
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 ตุลาคม 2561)
SONIC ไม่หวั่นภาวะตลาดหุ้นผันผวน มั่นใจเทรดวันแรก ไม่ทำให้ผิดหวัง ชูปัจจัยพื้นฐานสุดแกร่ง ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ด้าน"สันติสุข โฆษิอาภานันท์" บิ๊กบอส SONIC เชื่อเทรดวันแรก ผลตอบรับดีจากนักลงทุน แม้ตลาดหุ้นผันผวน เหตุช่วงโรดโชว์สุดคึกคัก - ยอดจอง IPO เกลี้ยง
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยว่า การที่ภาวะตลาดหุ้นผันผวน มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้น SONIC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ วันแรกวันพรุ่งนี้(19ตุลาคม) เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งบริษัทฯดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรและมีโอกาสเติบโตจากภาคการส่งออกของไทยที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงที่ไปโรดโชว์ข้อมูลหุ้น SONIC ในหลายจังหวัด นักลงทุน ก็ให้ความต้อนรับเป็นอย่างดี
"เรามั่นใจมาก สำหรับการเข้าเทรดใน mai ในวันพรุ่งนี้ (19 ตุลาคม 2561) เป็นวันแรก ว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน แม้ว่าตลาดจะผันผวน เราก็ยังมั่นใจ เพราะว่าจากการที่เราไปโรดโชว์มาหลายจังหวัดนักลงทุนให้การตอบรับที่ดี เพราะเข้าใจในการทำธุรกิจ และแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ อีกทั้งยอดจอง IPO ที่เปิดขายวันที่ 2 ก็หมดเกลี้ยงแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าหุ้นของเรา FA ตั้งราคาต่ำ ที่ 1.95 บาท และมีดิสเคาท์เยอะ โดยมี P/E อยู่ที่ 21.67 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกที่เฉลี่ยอยู่ที่ 32 เท่า และบทวิเคราะห์ยังได้ประเมินราคาพื้นฐานของเราไว้ที่ประมาณ 3 บาทต่อหุ้น" ดร.สันติสุข กล่าว
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 292.5 ล้านบาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) บริษัทฯจะนำไปใช้ซื้อที่ดินและอาคารสาขา จำนวน 60ล้านบาท รวมถึงใช้ในการซื้อรถขนส่ง เพื่อรองรับการขนส่งทางบกที่จะขยายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จำนวน 60ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีรถหัวลากประมาณ 70 คัน และหางลากประมาณ 160 คัน และใช้พัฒนาศูนย์รวบรวม และกระจายสินค้า จำนวน 60ล้านบาท ขณะเดียวกันจะใช้พัฒนาระบบเทคโนโลยี จำนวน 20ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทเพื่อใช้เป็นฐานทุนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 21-22% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ5% โดยบริษัทฯมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าและให้บริการมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทฯมีฐานลูกค้ารวมทั้งหมดประมาณ 4,000 ราย ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯจะมาจากการขนส่งสินค้าทางทะเล 65% การขนส่งสินค้าทางบก 25% ส่วนที่เหลือจะเป็นการส่งสินค้าทางอากาศและอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม กรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ไม่ได้ส่งผลกระทบการให้บริการของบริษัทฯ เพราะบริษัทฯมีกลยุทธ์ที่จะช่วยให้สินค้าสามารถดำเนินการผ่านจากจีนไปขายที่สหรัฐได้อย่างถูกวิธี โดยวิธีการนำสินค้ามาพักไว้ที่ประเทศไทย ซึ่งบริษัทฯก็เป็นตัวกลางในการนำส่งสินค้าต่อไป
SONIC