Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

106

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้ DELTA-AOT กดดัน SET แม้กลุ่มธนาคาร, รพ. จะช่วยพยุงหุ้นไว้ เช่น KBANK SCB BBL และ BDMS-BH หุ้นบวกแรง เช่น MALEE

แนวโน้มตลาดวันนี้ อาการยังน่าเป็นห่วง
ตลาดหุ้นไทย ยังไม่พ้นขีดอันตราย เมื่อราคาหุ้นหลายตัวยังแข่งกันเดินหน้าทำจุดต่ำสุดใหม่ เช่น เมื่อวาน IVL BTS ส่วนหุ้นที่แข็งกว่าตลาดก็เริ่มออกอาการ หมดแรงส่งและมีแรงขายทำกำไรซ้ำเติม เช่น DELTA AOT เหลือแค่กลุ่มธนาคารที่แบกตลาดหุ้นไทย

ส่งผลให้โมเมนตั้มวันนี้ อาจจะยังรีบาวด์ได้ไม่ไกล เล่นแย่กว่าที่คาด ส่วนหุ้นที่เราแนะนำ เรายังคงต้องเฝ้าจอเทรด (ห้ามลุกไปเข้าห้องน้ำ) เช่น CENTEL CPF PTT PTTEP หากออกอาการไม่สู้ดี เราพร้อมจะลดพอร์ตลงตามโมเมนตั้มตลาดทันที และเราจะรอการเพิ่มหุ้นเข้าพอร์ตเมื่ออาการตลาดเริ่มดีขึ้น เท่านั้น!
ส่วนประเด็นการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ คาดอยู่ในช่วงต้นเดือน ก.พ. ทั้งนี้ โดยสรุปจากการเลือกตั้ง 10 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นก่อน (Pre-election rally) ในกลุ่มอิงเศรษฐกิจในประเทศ แต่หากดูแค่ช่วง 5 ครั้งหลังสุดโอกาศกลับน้อยลง ดังนั้น Election Rally จึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน

ด้านปัจจัยในประเทศ ติดตาม การประชุม กนง. สัปดาห์หน้า กับการลดดอกเบี้ยฯ, การประชุม ครม. ประเด็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนหุ้นไทย, เมื่อวาน รมว.คลังประธาน BOI ได้อนุมัติโครงการลงทุนค้างท่อไปกว่า 2,4 แสนล้านบาท ต้องรอดูการเร่งงานต่อเนื่อง ยังค้างท่ออีกกว่าครึ่ง, ข่าวลือ การโจมตีเขตเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ใกล้เคียงเขตปะทะ ไทย กัมพูชา ยังคงหลอนภาวะลงทุนหุ้นไทยเป็นระยะ
ด้านปัจจัยต่างประเทศ คาดเหลือแต่ความผันผวนของตลาดหุ้นโลก และภูมิภาค ที่กำลังปรับสมดุล เพื่อสะท้อน ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟดซึ่งประชุมรอบนี้ มาแนวเข้มงวดกว่าที่ทุกคนคิด มีผลต่อแรงกระเพื่อมของสินทรัพย์ต่างๆ ระยะสั้น (รอให้สะท้อนผ่านไปก่อน และหุ้นไทยจะเริ่มชินไปเอง)

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ “รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET ขึ้นสลับลง ล่าสุดหลุดเส้น EMA 200 วัน 1,260 จุด เหตุการณ์ในอดีตพบว่าดัชนีเคยร่วงหลุดโซนรับอยู่หลายครั้ง แต่ใช้เวลาไม่นานดึงกลับทันที ทำให้สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้ได้ ดังนั้นรอบนี้ก็ไม่ควรลงไปแช่นานเกินมากกว่า 3-4 วันขึ้นไป โดยเรายังคาดว่าดัชนีอยู่ในช่วงปลายทางคลื่นขาลง “Correcvtive wave C” และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ในช่วงสร้างฐานใหม่ ลักษณะ sideway ออกข้างบริเวณ 1,250 จุด (+/- ไม่เกิน 5-10 จุด) อย่างไรก็ตามโมเมนตัม RSI ย่อไม่ผ่าน level 50 บ่งชี้ภาวะความอ่อนแรงขณะที่วอลุ่มเบาบางในช่วงสัปดาห์ ที่มีวันหยุดขั้นกลาง
Note: DELTA impact ร่วง ฉุดดัชนีลงถึง -12 จุด
คำถาม: วิกฤต DELTA คือโอกาสของหุ้นอื่น? คาดว่าเม็ดเงินอาจกระจายไปยังหุ้นใหญ่ตัวอื่นๆ แทน…แนวโน้ม SET Index: ต้องรีบฟื้นให้ได้โดยเร็วที่สุด
ไฮไลท์หุ้น: “เจาะ 3 หุ้นเด่นช่วงโค้งสุดท้ายปี 68”/ ได้เวลาเก็บ GULF?/ PTT ย่อแต่ไม่มีวอลุ่ม/ BDMS: Divergence ลูกใหญ่ ทำงาน แม่นยำ/ AMATA ติดต้าน ติดเส้น EMA 200

