HotNews: SKY ประเดิมรับงานของ AOT เฉียด 900 ลบ.
- BROCK สบช่องคุยพันธมิตรผุดโครงการใหญ่กว่า 1 พันลบ.
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 26 กันยายน 2560 ) ------- SKY เผยกิจการร่วมลงทุน "สกาย – เอพี" ได้งานโครงการบริการรถเข็นกระเป๋าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของ AOT มูลค่า 879.02 ลบ. โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินโครงการและเป็นผู้บริหารกิจการร่วมลงทุน (Consortium Leader)
BROCK ตั้งธงโกยรายได้ปีนี้ 100 ลบ. ลุ้นดันยอดขายทะลุ 100 ลบ. หลังเปิด 1 โครงการใหม่ มูลค่า 600 ลบ. คาดผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ระบุตุน Backlog กว่า 40 ลบ.รับรู้ฯช่วงที่เหลือของปี ราว 30 ลบ. แย้มแผนปีหน้าเปิดโครงการใหม่ราว 1-2 โครงการ อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร 2-3 ราย ผุดโครงการใหญ่มูลค่ากว่า 1 พันลบ.
นางสาวกุลนดา โอฬารรักษ์ธรรม กรรมการ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”)SKY เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้ร่วมกับ บริษัท เอพี แมนเนจเม้นท์ จำกัด (“เอพี แมนเนจเม้นท์”) จัดตั้งกิจการร่วมลงทุนสกาย -เอพี (SKY-AP Consortium) เพื่อร่วมกันทาข้อเสนอและยื่นเสนอราคาต่อ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สาหรับโครงการงานจ้างผู้ให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 1 งาน ระยะเวลา 7 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 24 มกราคม 2568 ตามเอกสารประมูลเลขที่ 6RH9-601031/1 ตามประกาศบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2560 นั้น
บัดนี้ กิจการร่วมลงทุนสกาย – เอพี ได้รับหนังสือยืนยันตกลงจ้างและให้ไปลงนามในสัญญาจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 879,026,400.00 บาท (แปดร้อยเจ็ดสิบเก้าล้านสองหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน) โดยมีรายละเอียดขอบเขตงานจ้าง (Scope of Work) ดังนี้
(1) จัดหารถเข็นกระเป๋าขนาดต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามในแต่ละจุดพื้นที่ให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
(2) จัดหารถลากจูงไฟฟ้าชนิดยืนขับได้พร้อมแบตเตอรี่สารอง
(3) จัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ตรวจสอบจานวนรถเข็นกระเป๋า และรถลากจูงไฟฟ้าชนิดยืนขับได้ พร้อมจัดหาพนักงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ร่วมกับพนักงานระดับปฏิบัติการดาเนินการตรวจสอบจานวนรถเข็นกระเป๋าและรถลากจูงไฟฟ้าชนิดยืนขับได้
(4) จัดทำความสะอาด ดูแลและซ่อมบารุงรักษารถเข็นกระเป๋าและรถลากจูงไฟฟ้าชนิดยืนขับ รวมถึงการดูแลซ่อมบารุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานได้ตลอดระยะเวลาของสัญญา
ทั้งนี้ ตามสัญญาร่วมลงทุนของกิจการร่วมลงทุนสกาย – เอพี ได้กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบร่วมดำเนินโครงการระหว่างบริษัทกับเอพี แมนเนจเม้นท์ โดยบริษัทรับผิดชอบดำเนินโครงการคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของมูลค่าโครงการ และ เอพี แมนเนจเม้นท์ รับผิดชอบดำเนินโครงการคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของมูลค่าโครงการ โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินโครงการและเป็นผู้บริหารกิจการร่วมลงทุน (Consortium Leader)
ทั้งนี้ กิจการร่วมลงทุนสกาย – เอพี มีภาระผูกพันที่จะดำเนินการส่งมอบงานให้เสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้ หากโครงการดังกล่าวมีความล่าช้า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีสิทธิในการปรับคู่สัญญาจนกว่าจะดำเนินงานส่งมอบแล้วเสร็จเนื่องจากการโครงการงานดังกล่าวมีมูลค่าโครงการที่เป็นสาระสำคัญ และเพื่อให้นักลงทุนได้ทราบอย่างทั่วถึง บริษัทจึงเห็นสมควรเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน)หรือ BROCK เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทคาดผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 47.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.60 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่มีความต้องการสูง ซึ่งโครงการเหลือขายของบริษัทเป็นโครงการประเภทดังกล่าว โดยบริษัทมีสต๊อกเหลือขายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยขายอย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าจะสามารถขายหมดได้ภายในปี 2561
ทั้งนี้บริษัทยังมียอดขายรอโอน(Backlog) อีกกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปี ราว 30 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 75.44 ล้านบาท ส่วนยอดขายคาดทำได้กว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทเปิดโครงการใหม่ในช่วงต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เป็นโครงการประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันมียอดขายในส่วนของโครงการดังกล่าวมาแล้ว 16%โดยคาดทั้งปีจะมียอดขายจากโครงการนี้ 20% และเชื่อว่าในปีถัดไป จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 50%
ขณะที่ในปี60 บริษัทจะเร่งปิดการขายโครงการบ้านร็อคการ์เด้น บายพาส 6 เฟส 1 โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปีนี้ และได้ดำเนินการวางแผนพัฒนาการก่อสร้างโครงการบ้านร็อคการ์เด้น บายพาส 6 เฟส 2 อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรที่ประกอบธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ ราว 2-3 ราย ซึ่งมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามรูปแบบการลงทุนว่าจะเป็นการลงทุนในลักษณะใดยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้ แต่ในเบื้องต้น จะร่วมกันลงทุนก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ คาดมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท
" ตอนนี้เรามีการเจรจาทั้งการเข้าซื้อกิจการและโครงการร่วมทุนซึ่งตอนนี้มีคุยกัน ประมาณ 2-3 ราย และหวังจะสร้างโครงการร่วมกัน มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1000 ล้านบาท ซึ่งหากได้ข้อสรุปการลงทุนเมื่อไหร่เราจะแจ้งให้ทราบทันที แต่เบื้องต้นจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ราย และที่เจรจาอยู่อยู่นั้นมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยด้วย " นายวิรัตน์ กล่าว
ขณะที่ในปี61 บริษัทยังมีแผนเปิดโครงการใหม่ประมาณ 1-2 โครงการ
----จบ----