Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX ชี้ SET "เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง การประชุม กนง."

97

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 ธันวาคม 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568 คาดตลาดไซด์เวย์/ชะลอตัว กกต.ประกาศวันเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ. หนุนตลาดเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และส่วนหนึ่งเก็งกำไรการประชุม กนง. ลดดอกเบี้ยในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่องการปะทะกันระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา อาจทำให้สหรัฐฯ นำประเด็นนี้มากดดันเรื่องภาษีศุลกากรอีกครั้งเป็นความเสี่ยง ทางเทคนิค ไม่หลุดต่ำกว่า 1250-1248 นัก กลับมาขึ้นมีแนวต้านถัดไปที่ 1280/1285 ยืนเหนือได้จึงจะเป็นการแกว่งตัวขึ้นต่อ ในขณะที่การอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1270/1265 ที่ไม่ควรต่ำกว่า



ประเด็นสำคัญ
• กกต. เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง สส. และกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. 2569 และวันรับสมัคร สส. และแคนดิเดตนายกฯ ระหว่าง 27-31 ธ.ค. 2568
• รมว. คลังเผยได้วางรากฐานรองรับยุบสภาไว้แล้วและชะลอการออกนโยบายใหม่ แต่ยืนยัน ศก. ประเมิน GDP ปี 2568 เติบโตกว่า 2% ติดตาม กกต. อนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เฟสสองและการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่เฟสสองรอรัฐบาลใหม่
• ธปท. ได้สั่งการให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าของกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งจะต้องตรวจหลักฐานการขายทองทุกธุรกรรมเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมเกิดขึ้นจริง
• เศรษฐกิจจีนใน พ.ย. 2568 ยังคงอ่อนแรง หลังเผยยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตฯ ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด, การลงทุนสินทรัพย์ถาวรหดตัวสูงกว่าคาด และราคาบ้านใหม่และบ้านมือสองลดลงต่อเนื่อง บ่งชี้ภาคอสังหาฯ จีนคงเผชิญภาวะวิกฤตและยืดเยื้อกว่า 4 ปี
• ตลท. ประกาศ 265 บจ. ผ่านเกณฑ์ SET ESG Ratings ปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 219 บจ. พบ 57 บจ. ที่ผ่านเกณฑ์ในปีนี้เป็นครั้งแรกและ 89 บจ. ที่มีอันดับสูงขึ้น แต่พบ 6 บจ. ที่อันดับลดลงและ 11 บจ. ที่เคยผ่านเกณฑ์ปีก่อนแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ในปีนี้ และในปี 2569 ตลท. จะปรับไปใช้การประเมินตาม FTSE Russell ESG Scores แทน
• ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในคืนนี้ โดย Non-Farm Payrolls จะมีรายงานใน 2 เดือน ได้แก่ เดือนพ.ย. และ ต.ค. ตลาดคาดเดือน พ.ย.เพิ่มเพียง 40,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานคาดทรงตัว 4.4% รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ตลาดคาดขยายตัว 0.2%

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BoJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), ECB และ BoE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยนโยบาย) รวมถึง กนง. (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 1.25%) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามไทม์ไลน์การประกาศวันเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังมีการประกาศยุบสภา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

แนวรับ – แนวต้าน : 1270/1265 – 1280/1285

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับลงจากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทยและขาดมาตรการกระตุ้นใหม่ อีกทั้งรอติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD 2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ และ 3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี
Special Report : Yearbook 2026 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “Riding the Wild Horse” เพื่อสื่อถึงมุมมองการลงทุนที่คาดจะยังให้ผลตอบแทนได้แต่มีความผันผวนสูง จึงต้องคัดสรรและกระจายการลงทุนมากขึ้น พร้อม 8 หุ้น Top Picks ในตลาดหุ้นไทยที่คัดสรรมาให้ (อ่านเพิ่มได้ในบทวิเคราะห์ซึ่งออกเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2568)


Daily Top Picks
TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้น รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q68 และคาดจำนวนผู้ใช้รายใหม่สุทธิจะเป็นบวกใน 4Q68 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนหลังการประมูลคลื่นความถี่หนุน เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.50 บาท

BGRIM: มีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มการปรับลดลงของต้นทุนก๊าซฯ และดอกเบี้ยและได้อานิสงค์เงินบาทแข็ง ในขณะที่กําไรหลักใน 4Q68 คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลงมากกว่าค่าไฟฟ้าที่ลด และคาดกำไรหลักยังโตต่อในปี 2569 อีก +24% จากความต้องการใช้ไฟเพิ่มตาม Data Center ราคาเป้าหมายสั้น 14.80 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้