Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews: ORI จ่อปรับเป้ารายได้-ยอดขาย ลุยเปิดโครงการใหม่แบรนด์ "พาร์ค ออริจิ้น" 3 โครงการรวม 4 หมื่นลบ.

2,708

 

        สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 6 สิงหาคม   2561) ------ ORI เตรียมปรับเป้า รายได้-ยอดขายในครึ่งปีหลัง หลังตลาดอสังหาฯฟื้นตัว-คาดปีนี้ ลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นอยู่ที่25-30%เทียบปีก่อน อยู่ที่20% กางแผนเปิดโครงการคอนโดฯใหม่ ครึ่งปีหลัง รวม 3 โครงการ มูลค่า4หมื่นลบ. เล็งโกยยอดขาย60 - 70% ช่วงเปิดตัว  โบรกฯ คาด กำไรปกติ Q2/61 โตเด่นทั้ง Q-Q และ Y-Y  ชูเป็น  Top Pick   คงคำแนะนำซื้อ  เคาะเป้า  25.40 บาท

        นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมปรับเพิ่มเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้   จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท  และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 20,000 ล้านบาท   ซึ่ง ณ สิ้นเดือน มิถุนายน บริษัทฯ มียอดขายแล้ว  12,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมกำลังซื้อฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศ

        ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่  30,000 ล้านบาท  คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะรับรู้เป็นรายได้  9,000 ล้านบาท และที่เหลือรับรู้ต่อเนื่อง 3 ปี

        สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง  บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรูแบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น 3 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท แต่ภายในโครงการจะเป็นโครงการประเภทมิกซ์ยูสซึ่งส่งผลให้มีมูลค่ารวมทั้งหมด 44,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดตัวเป็นทางการ ในเดือนกันยายน นี้  ที่ทำเลพญาไท ส่วนทำเลทองหล่อ และพร้อมพงษ์ จะเปิดช่วงปลายปี คาดว่าจะมียอดขาย 60-70% ต่อแห่ง ในช่วงเปิดตัวต่อโครงการ ราคาขายเฉลี่ย 200,000 บาทต่อตารางเมตรโดยโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างชาติพอสมควร ซึ่งบริษัทได้เดินทางไปทำการตลาดในฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีนคาดว่าโครงการนี้จะมีสัดส่วนต่างชาติ 30-40%

        ส่วนโครงการแนวราบช่วงครึ่งปีหลังจะเปิด 3 โครงการ 4,000 ล้านบาท
    
        ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรปกติ 2Q18  ORI ที่ 730 ล้านบาท โตเด่น 49% Q-Q และ 206% Y-Y หนุนจากยอดโอนที่คาดแตะระดับ 3.3 พันล้านบาท (+67% Q-Q, +185% Y-Y) จากการเริ่มโอนโครงการใหม่ 4 แห่ง มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท มียอดขายเฉลี่ยแล้ว 66% บวกกับความสำเร็จของการระบายสต็อคจากแคมเปญโปรเหนือเมฆ ขณะที่โมเมนตัมกำไร 2H18 คาดเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง จากการโอนคอนโดใหญ่ Park 24 เฟส 2 เต็มที่ และเริ่มโอนอีก 2 โครงการใหม่ คงคาดกำไรปกติปี 2018 โตแรง +108% Y-Y ทำ All Time High ที่ 2.9 พันล้านบาท และยังเลือกเป็น Top Pick จากภาพการเติบโตที่แกร่งสุดในกลุ่ม โดยคาดกำไรปกติปี 2018-19 โตเฉลี่ย 69% CAGR พร้อมมี Backlog หนุนเป้ารายได้ของเราแล้ว 79% และ 52% ตามลำดับ ขณะที่ Valuation ถือว่าไม่แพง ราคาหุ้นซื้อขายบน PE2018-19 ราว 10-13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และคิดเป็น PEG เพียง 0.35 เท่า จึงคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 25.40 บาท

