สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(13สิงหาคม2563)---------หุ้น SPA ได้ประโยชน์จากข่าววัคซีนรัสเซียได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขรัสเซีย นอกเหนือหุ้นในกลุ่มสายการบิน โรงแรม โรงเรียน และโรงภาพยนตร์ อย่าลืมมองธุรกิจสปา เชื่อว่าข่าววัคซีนจะแรงหนุนจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาหุ้น SPA หากมองข้ามระยะสั้น และข่าววัคซีนที่เกิดขึ้นของรัสเซีย จึงมองกลุ่มธุรกิจสปามีความน่าสนใจต่อการลงทุนระยะกลาง-ยาวในการฟื้นตัว

 แม้ว่างบ Q2 คาดว่า จะขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2557 เนื่องจากบริษัทปิดให้บริการไปกว่า 2 เดือน (ตั้งแต่ 18 มี.ค.) ซึ่งงบ Q2/63 น่าจะแย่ที่สุดของ SPA ผ่านไปแล้ว

 โดยราคาหุ้นได้รับผลกระทบ  ตั้งแต่ต้นปีจากภาวะเศรษฐกิจบ้านเริ่มชะลอตัว และข่าวการแพร่ระบาด Covid-19 ช่วงปลายเดือนมกราคม ราคาหุ้น SPA เริ่มลงจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป ก่อนจีน ประกาศปิดประเทศเดือนมีนาคม และหลายๆ ก็ทยอย Lockdown เช่นเดียวกับประเทศไทย ส่งผลให้ราคาหุ้นสูงสุดที่ 15.20 บาทเมื่อเดือนมกราคม ค่อยๆ ปรับตัวลงอย่างยาวนาน โดยราคาลงมาต่ำสุดที่ 5.35 บาทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมนี้เอง และราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวจากข่าววัคซีนของรัสเซีย และหากพิจารณาราคาหุ้นที่ลงมาสะท้อนรับผลประกอบการที่ขาดทุนไปแล้ว และความเสี่ยงราคาหุ้นลงแรงเริ่มจำกัดในการลงทุน  ดังนั้นถ้าข่าววัคซีนของรัสเซีย  จุดความหวังว่า จะมีใช้ได้เร็วขึ้นอย่างน้อยในสิ้นปีนี้ ทำให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเด้งกลับค่อนข้างแรง

 และเมื่อพิจารณา Price Pattern ราคาหุ้น SPA คล้ายคลึงกับ AAV ที่ราคาเริ่มลงจาก 2.30 บาทเมื่อเดือนมกราคม และลงมาต่ำสุดที่ 1 บาทเดือนมีนาคม ด้วยปัจจัยคล้ายกันนักท่องเที่ยวจีนหาย และไทย  ประกาศปิดประเทศ
ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ รวมถึงงบ Q1 ขาดทุน 670 ล้านบาท แต่ราคาหุ้น AAV เด้งจาก 1 บาท ไปถึงสูงสุด 2.48 บาท แม้ว่าสายการบินจะถูกกระทบอย่างหนักในการปิดประเทศ และงบ Q2/63 ขาดทุนถึง 1,140 ล้านบาท สรุปครึ่งปีแรกขาดทุน 1,810 ล้านบาท
 แต่ราคาหุ้นไม่ได้ต่ำกว่าจุดต่ำเดิมที่ 1 บาทเลย

 ฉะนั้น SPA ที่ลงมาต่ำสุด 5.35 บาท ทำให้ Downside Risk จำกัด และโอกาสเกิด Technical Rebound เหมือนราคาหุ้น AAV ที่อยู่ในกลุ่มการท่องเที่ยวเหมือนกัน เชื่อว่า SPA จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รอบใหม่จากทีมเศรษฐกิจที่แต่งตั้ง อาทิ มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ฉะนั้นพิจารณากราฟ  มีโอกาสฟื้นตัว  ทดสอบแนวต้าน Downtrend line ที่ 5.90 บาท และหากยืนไปได้สำเร็จจะเกิดสัญญาณกลับตัวขึ้นจริงจัง โดยมีเป้าหมาย 6.50 บาท หรือ 7 บาท แต่ถ้ายืนไม่ได้อาจต้อง sideway สร้างฐานราคาเพื่อขึ้นต่อไป