 


What to watch
นายกฯ ทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว เบื้องต้นคาดเลือกตั้งใหม่ช่วงต้นเดือน ก.พ. (แต่อาจจะมีประเด็นเกี่ยวกับวันทำประชามติรัฐธรรมนูญ จะทันรอบเดียวหันหรือไม่)
เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ลงมาเป็น 3.5-3.75% ตามที่ตลาดคาด โดยเหตุผลสนับสนุนหลักจากแรงกดดันตลาดแรงงาน แต่มติ 9 ต่อ 3 ถูกหยิบมาเป็นประเด็นตีความถึงเสียงที่แตก รวมทั้งการให้ภาพแนวโน้มที่ชี้ว่าโอกาสข้างหน้ายากขึ้น โดย Dot plot ปี 2026 ลดอีก 1 ครั้ง และ 2027 ลด 1 ครั้ง จบที่ราว 3% ระยะยาว
บอร์ด BOI เคาะส่งเสริมลงทุนโค้งสุดท้าย 15 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 2.4 แสนลบ.รมว.คลัง ได้อนุมัติโครงการลงทุน ครอบคลุมอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ พลังงานสะอาด นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ และการขนถ่ายสินค้าทางเรือ พร้อมปรับปรุงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กคุณภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเดิมคัดเลือก 16 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้าระบบ Thailand FastPass เพื่อเร่งรัด ปลดล็อกอุปสรรค และอำนวยความสะดวกให้เกิดการลงทุนจริงโดยเร็ว สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย เพื่อก้าวสู่ปีแห่งการลงทุน 2569 ตามแผนของรัฐบาล
การประชุม กนง. วันที่ 17 ธ.ค. ตลาดส่วนใหญ่มองลดดอกเบี้ย (แต่สัญญาณเริ่มจะ 50:50)
FTSE rebalance: เพิ่มหุ้น THAI เข้า FTSE Large Cap ถอด AWC

หุ้นแนะนำวันนี้
PTT ปตท.มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซของโรงแยกก๊าซ GSP ที่ลดลง
แนวรับ 31 ต้าน 32.5 Stop loss 30

 

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Energy Sector
ปี 2026 มีความแตกต่างกันของแต่ละกลุ่ม
แนวโน้มตลาดพลังงานปี 2026 มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์ โดยราคาน้ำมันดิบและถ่านหินมีแรงกดดันจากฝั่งอุปทาน ขณะที่ค่าการกลั่นยังมีฐานรองรับจากดีมานด์ แม้ความไม่แน่นอนด้านอุปสงค์โลกยังคงอยู่

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลด YoY ในปี 2026 จากการเพิ่มกำลังการผลิตของทั้ง OPEC+ และผู้ผลิตนอกกลุ่ม ในขณะที่การเติบโตของดีมานด์โลกยังไม่แข็งแรงพอจะดูดซับ supply ใหม่ทั้งหมด ด้านค่าการกลั่น (Singapore GRM) เราคาดว่าอย่างน้อยจะ ทรงตัวได้ในปี 2026 จากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ยังเติบโต ขณะที่กำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นจำกัด ส่วนถ่านหินมีแนวโน้มอ่อนตัว YoY จากดีมานด์ที่ชะลอลงในจีนและยุโรป

ในเชิงโครงสร้าง ผลสำรวจ Primary Research Survey EP.3 ชี้ว่ากลุ่มพลังงานไทยเริ่มทดลองใช้ AI มากขึ้น แต่ 69% ของบริษัทในกลุ่มยังไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อกำไรได้อย่างชัดเจน สะท้อนว่าประโยชน์เชิงตัวเลขยังอยู่ในระยะเริ่มต้น

Fundamental view: เราคาดว่าดีมานด์น้ำมันโลกจะยังขยายตัวต่อในปี 2026 ตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่แรงกดดันจาก supply ใหม่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว YoY ขณะที่ GRM ยังมีแรงพยุงจากสมดุลอุปสงค์–อุปทานของผลิตภัณฑ์น้ำมัน ส่วนถ่านหินยังเผชิญทิศทางขาลง โดยรวมความไม่แน่นอนด้านดีมานด์ยังสูง เราจึงคงคำแนะนำ UNDERWEIGHT กลุ่มพลังงาน และเลือก PTT เป็นหุ้นเด่น จากโครงสร้างธุรกิจครบวงจรและความสามารถในการรับมือกับวัฏจักรพลังงานที่ผันผวน

