Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

เอชเอสบีซีเผย การปรับรูปแบบการบริหารจัดการทางการเงินยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในเอเชียแปซิฟิก เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด

66


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 พฤศจิกายน 2568)----------1 ใน 2 ของผู้บริหารจัดการทางการเงินเชื่อว่า AI จะมี “บทบาทสำคัญอย่างมาก” ในอีก 3 ปีข้างหน้า

3 ใน 5 ระบุว่า ความผันผวนของตลาดและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นความเสี่ยงสูงสุดในอีก 12 เดือน

เอชเอสบีซี เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ในหัวข้อ “การปรับรูปแบบการบริหารจัดการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค: มุมมองจากผู้บริหารจัดการทางการเงิน ปี 2025” (Redefining Treasury in Asia Pacific: Voices of Treasury 2025) ซึ่งวิเคราะห์การบริหารจัดการทางการเงินขององค์กรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังก้าวสู่การบริหารจัดการทางการเงินที่เน้นดิจิทัลเป็นหลัก ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และพร้อมใช้งานตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า “การบริหารจัดการทางการเงินแบบเรียลไทม์” (Real-Time Treasury) เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อนและท้าทายมากขึ้นในปัจจุบัน


เอชเอสบีซีได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทางการเงินและด้านการเงินมากกว่า 460 คน ใน 8 ตลาดหลักในภูมิภาคเ อเชียแปซิฟิก เพื่อศึกษาการปรับรูปแบบการบริหารจัดการทางการเงิน ผลการศึกษาพบว่า แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญเพียง 8% ที่มองว่า AI มีประโยชน์อย่างยิ่งในปัจจุบัน แต่กว่า 52% หรือมากกว่า 1 ใน 2 เชื่อว่า AI จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการทางการเงินภายในสามปีข้างหน้า
โดยมองว่า AI จะมีศักยภาพในการช่วยเพิ่มเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ การตรวจจับการฉ้อโกง และการวิเคราะห์ความผิดปกติของข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในการบริหารจัดการทางการเงิน

 


นายมาโนจ์ ดูการ์ ผู้อำนวยการสายงานจัดการด้านการเงินและบริหารสภาพคล่อง ประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี กล่าวว่า “ผู้บริหารจัดการทางการเงินได้กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อกลยุทธ์ขององค์กร โดยมีบทบาทในการสนับสนุนการตัดสินใจที่สำคัญเพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งประโยชน์ของการบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมและรวดเร็ว จะเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับรูปแบบการบริหารจัดการทางการเงินในอนาคต”


การบริหารจัดการทางการเงินแบบเรียลไทม์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความแม่นยำในการบริหารจัดการทางการเงิน อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การเปลี่ยนผ่านนี้ยังคงมีอุปสรรค โดยจากการศึกษาพบว่า เกือบครึ่ง (49%) ของผู้บริหารจัดการทางการเงินระบุว่า "ยังคงขาดบุคลากรที่มีทักษะในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้" ในขณะที่ประมาณ 2 ใน 5 (38%) ระบุว่า "การจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาระบบยังเป็นข้อจำกัด"

เตรียมรับมือความผันผวน

 

การปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการทางการเงินเป็นการดำเนินการสำคัญที่ต้องใช้การลงทุนด้านเวลาและทรัพยากรหลายปี ในขณะเดียวกัน องค์กรต่าง ๆ กำลังรับมือกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของตลาด ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง


นายนิธิ วชิรโกวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส ฝ่ายจัดการด้านการเงินและบริหารสภาพคล่อง ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า "ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นศูนย์กลางของโอกาสทางธุรกิจ ทั้งธุรกิจจากนานาชาติที่เข้ามาลงทุน และธุรกิจเอเชียที่ขยายสู่ตลาดโลกมากขึ้น ดังนั้น การบริหารจัดการทางการเงินที่แม่นยำและคล่องตัวจึงมีความสำคัญมากขึ้น ในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและการรับมือกับความผันผวนของตลาด"


ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทางการเงินและด้านการเงินที่ร่วมตอบแบบสอบถามต่างเห็นตรงกันว่า "การบริหารจัดการทางการเงินท่ามกลางความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยจัดเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งใน 7 จาก 8 ตลาดที่เราสำรวจ


อย่างไรก็ตาม "การขยายสู่ตลาดและกลุ่มธุรกิจใหม่" ถูกจัดเป็นสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด ใน 7 จาก 8 ตลาดที่สำรวจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางการค้าและผลต่อการวางแผนธุรกิจระยะยาวอย่างชัดเจน
เมื่อสอบถามถึงความเสี่ยงหลักที่ผู้บริหารจัดการทางการเงินคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน พบว่า ผู้บริหารจัดการทางการเงินส่วนใหญ่ (60%) ระบุว่า "ความผันผวนของตลาดการเงิน" เป็นความกังวลอันดับหนึ่ง และ "การชะลอตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย" (59%) เป็นลำดับถัดมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารจัดการทางการเงินกำลังเตรียมรับมือกับความผันผวนดังกล่าว
"ธุรกิจต่าง ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถวางแผนรับมือกับวิกฤตด้านสาธารณสุขได้ รวมถึงสามารถวางแผนรับมือกับภาษีนำเข้าได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าอัตราภาษีนำเข้าจะสูงก็ตาม" แต่สิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถดำเนินการได้
คือการวางแผนธุรกิจระยะยาวท่ามกลางความไม่แน่นอนและมีความผันผวนสูงที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้"

 

นายนิธิ กล่าวเสริมมุ่งสู่อนาคตของเงินดิจิทัลแม้ว่าการวิจัยรายงานฉบับนี้จะเสร็จสิ้นก่อนที่กฎหมาย GENIUS Act จะมีผลบังคับใช้ในสหรัฐอเมริกา และก่อนที่เอชเอสบีซีจะให้บริการธุรกรรมเงินฝากในรูปแบบโทเคน (Tokenised Deposit Service) ข้ามพรมแดนครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล เช่น เงินฝากในรูปแบบโทเคน (Tokenised deposits) และสเตเบิลคอยน์ (stablecoins) รวมถึงการเตรียมความพร้อมของการบริหารจัดการทางการเงินในอนาคต ยังคงเป็นหัวข้อสำคัญที่เป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง

ผู้บริหารจัดการทางการเงินยังเห็นตรงกันว่า ระยะเวลาการชำระเงินที่สั้นลง คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องได้รับการแก้ไขในกระบวนการชำระเงินข้ามพรมแดน ปัจจุบัน เอชเอสบีซีให้บริการธุรกรรมเงินฝากในรูปแบบโทเคนในฮ่องกง สิงคโปร์ ลักเซมเบิร์กและสหราชอาณาจักร ซึ่งรองรับการชำระเงินแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเขตเวลาและเวลาตัดรอบการทำธุรกรรม


"การให้บริการธุรกรรมเงินฝากในรูปแบบโทเคนถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับธุรกรรมทางการเงินของอนาคต การเปิดให้บริการนี้ในตลาดต่าง ๆ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอชเอสบีซีในการเชื่อมต่อนวัตกรรมทาง
โซลูชันการชำระเงินกับเครือข่ายอันแข็งแกร่งที่ครอบคลุมทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า” นายดูการ์ กล่าว

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลดดอกเบี้ย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มีความหวัง ทั้ง เฟด และ แบงก์ชาต จะพิจารณาดอกเบี้ย ในเดือนธันวาคมนี้ หากจริง คงทำให้นักลงทน กลับมา....

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย : ประเมินน้ำท่วมสงขลาและหลายจังหวัดภายใต้ คาดกระทบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่สงขลาและหลายจังหวัดภาคใต้ต่อเศรษฐกิจ เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรก ผลกระทบ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้