วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ในแดนบวก โดยในช่วงแรกดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดราว +9.8 จุดตามทิศทางตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตามมีแรงกดดันจากการที่นายกฯ ประกาศยุบสภาส่งผลให้โครงการของรัฐบาลต้องชะลอออกไป และทำให้ดัชนีลดช่วงบวก แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก และการเงิน แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,254.10 จุด +0.56 จุด+0.04% มูลค่าการซื้อขาย 36,693.42 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -19.67 จุด -1.54%) ProgramTrading +1,079.74 ลบ. ต่างชาติ-1,278.95 ลบ. TFEX -7,872 สัญญา ตราสารหนี้-2,335.42 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ กระทรวงการคลังเปิดยอดจัดเก็บรายได้เดือนแรกของปีงบประมาณ 69 อยู่ที่2.35 แสนล้านบาทสูงกว่าเป้าหมาย 2.38 พันล้านบาท
+/- ททท.เผยปี 68 คนไทยยังเที่ยวต่อเนื่อง ทะลุเป้า 206 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ส่วนตลาดต่างชาติยังติดลบเกือบทุกเดือน
+/-เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่าการเลือกตั้งจะต้องจัดขึ้นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร หากจัดให้มีการเลือกตั้งไม่พร้อมกัน จะส่งผลให้การเลือกตั้ง
เป็นโมฆะ คือ เสียเปล่า ไม่มีผลบังคับตามกฎหมายตั้งแต่แรก

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่57.44 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลงราว 4% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาดและความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน บดบังความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งใกล้เวเนซุเอลา
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดปิดลดลง 245.96 จุด หรือ -0.51% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 1.05% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.63% และดัชนี Nasdaq ลดลง1.62% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นบริษัทBroadcom และ Oracle ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ปัญญาประดิษฐ์ (AI)และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ FED บางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- สหรัฐจะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่มีก าหนดเปิดเผยในช่วงชัตดาวน์ อาทิดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อัตราว่างงานประจ าเดือนต.ค. เนื่องจากไม่สามารถรวบรวมข้อมูลในช่วงเวลาดังกล่าวได้
- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ15 ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 14 ในไตรมาส 3โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ผลิตน้ ามันและถ่านหิน
-ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามาตรการทางภาษีท าให้เขามีอ านาจในการเจรจาต่อรองกับประเทศอื่น ๆ พร้อมอ้างถึงการขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อไทย
และกัมพูชา หากทั้งสองประเทศไม่ยุติการสู้รบและการเป็นปรปักษ์ต่อกัน
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกข้าวไทยในช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) 2568ว่ามีป ริม าณ 7.14 ล้ านตัน มูลค่ า 4,121 ล้านเห รียญสห รัฐ ห รือป ร ะม าณ135,509 ล้านบาท มูลค่า 5,934 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 208,498 ล้านบาทลดลง 22.22% และ 30.55% ตามล าดับ โดยอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐในช่วง 11 เดือนแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 33.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น 6.77%YoY

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหว Sideway หลังจากที่สัปดาห์ก่อนปรับตัวลงไปแล้ว 2% ตอบรับปัจจัยลบทั้งประชาชนยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรการเมืองและนายกรัฐมนตรี และการตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ทวีความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามยอดขาดดุลการค้าสหรัฐที่ลดลงและ GDP Now คาดว่า GDP สหรัฐใน 3Q68 จะขยายตัว 3.6% มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,240-1,265 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- คาดการณ์หุ้นเข้าคำนวณ SET50-SET100 รอบ 1H26 : SET50 เข้า ITC SAWAD ออก BCP VGI SET100 เข้า GFPTPTG ออก MBK WHAUP
- โครงการ TISA : PTTEP TISCO HMPRO SCB KBANK KKP
- FTSE Rebalance (ใช้ราคาปิด 19 ธ.ค.) : FTSE SET Large-Cap Index เข้า THAI ออก AWC FTSE SET Mid-CapIndex เข้า AWC SCCC ออก PTL PSL PSH SNNP STECON TQM