TACC
คาด 4Q68 เติบโต YoY QoQ เข้าสู่ High Season
ส่วนปี 69 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

-งวด 3Q68 มีกำไร 90 ลบ. +48%YoY +14%QoQ (ดีกว่าที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล)
-คาดกำไร 4Q68 เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ เข้าสู่ High Season
-คาดกำไรปี 69 เติบโตต่อเนื่องสู่ 371 ลบ. +10%YoY
-คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม TACC ราว 6.70 บาท

Investment Highlight
งวด 3Q68 มีกำไร 90 ลบ. +48%YoY +14%QoQ (ดีกว่าที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล)

งวด 3Q68 มีกำไร 90 ลบ. +48%YoY +14%QoQ (ดีกว่าที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว QoQ เพราะปัจจัยฤดูกาล) โดยมีรายได้ 619 ลบ. +29%YoY +7%QoQ โดยหลักมาจากกระแสการบริโภคเครื่องดื่มชาไทยและชาเขียวที่ดีต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเริ่มวางจำหน่ายเครื่องดื่ม “Pure Matcha” ที่ All Cafe ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงได้แรงหนุนจากแผนการขยายสาขาใหม่ของคู่ค้าหลักที่เพิ่มขึ้นทั้งร้าน 7-Eleven ที่ ณ ปลาย 3Q68 มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 15,764 แห่ง (+711 แห่ง YoY +169 แห่ง QoQ) และร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่ 1,885 แห่ง (+538 แห่ง YoY +243 แห่ง QoQ) ส่วน %GPM อยู่ที่ระดับ 32.0% (3Q67 = 33.2%, 2Q68 = 32.0%) ปรับลดลงจากช่วงปีก่อนจากราคาต้นทุนวัตถุดิบกาแฟและมัจฉะที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม %SG&A ปรับลดลงสู่ 14.0% (3Q67 = 17.8%, 2Q68 = 14.9%) จากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และ Economies of Scale ทั้งนี้ 9M68 มีกำไร 242 ลบ. +27%YoY และคิดเป็น 79% ของประมาณการกำไรทั้งปี 68 เดิมที่ 306 ลบ. +24%YoY

คาดกำไร 4Q68 เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ เข้าสู่ High Season
เราคาดแนวโน้มกำไร 4Q68 ราว 94 ลบ. +67%YoY +5%QoQ โดยยังคงเติบโตต่อเนื่อง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ และเติบโตแรง YoY จากเหตุผล 2 ประการ คือ 1) เติบโตจากฐานต่ำ เพราะ 2H67 เป็นช่วงเริ่มต้นที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก โดยเฉพาะราคากาแฟมีการปรับตัวขึ้นแรง และบริษัทยังไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆได้ในช่วงเวลาดังกล่าว และ 2) รายได้หลักยังคงเติบโตดีจากทั้งกลุ่ม 7-Eleven และ Non 7-Eleven โดยเฉพาะร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีแผนการเร่งขยายสาขาใหม่ ประกอบกับเครื่องดื่มชาไทย ชาเขียว และมัทฉะ ยังคงได้กระแสตอบรับดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ เครื่องดื่มโถกดเย็นรสชาติอเมริกาโน่ (7-Eleven) ที่ขายดีมากในช่วง 3Q68 ยังคงนำมาวางจำหน่ายต่อเนื่องในช่วง 4Q68 ทั้งนี้ เราปรับประมาณการกำไรปี 68 เพิ่มขึ้น 10% สู่ 337 ลบ. +36%YoY

คาดกำไรปี 69 เติบโตต่อเนื่องสู่ 371 ลบ. +10%YoY ตามแผนการขยายสาขาของพันธมิตร (ร้าน 7-Eleven และร้านกาแฟพันธุ์ไทย)
เราประมาณการรายได้และกำไรปี 69 ราว 2,631 ลบ. และ 371 ลบ. เติบโต 10%YoY สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตของบริษัทในปี 69 ที่ราว 10-15% โดยหลักยังคงมาจากแผนขยายสาขาของร้าน 7-Eleven ปีละราว 700 สาขา และร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีเป้าหมายขยายให้ครบภายในปี 70 ที่ 5,000 สาขา จากปลายปี 68 คาดมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,947 สาขา ส่วนแนวโน้มราคาวัตถุดิบยังมีบางรายการที่มีโอกาสปรับตัวขึ้น อาทิ มัทฉะ และน้ำตาล ส่วนราคากาแฟมีแนวโน้มทรงตัว อย่างไรก็ดี เราคาด %GPM ที่ระดับ 32% ใกล้เคียงกับปี 68 ที่ราว 32.1% จากการเตรียมปรับใช้สูตรใหม่ รวมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆชดเชย

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม TACC ราว 6.70 บาท
เราปรับใช้ราคาเหมาะสม TACC ปี 69 แต่ปรับ Prospective PER ลดลงเล็กน้อยสู่ 11x จากระดับเดิมที่ 13x ณ ระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี โดยถูก Derating ตามสภาวะตลาดฯที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 69 ราว 0.61 บาท คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 69 ที่ 6.70 บาท (จากราคาเหมาะสมปี 68 ที่ 6.40 บาท) มี Upside 35% และจ่ายปันผลในอัตรา 9-10% ต่อปี จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง
1) การแข่งขันของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่รุนแรง
2) รายได้กว่า 90% พึ่งพาร้าน 7-Eleven
3) ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ
4) การชะลอตัวของเศรษฐกิจ
5) บริษัทกำลังอยู่ในช่วงจำหน่ายหุ้นซื้อคืนจำนวน 8 ล้านหุ้น ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.67 ถึงวันที่ 24 ม.ค.70

Analyst: Salakbun Wongakaradeth, CISA
02-687-7287
Salakbun@globlex.co.th