังอยากจะให้ตัวอัตรากำไรขึ้นต้นมันกลับมาปกติได้ ที่ 20-30 % จากปัจจุบันลดลงเหลือ10 % เอง
    รายได้ปีนี้คิดว่าคงต่ำกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ประมาณ800 ล้านบาท เพราะอย่างที่เห็นภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้เราก็โดนกระทบลูกค้าเลื่อนคำสั่งซื้อ หรือบางรายก็ไปส่งมอบปีหน้าทำให้เป้าหมายไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เป้ารายได้ของเรานั้นมีออเดอร์หมดแล้วซึ่งเรา ไม่ได้พึ่งพิงรัฐมากสัดส่วนงานรัฐเราเพียง 20 % เท่านั้นเอง

Q : ปีหน้าจะมีกำไรได้ไหมจะล้างขาดทุนสะสมหมดได้หรือไม่
     คือมันเป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้วที่จะทำให้บริษัทฯ กลับมามีกำไร และภายหลังจากที่มีกำไรแล้วเราก็คิดว่าจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาล้างขาดทุน สะสมให้หมดก่อน ซึ่งเรามีขาดทุนสะสมประมาณ 60 ล้านบาท

Q : งานที่อยู่ในมือมีเท่าไหร่
     งานในมือของเราตั่งแต่ต้นปีมีประมาณ 500 ล้านบาท ครึ่งปีแรกรับรู้ไปแล้ว 300 ล้านบาทเหลือประมาณ 200 ล้านบาทที่จะรับรู้ช่วงที่เหลือของปีนี้

Q : บริษัทฯ จะมีลงทุนทำอะไรไหม
     แผนการลงทุนของเราตอนนี้ก็มีเรื่องการทำโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นการเป็นสร้างโรงงานที่ชลบุรีแต่เป็นการนำ3 โรงงานเดิมที่เรามีมาไว้ด้วยกันเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายลดการใช้บุคลากร ด้วย ส่วนเงินลงทุนเดิมเราคิดไว้ว่าประมาณ 255 ล้านบาทแต่ตอนนี้ใช้ไป 300 ล้านแล้วเราก็ไปกู้มา อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) เราอยู่ที่ 1 เท่าตอนนี้
 
Q : แผนการขยายไปต่างประเทศ
     แผนการขยายต่างประเทศนั้นเราดูมาตลอดเลยซึ่งเรามีงานที่จะเตรียมส่งมอบตอน นี้เป็นงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ประเทศอียิปส์ ในช่วงไตรมาส 3/58 มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ตอนนี้เรามีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศประมาณ 10 % ปีหน้าเราจะขยาย AEC เราคิดว่าสัดส่วนรายได้เราน่าจะมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องการกระจายความเสี่ยงจากงานในประเทศที่ชะลอไปเพราะจริงๆ ต่างประเทศยังมีอัตราการเติบโตได้อีก แม้เศรษฐกิจจะดีชะลอตัวออกไปบ้าง
 
Q : เงินที่เพิ่มทุนจะนำไปทำอะไร
     ล่าสุดที่เรามีการเพิ่มทุนนั้น โดยเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 4 หุ้นเดิมได้ 1 หุ้นใหม่ราคา 2 บาท หรือเป็นการเพิ่มทุนขึ้นมาอีก 72.5 ล้านหุ้น ทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 362.5 ล้านบาท  และคนที่เพิ่มทุนจะได้รับสิทธิ์วอแรนท์ฟรีในอัตรา 2 หุ้นต่อ 1 วอร์ จริงๆ เราต้องการเงินตรงนี้ไปเป็นทุนหมุนเวียนมากกว่าและก็เพื่อสนับสนุนงานด้าน การออกแบบและผลิตเครื่องจักรเพื่อกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนมีบทวิเคราะว่าเราจะเอาไปซื้อกิจการไหมอะไรไม่เป็นความจริงเราจะโฟกัส ธุรกิจของเราให้มันดีเสียก่อนตอนนี้ค่อยคิดเรื่องอื่น

Q : มีกระแสว่าเราจะย้ายเข้า SET จริงไหม 
     ไม่จริงเลยคับตอนนี้ไม่มีแผน

Q : อยากให้ประเมินสถานกาณ์อุตสาหกรรมเราตอนนี้
     สถานการณ์ตอนนี้ผมว่าทุกธุรกิจต้องกลับมาดูว่าเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไร เศรษฐกิจโลกเป็นอย่างไร แม้แต่ตลาดหุ้นเองก็ยังเหนื่อยเลย เป็นการประบตัวลดลงมาตามตลาดหุ้นต่างประเทศซึ่งพากันปรับตัวลดลงด้านหุ้น TMC เองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้คงต้องมาดูว่าเราจะดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างไรต่อจากนี้แผนของเราก็ คงลดต้นทุนบุกไปต่างประเทศมากขึ้นกระจายความเสี่ยง