        ยอด Presales 2Q18 คาดอยู่ที่ 6 พันล้านบาท โตทั้ง 18% Q-Q และ116% Y-Y แม้ไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่ถือว่าน่าพอใจ สะท้อนว่าโครงการเดิม โดยเฉพาะ 3 Knightsbridge ที่เปิดตัวในไตรมาสก่อน สร้างยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังรับอานิสงค์จากกลยุทธ์การระบายสต็อคด้วยการออกแคมเปญโปรเหนือเมฆ ทำให้ยอดขาย 1H18 คิดเป็น 55% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท (+36% Y-Y) ขณะที่การเปิดตัวใหม่จะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี อาทิ คอนโดในโครงการ Mixed-use ที่น่าจับตาอย่าง Park พญาไท และทองหล่อ  มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท รวมถึงแนวราบอีก 3 แห่ง มูลค่า 4 พันล้านบาท ส่งผลดีต่อการสะสม Backlog ให้มีทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะหนุนให้ยอดขายทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ไม่ยาก

        คาดการณ์กำไรปกติ 2Q18 เป็น 730 ล้านบาท โตเด่น 49% Q-Q และ 206% Y-Y โดยมีแรงหนุนหลักมาจากยอดโอนที่คาดแตะระดับ 3.3 พันล้านบาท (+67% Q-Q, +185% Y-Y) จากการเริ่มโอนคอนโดใหม่อย่าง Notting Hill แหลมฉบัง และNotthing Hill แพรกษา รวมถึงอีก 2 โครงการที่โอนได้เร็วกว่าคาดคือ Park 24 เฟส 2 และKensington Kaset Campus มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท มียอดขายเฉลี่ยแล้ว 66% ประกอบกับ Available for sales ที่ลดลงหลังเร่งระบายสต็อค ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นของการขายอสังหาฯฟื้นตัวเป็น 40% จาก 39.2% ใน 1Q18 เนื่องจากสัดส่วนของโครงการที่มีมาร์จิ้นต่ำอย่าง Park 24 เฟส 1 เหลือน้อย หากกำไรปกติ 2Q18 เป็นไปตามที่คาด กำไรปกติ 1H18 จะคิดเป็น 43% ของประมาณกำไรทั้งปีที่ 2.9 พันล้านบาท (+108% Y-Y) สำหรับแนวโน้มกำไร 2H18 คาดเร่งตัวขึ้น จากรับรู้คอนโดใหญ่อย่าง Park 24 เฟส 2 มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท มียอดขายแล้ว 59% เต็มที่ และเริ่มโอนโครงการใหม่อีก 2 แห่ง มูลค่า 3 พันล้านบาท มียอดขายแล้วเฉลี่ย 79%

        ยังเลือก ORI เป็น Top Pick จากจุดเด่นที่เหนือกว่ากลุ่มถึง 3 ด้าน 1) อยู่ในช่วง Growth Stage โดยคาดอัตราการเติบโตกำไรปกติในปี 2018-19 เฉลี่ย 69% CAGR แกร่งกว่ากลุ่มที่เฉลี่ย 20%  2) มี Backlog รอโอนสูงถึง 2.9 หมื่นล้านบาท ช่วยหนุนเป้ารายได้ปี 2018-19 ของเราแล้ว 79 และ 52% ตามลำดับ มากกว่ากลุ่มที่ 20-30% 3) ศักยภาพการทำกำไรสูง จาก GPM ขายอสังหาฯที่ทำได้ 40% และROE ที่ 35% เด่นสุดในกลุ่มที่ 34% และ 16% ตามลำดับ แม้ราคาหุ้นซื้อขายบน PE2018-19 ราว 10-13 เท่า มากกว่ากลุ่มที่ 10 เท่า แต่ยังตำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตของ ORI ที่ 14 เท่า ซึ่งถือว่า Valuation ยังไม่แพง หากเทียบกับ EPS Growth 36% ในปี 2018-19 คิดเป็น PEG เพียง 0.35 เท่า จึงคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 25.40 บาท (สมมติฐาน Full dilution จาก ORI-W1)


        ความเสี่ยง - กำลังซื้ออ่อนแอกว่าคาด, ยอดขายถูกยกเลิก, การปฏิเสธสินเชื่อของธนาคาร, งานก่อสร้างล่าช้า, ยอดขายทำได้ต่ำกว่าเป้า


--จบ--

 

 

ณภัค ภัทรสุปรีดิ์

: เรียบเรียง โทร : 02-276-5976 อีเมล์ : reporter@hooninside.com ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า AIRA มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม

SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า AIRA มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม

ร้อนแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ การเมืองไทย สู่โหมดความร้อนแรง ปรับครม. บนข่าว เพื่อไทย ต้องการเก้าอี้มหาดไทย พรรคภูมิใจ ....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้