Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ออมสิน ออกมาตรการช่วยผู้ประสบภัยใต้ พักหนี้-ไม่คิดดอกเบี้ย กลุ่มไม่เกินล้าน นาน 12 เดือน ตามนโยบายรัฐ เติมมาตรการดูแลกลุ่มหนี้เกินล้านให้พักหนี้-ไม่คิดดอกเบี้ย นาน 3 เดือน พร้อมสินเชื่อเยียวยา ฟื้นฟู ดอกเบี้ย 0% ปีแรก

115

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 ธันวาคม 2568)--------นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ธนาคารออมสินได้ออกชุดมาตรการทางการเงินที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ประกอบด้วย มาตรการพักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย นาน 12 เดือน สำหรับลูกหนี้ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ตามนโยบายรัฐ และจัดมาตรการเพิ่มเติมให้พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย นาน 3 เดือน สำหรับกลุ่มที่มียอดหนี้เกิน 1 ล้านบาท เพื่อหยุดภาระหนี้ทันทีในช่วงที่ยังต้องฟื้นฟูการดำรงชีพ พร้อมมาตรการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ช่วยประชาชนให้เข้าถึงแหล่งทุนในระบบสถาบันการเงินเพื่อเติมสภาพคล่องให้สามารถฟื้นตัวตั้งหลักได้โดยเร็ว


มาตรการพักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้เดิมที่ไม่มีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ตามประกาศของ ปภ. โดยธนาคารยกดอกเบี้ยให้ทั้งหมด ลูกหนี้ไม่ต้องชำระย้อนหลัง
และเงินต้นที่พักไว้ จะถูกรวมไปชำระในงวดสุดท้าย และเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาแล้วไม่อาจชำระหนี้ได้ สามารถติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ลูกหนี้ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสามารถแจ้ง
ความประสงค์ภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา หรือที่ศูนย์พักพิงของจังหวัด และแอปพลิเคชัน MyMo ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดพักชำระ ให้ลูกหนี้กลับมาชำระหนี้โดยนำส่งเงินงวดต่อไป
ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม โดยมาตรการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ ให้กลุ่มลูกหนี้ที่มีภาระหนี้เงินต้นรวมสินเชื่อทุกประเภทไม่เกิน 1 ล้านบาท พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 12 เดือน ส่วนกลุ่มลูกหนี้ที่มีภาระหนี้เงินต้นรวมสินเชื่อทุกประเภทเกิน 1 ล้านบาท ซึ่งไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ข้างต้น ธนาคารออกมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยให้พักชำระเงินต้นและไม่คิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 เดือน

ธนาคารยังจัดมาตรการสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษเพื่อช่วยเหลือเร่งด่วน อัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ประกอบด้วย


1. สินเชื่อเพื่อเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สำหรับลูกค้าเดิม เพื่อเสริมสภาพคล่องฉุกเฉินในการดำรงชีพ เป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพ หรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการ โดยให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 100,000 บาท (เมื่อรวมกับยอดหนี้คงเหลือต้องไม่เกินวงเงินกู้เดิม) ยื่นขอกู้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2569 แบ่งตามประเภทสินเชื่อ ได้แก่
 สินเชื่อรายย่อย ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไป = 9.99% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน
 สินเชื่อบุคคล ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 - 3 = 4.99% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป = MRR–0.75% ต่อปี และกรณีไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไป = 9.99% ต่อปี

 

 สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปีที่ 2 = 1.99% ต่อปี ปีที่ 3 = MLR–2.00% ต่อปี (กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้) หรือ ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปีที่ 2 = 2.50% ต่อปี ปีที่ 3 = MLR–1.50% ต่อปี (กรณีใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้)
 สินเชื่อสวัสดิการบุคลากรภาครัฐ ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปีที่ 2 เป็นต้นไป = MRR+0.75 % ต่อปี แบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
2. สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ สำหรับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
หรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ยื่นกู้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 แบ่งตามประเภทสินเชื่อ ได้แก่
 สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มอาชีพอิสระ ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก
อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 = 2.99% ถึง 3.50% ต่อปี ปีที่ 3 เป็นต้นไป = MRR+1.75% ถึง +3.25% ต่อปี
 สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปีที่ 2 - 3 = 2.99% ต่อปี ปีที่ 4 – 5 = 3.50% ต่อปี ปีที่ 6 เป็นต้นไป = MRR-0.75% ต่อปี โดยธนาคารสนับสนุนค่าประเมินหลักทรัพย์ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อราย
 สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ปีที่ 2 = 1.99% ต่อปี
ปีที่ 3 เป็นต้นไป = MLR–2.00% ต่อปี (กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้) หรือ ปลอดชำระเงินต้น
และดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ต่อปี ปีที่ 2 = 2.50% ต่อปี ปีที่ 3 เป็นต้นไป = MLR–1.50% ต่อปี (กรณีใช้ บสย.
ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้) ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาให้กู้ตามความสามารถในการชำระคืนและความจำเป็นของลูกหนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือ GSB Contact Center โทร. 1115


นอกจากนี้ ธนาคารยังมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้ประสบอุทกภัย ทั้ง สินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเป็นเงินทุนเพิ่มเติมในการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤต วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน ไม่ต้องชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นใน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) = 0.60% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 24 เดือน ยื่นความประสงค์ได้ที่สาขาธนาคารออมสิน และ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อบัตรเงินสด ด้วยการปรับลดอัตราชำระหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบัตรเงินสดขั้นต่ำ (Minimum Payment) เป็น 3% ของยอดเรียกเก็บ นาน 3 รอบบัญชี (นับรอบบัญชีต่อเนื่อง) โดยธนาคารดำเนินการให้อัตโนมัติสำหรับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569


ธนาคารออมสินพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมในช่วงที่ต้องเสริมสภาพคล่อง
ตามบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อสังคม

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้