FED อาจรีบลดดอกเบี้ย ... หนุนตลาดหุ้นสดใส

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.7% ถึง +2.1%สวนทางกับ BOND YIELD สหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง โดยล่าสุดอายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.0% เท่ากับ POLICY RATE แล้ว ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่า 100 ซึ่งอาจทำให้ช่วงสั้นๆ เงินบาทแข็งค่าขึ้นในเปรียบเทียบ สะท้อนถึงความคาดหวังที่มีมากขึ้นต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ FED
• ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นว่า FED จะลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. 68 มาจากชุดข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ อาทิข้อมูลการจ้างงานเอกชนสหรัฐลดลง, ยอดขายปลีกสหรัฐฯ ชะลอตัวต่ำคาด เป็นต้น
• นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากกระแสข่าว "KEVIN HASSETT" ที่ปรึกษาของปธน. ทรัมป์ ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเป็นประธาน FED คนต่อไป

REGION RADAR
• สิทรัพย์เสี่ยงขึ้นได้ดี และกระจายตัวมาที่กลุ่ม HEALTHCARE และหุ้นธีม BLACK FRIDAY โดย MERCK & CO +5% และ WALMART+3% ซึ่งเป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยได้แนะนำเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้
• ALIBABA รายงานรายได้รวมอยู่ที่ 2.48 แสนล้านหยวน +4.8%YOY (สูงกว่าคาด 1.1%) ขณะที่ EPS อยู่ที่ 4.36 หยวน -71% YOY(ต่ำกว่าคาด 31%) โดยธุรกิจ CLOUD ของบริษัทในไตรมาสนี้เติบโตแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 3.98 หมื่นล้านหยวน +34% YOY ซึ่งโดดเด่นสุดในกลุ่ม CLOUD จีน แนะนำเก็งกำไร ALIBABA (DR:BABA80

 

THAI FOCUS
• ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.68 โตชะลอเหลือ +5.7% YOY ต่ำคาด ส่วนนำเข้าโตแรง +16.3% YOY ทำดุลการค้าขาดดุลหนักสุดรอบ 22เดือน กดดันค่าเงินบาทอ่อนสั้นๆ
• ส่วนประเด็นน้ำท่วมหาดใหญ่หนัก ดาวเทียมชี้บางจุดน้ำสูง 1.5–2เมตร, ถ้าแย่สุดอาจถึง4–5 เมตร หนุนความต้องการซ่อมสร้าง–ฟื้นฟูหุ้นได้ประโยชน์ : รับเหมา–วัสดุก่อสร้าง STECON, CK, TASCO,SCC, SCGD, TOA ค้าปลีกวัสดุ HMPRO, DOHOME, BJC

 

SYNAPSE STRATEGY
• ความหวังดอกเบี้ยสหรัฐปรับลงมีมากขึ้น พร้อมกับ BOND YIELD10 ปี สหรัฐ ลงมาอยู่บริเวณ ± 4% หนุนเม็ดเงินวิ่งเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
• ส่วนตลาดหุ้นไทย เดือนนี้หลายตัวย่อตัวลงลึกจน ผู้บริหารกลับเข้ามาทยอยสะสมอีกครั้ง อาทิ BDMS ถูกผู้บริหารซื้อ 203 ล้านบาท,GULF 84 ล้านบาท, WHA 16 ล้านบาท, GUNKUL 2 ล้านบาท ฯลฯTOPPICK เลือก BDMS และหุ้นมีปัจัยหนุนจากภาครัฐ WHA,HMPRO

 

HORIZON MARKET VIEW
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนความเชื่อมั่นว่า FED จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.7% ถึง +2.1% สวนทางกับ BOND YIELDสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง โดยล่าสุดอายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.0% เท่ากับ POLICY RATE แล้ว ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำกว่า 100 ซึ่งอาจทำให้ช่วงสั้นๆ เงินบาทแข็งค่าขึ้นในเปรียบเทียบ สะท้อนถึงความคาดหวังที่มีมากขึ้นต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ FED

ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นว่า FED จะลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. 68 มาจากชุดข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ อาทิ
• ข้อมูลการจ้างงานเอกชนสหรัฐลดลงเฉลี่ย 13,500 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ตลาดแรงงานชะลอตัว
• ยอดขายปลีกสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.2%MOM ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดที่+0.4%MOM และชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ +0.6%MOM สะท้อนการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัว
• ดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68 +2.7%YOY ทรงตัวจากเดือนก่อนตามคาดขณะที่ CORE PPI ล่าสุด +2.6%YOY ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์และชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากกระแสข่าว "KEVIN HASSETT" ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และเป็นที่ปรึกษาของ ปธน. ทรัมป์ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเป็นประธาน FED คนต่อไป ซึ่งในมุมมองของ HASSETT เห็นด้วยกับแนวคิดว่าควรลดดอกเบี้ยมากขึ้น และเคยวิจารณ์FED ควบคุมเงินเฟ้อไม่ดีหลังโควิด