Retail Sector
มีปัจจัยลบซ้ำเติม SSS ระยะสั้นยังอ่อนแอ
SSS กลุ่มค้าปลีก (ex-IT) เดือน พ.ย. ลดลง 4% ใกล้เคียง ต.ค. จากกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้ และการใช้จ่ายไหลไปยังร้านที่ร่วมมาตรการรัฐ โดย CPAXT (makro) เด่นสุด (+2% YoY) ขณะที่ CPALL อ่อนตัวมากขึ้น (-2%) ทั้งนี้ หมวด HD&C หดตัวแรงสุด (-6%) โดยเฉพาะ DOHOME (-9%) สอดคล้องผลสำรวจผู้บริโภค EP4 เพิ่มการใช้จ่ายในหมวดของตกแต่งบ้านน้อยกว่าของใช้ในชีวิตประจำวันและเสื้อผ้า

ชายแดนตึงเครียด กดดัน SSS เดือน ธ.ค.เหตุความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชาทำให้ร้านส่วนน้อยปิดชั่วคราว (1–2% ของระบบ) แม้กระทบการดำเนินงานจำกัด แต่คาดกระทบ sentiment ใช้จ่ายในพื้นที่ใกล้เคียงชะลอ โดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่ที่เลื่อนซื้อได้ เราคาด SSS เดือน ธ.ค. ยังอ่อนใกล้เคียง พ.ย. การฟื้นตัวกระจุกในกลุ่มที่ได้แรงส่งจากมาตรการรัฐ ได้แก่ CPAXT (คนละครึ่งพลัส) และ CPN (Good Travel หมวดร้านอาหาร)

Fundamental view: เราคาดกำไรหลัก 4Q25 กลุ่มค้าปลีก (ไม่รวมสินค้า IT) ลดลง 2% YoY แต่ฟื้นตัว 31% QoQ ตามฤดูกาล โดยมาร์จินดีขึ้นจากมิกซ์สินค้าและการคุมต้นทุนเป็นสร้างการเติบโตของกำไรที่สำคัญกว่ายอดขาย

เราคาด CPALL และ CPN จะรายงานกำไรโต YoY ขณะที่ HD&C ยังอ่อนสุด เลือก CPN เป็นหุ้นเด่นจาก ปริมาณคนเข้าห้างโต, มีรับรู้รายได้ห้างใหม่และปันผลแข็งแรง 4% ราคาเป้าหมายปี 2026 ที่ 62 บาท


Auto Sector
Motor Expo 2025: ดีมานด์รถฟื้นแรง นำโดย BEV ก่อนหมด EV3.0
ยอดจองรถในงาน Motor Expo 2025 อยู่ที่ 81,147 คัน (+48.5% YoY) สูงสุดในรอบหลังโควิด และมากกว่า Motor Show 2025 ราว +5% สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างมีนัยฯ โดย BEV คิดเป็น 50% ของยอดจองทั้งหมด จากแรงจูงใจด้านราคาที่แข่งขันได้ รุ่นรถที่หลากหลายขึ้น และการเร่งซื้อก่อนมาตรการ EV3.0 หมดอายุ ขณะที่รถ ICE ยังคงอ่อนแอ

แบรนด์ที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ TOYOTA, BYD, OMODA & JAECOO, HONDA และ GAC โดยเฉพาะ OMODA & JAECOO โตแรง +621% YoY ขณะที่ EV ระดับพรีเมียมยังเร่งตัวต่อเนื่อง เช่น XPeng (+71%) และ Zeekr (+30%) ตรงข้ามกับ BMW และ Mercedes-Benz ที่ยอดจองลดลงเกือบ 20% YoY สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจาก ICE ไป BEV ชัดเจน

หุ้นที่ได้ประโยชน์ตรงจากเทรนด์ EV: กลุ่มดีลเลอร์อยู่ในจุดได้เปรียบจาก volume ที่เร่งตัว โดย KGEN ได้อานิสงส์จาก OMODA & JAECOO และแผน local assembly ร่วมกับ Chery ขณะที่ MGC ในฐานะผู้จัดจำหน่าย XPeng เพียงรายเดียวในไทย ได้รับแรงหนุนจาก EV premium segment ที่กำลังเติบโต

การปรับเงื่อนไข EV3.0 (ยืดเวลาขาย-จดทะเบียน, export credit 1.5x และผ่อน local content) ช่วยลดความเสี่ยงให้ OEM แต่ทำให้จำนวน BEV ที่ต้องผลิตในประเทศต่ำกว่าคาดเดิม ผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนอย่าง AH และ SAT ยังจำกัด เนื่องจากรายได้จาก EV มีสัดส่วนเพียงราว 5% ของรายได้รวม

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยุบสภา By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ Wrap up เกิดอะไรขึ้นบ้างในสัปดาห์นี้ เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ลงมาเป็น 3.5-3.75% ตามที่ตลาดคาด....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้