สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 ธันวาคม 2568)----------บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI แจ้งการครบกำหนดช่วงระยะเวลาห้ามขายหุ้นและการดำเนินการคืนใบหุ้นสำหรับหุ้นซึ่งได้รับจัดสรรจากการแปลงหนี้เป็นทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ

ตามที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุนและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการจนเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์”) ได้อนุมัติให้หลักทรัพย์ของบริษัทฯ พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และให้กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 นั้น

เพื่อความสำเร็จของการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพด้านราคาหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ผู้บริหารแผนได้กำหนดห้ามเจ้าหนี้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุน รวมถึงผู้รับโอนหุ้นดังกล่าวในทุกทอดในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ขายหุ้นที่ได้รับจัดสรรจากการแปลงหนี้เป็นทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ โดยหุ้นดังกล่าวอยู่ในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) แบ่งเป็นใบหุ้นฉบับที่ 1 สำหรับหุ้นจำนวน 25% ของหุ้นทั้งหมดที่ได้รับจัดสรร

และใบหุ้นฉบับที่ 2 สำหรับหุ้นจำนวน 75% ของหุ้นทั้งหมดที่ได้รับจัดสรร จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่หุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่กลับเข้าซื้อขาย ให้บุคคลดังกล่าวสามารถขายหุ้นได้ไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่ถูกห้ามขายทั้งหมด โดยในช่วงระยะเวลาห้ามขาย หุ้นทั้งหมดจะถูกเก็บรักษาไว้กับผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ที่บริษัทฯ กำหนด (“ข้อกำหนด Creditors’ Lock-up”)

นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ในการนำหุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขาย บริษัทฯ ได้กำหนดห้ามผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร (Strategic Shareholders) ขายหุ้นที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดห้ามขายจำนวนทั้งสิ้น 15,566,810,362 หุ้น หรือคิดเป็น 55% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่หุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลังครบกำหนด 6 เดือนนับแต่วันดังกล่าว บุคคลแต่ละรายสามารถขายหุ้นได้ไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่ถูกห้ามขายทั้งหมด

ทั้งนี้ หุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดห้ามขาย (Silent Period) ซึ่งอยู่ในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ได้ถูกฝากไว้ในบัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Issuer Account หรือบัญชี 600) กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (“TSD”) โดยเมื่อรวมจำนวนหุ้นที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนด Creditors’ Lock-up และข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะมีหุ้นที่ถูกห้ามขายรวมทั้งสิ้น 26,403,433,451 หุ้น หรือคิดเป็น 93% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ

ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 ระยะเวลาห้ามขายหุ้นในช่วง 6 เดือนแรกจะครบกำหนดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2569 (“วันที่ครบกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้นในคราวแรก”) และระยะเวลาห้ามขายหุ้นในช่วง 1 ปีจะครบกำหนดในวันที่ 3 สิงหาคม 2569 ตามลำดับ โดยเมื่อครบกำหนด 6 เดือน จะมีหุ้นจำนวน 6,600,859,237 หุ้น หรือคิดเป็น 23% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ หลุดพ้นจากข้อกำหนดห้ามขาย และเมื่อครบกำหนด 1 ปี จะมีหุ้นอีกจำนวน 19,802,574,214 หุ้น หรือคิดเป็น 70% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ หลุดพ้นจากข้อกำหนดดังกล่าว

สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 25% ของหุ้นที่ได้รับจัดสรรจากการแปลงหนี้เป็นทุน ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อกำหนด Creditors’ Lock-up และจะครบกำหนดระยะเวลาห้ามขายเมื่อพ้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2569 นั้น คณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ได้มีมติกำหนดทางเลือกวิธีการรับคืนใบหุ้น รวมถึงรายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดวิธีการรับคืนใบหุ้น 2 วิธี ได้แก่ การรับใบหุ้นผ่านทางไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษ (EMS) ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือการรับหุ้นในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผ่านการฝากหุ้นเข้าบัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Issuer Account หรือบัญชี 600) ที่บริษัทฯ เปิดไว้กับ TSD

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุน หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้รับโอนหุ้นดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการและทางเลือกในการรับคืนใบหุ้นได้จากเอกสารที่ส่งมาด้วย และสามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับเต็มเพิ่มเติมจากหนังสือแจ้งที่จะจัดส่งให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายตามอีเมลที่ได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ รวมถึงประกาศในเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทฯ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