 

REGION RADAR
เงินเริ่มไหลเข้าหุ้นกลุ่ม HEALTHCARE และหุ้นธีม BLACK FRIDAY
วานนี้เริ่มเห็นเงินไหลออกจากกลุ่มเทคโนโลยีมายังหุ้นกลุ่ม HEALTHCARE และหุ้นธีม BLACK FRIDAY มากขึ้นสะท้อนผ่านผลตอบแทนของดัชนี DOW JONES +1.43% (VS. NASDAQ +0.67%) โดยหุ้นในดัชนี DOWJONES ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีที่สุดคือ MERCK & CO +5.24% ซึ่งเป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยได้แนะนำเก็งกำไรไปก่อนหน้านี้นอกจากนี้ หุ้นในธีม BLACK FRIDAY ปรับตัวขึ้นเช่นกัน อย่าง WALMART +2.83% ขณะที่หุ้นที่ปรับตัวลงแรงสุดในดัชนี DOW JONES ได้แก่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA -2.59%

ALIBABA รายได้สูงกว่าคาด ธุรกิจ CLOUD โตแรง
บริษัทรายงานรายได้รวมอยู่ที่ 2.48 แสนล้านหยวน +4.8% YOY (สูงกว่าคาด 1.1%) ขณะที่ EPS อยู่ที่ 4.36หยวน -71% YOY (ต่ำกว่าคาด 31%) โดยกำไรโดยรวมลดลงจากการลงทุน QUICK COMMERCE อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ CLOUD ของบริษัทในไตรมาสนี้เติบโตแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 3.98 หมื่นล้านหยวน +34% YOY ซึ่งโดดเด่นสุดในกลุ่ม CLOUD จีน ด้าน CEO EDDIE WU ระบุว่า “ดีมานด์ AI ที่แข็งแกร่งช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจCLOUD INTELLIGENCE อย่างมีนัยสำคัญ” พร้อมเปิดเผยว่าบริษัทได้ลงทุนใน AI และ CLOUDINFRASTRUCTURE แล้วกว่า 1.2แสนล้านหยวน ในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความสำเร็จของแอปQWEN 3 MAX ซึ่งเป็นแชตบอตคู่แข่งของ CHATGPT ที่มียอดดาวน์โหลดทะลุ 10 ล้านครั้งในสัปดาห์แรก ยืนยันศักยภาพ AI เชิงผู้บริโภคของ ALIBABA

แนะนำเก็งกำไร ALIBABA (DR: BABA80) แม้กำไรในไตรมาสนี้จะออกมาอ่อนแอจากผลขาดทุนจากธุรกิจ FOODDELIVERY ที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ตลาดให้ความสนใจอย่าง CLOUD มีการเติบโตสูงกว่าที่ตลาดคาด และแนวโน้มในไตรมาสถัดไปมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง

 

THAI FOCUS
3 ประเด็นในประเทศที่นักลงทุนควรทราบ ... มีอะไรบ้าง
3 ประเด็นในประเทศที่นักลงทุนควรทราบในวันนี้คือ

1.ตัวเลขส่งออกไทยเดือน ต.ค.68ขยายตัวแค่ +5.7%YOY(ต่ำคาดที่ +6.5%YOY)ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว +19.0%YOY ส่วนตัวเลขนำเข้าไทยเดือน ต.ค.68 ขยายตัว +16.3%YOY(สูงคาดที่ +8.3%YOY) ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ขยายตัว+17.2%YOY ทำให้ดุลการค้าขาดดุลหนักสุดในรอบ 22 เดือน อยู่ที่ -3440 ล้านเหรียญฯ ส่วนปัจจัยกดดันภาคการส่งออกไทยใน 4Q68 คือ การส่งออกสินค้าเกษตรหดตัว จากการแข่งขันสูงในตลาดโลก และผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ติดกับชายแดน รวมถึงอุปสงค์โลก ชะลอตัวลง อาจเกิดจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก (เช่น สหรัฐฯยุโรป หรือจีน) เริ่มแผ่วลง หรือผลกระทบจากสงครามการค้า SUPPLY CHAIN โลกที่ตึงเครียดขึ้น ดังนั้นดุลการค้าที่ขาดดุลหนักสุดในรอบ 22 เดือน จะส่งผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้ในช่วงสั้น

2.รัฐบาลมีมติเห็นชอบ มาตรการลดหย่อนภาษี สำหรับประชาชนที่ติดตั้ง โซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน (SOLARROOFTOP)โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไป ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 200,000 บาท และมาตรการนี้จะใช้สิทธิ์ได้ยาวถึง ธ.ค.71 ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าไฟของประชาชน, สนับสนุนพลังงานทดแทน ลดการปล่อยคาร์บอน และกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนธุรกิจติดตั้งโซลาร์มากขึ้น ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มลดหย่อนภาษี 50% สำหรับเครื่องจักรใหม่ เพื่อจูงใจให้ภาคธุรกิจอัปเกรดเครื่องจักรเก่า เพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน ดีต่อ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง-อุปกรณ์ซ่อมบำรุงจะได้ประโยชน์ เพราะโรงงานหรือธุรกิจต่าง ๆ น่าจะลงทุนเพิ่ม เช่น HMPRO DOHOME BJC TOA อีกกลุ่ม คือ นโยบายรัฐให้ หักลดหย่อนภาษีสูงสุด 200,000 บาท สำหรับการติดตั้งโซลาร์บนหลังคา (SOLAR ROOFTOP) ดีต่อกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์และผู้รับเหมาติดตั้งโซลาร์ได้ประโยชน์ตรง ๆ เช่น GUNKUL SPCG TSE เป็นต้น

 

3.น้ำท่วมใหญ่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งข้อมูลล่าสุดผ่านข้อมูลดาวเทียมจริง และ แบบจำลองการท่วม ของGISTDA ณ วันที่ 24 พ.ย. 68 โดยรูปซ้าย คือ ภาพน้ำท่วมจากดาวเทียมจริง ที่จุดสีแดง/ส้ม = พื้นที่ท่วมลึกประมาณ 1.5 – 2.0 เมตร แสดงถึงระดับที่บ้านชั้นเดียวจมน้ำแล้ว ซึ่งรูปขวา แสดงแบบจำลองภาพถ้าฝนตกต่อหรือมีน้ำเหนือ/น้ำทะเลหนุน อาจทำให้บางจุดมีน้ำท่วมลึก 4 – 5 เมตร ซึ่งหมายถึงระดับที่บ้าน 2 ชั้นอาจถูกน้ำท่วมมิด ดังนั้นหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง STEC, CK, TASCO, SCC, SCGD, TOAค้าปลีกวัสดุ HMPRO, DOHOME, BJC เป็นต้น

 

 

YNAPSE STRATEGY
หุ้นใน SET ย่อ จนผู้บริหารเริ่มทยอยกลับมาซื้อ
ความหวังดอกเบี้ยสหรัฐปรับลงมีมากขึ้น พร้อมกับ BOND YIELD 10 ปี สหรัฐ ลงมาอยู่บริเวณ ± 4% หนุนเม็ดเงินวิ่งเข้าสินทรัพย์เสี่ยง โดยวานนี้ตลาดหุ้น DOW JONES +664 จุด หรือ 1.43% กลุ่มหุ้นที่ขึ้นแรงรับ BLACKFRIDAY คือ หุ้นค้าปลีก และ HEALTHCARE เด่น

ส่วนตลาดหุ้นไทย เดือนนี้หลายตัวย่อตัวลงลึกจน ผู้บริหารกลับเข้ามาทยอยสะสมอีกครั้งโดยฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหาหุ้นที่ผู้บริหารทยอยซื้อเด่นในเดือน พ.ย. (MTD) อาทิ BDMS ถูกผู้บริหารซื้อ 203 ล้านบาท, GULF 84 ล้านบาท, WHA 16 ล้านบาท, GUNKUL 2 ล้านบาท ฯลฯ (ตามตารางทางด้านล่าง)

โดยเฉพาะ BDMS เป็นหุ้นที่ผู้บริหารเข้ามาซื้อสะสมเยอะในช่วงนี้ มีต้นทุนเฉลี่ยสะสม 18.86 บาท (MTD) และ19.73 บาท (YTD) โดยราคาปัจจุบัน 18.6 บาท ยังต่ำกว่าทุนเฉลี่ย

ส่วน TOPPICK วันนี้เลือก BDMS ผู้บริหารทยอยรับหุ้น, HMPRO ได้ประโยชน์มาตรการพลังงานสะอาด, WHAได้แรงหนุนจาก FAST PASS

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์