สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (21 พฤศจิกายน 2568 )-----บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด (บลจ. แอสเซท พลัส) เปิดตัวกองทุนเปิด แอสเซทพลัส ดีเฟนส์ อิควิตี้       ( ASP-DEFENSE) เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่เหนือกว่า โดยกองทุนลงทุนใน ในบริษัทชั้นนำด้านป้องกันประเทศ เทคโนโลยีความมั่นคง และระบบยุทธศาสตร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มงบกลาโหม   ของหลายประเทศทั่วโลก ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยกระดับต่อเนื่อง อุตสาหกรรมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่ง       เมกะเทรนด์สำคัญที่มีความต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายกมลยศ สุขุมสุวรรณ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน บลจ. แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า "ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่ประเทศมหาอำนาจและชาติพันธมิตรต่างเพิ่มงบกลาโหมต่อเนื่อง โดยงบกลาโหมทั่วโลกเติบโตเร่งตัวกว่า +5% ต่อปี นับตั้งแต่สงคราม   ยูเครน –รัสเซียปะทุในปี 2022 นอกจากนี้ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง รวมถึงการแข่งขันด้านความมั่นคงระหว่างประเทศมหาอำนาจ ได้ผลักดันให้หลายประเทศเร่งลงทุนในอาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดรน และไซเบอร์ซีเคียวริตี้อย่างก้าวกระโดด"

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวของงบกลาโหมรวดเร็วที่สุดในโลก โดยเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1988 สะท้อนผลจากนโยบาย Rearm & Strengthen Autonomy ของสหภาพยุโรป ที่มุ่งเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ พร้อมตั้งเป้าดันงบกลาโหมขึ้นสู่ระดับ 3.5% ของ GDP ภายในปี 2035 เพื่อพึ่งพาการผลิตภายในประเทศและเพิ่มความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค

นายกมลยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรามองว่าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศยังอยู่ในช่วงขาขึ้นระยะยาว เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับการเสริมขีดความสามารถด้านความมั่นคง ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความร้อนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำถามที่ตามมาคือ  หากเราจะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ เราควรจะเน้นไปที่ภูมิภาคไหน ซึ่งทางเรามองว่าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศยุโรปน่าจะเติบโตได้ดีที่สุด เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปอยู่ในช่วง "เร่งฟื้นฟูศักยภาพทางทหาร" หลังเผชิญความเสี่ยงด้านความมั่นคงสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ส่งผลให้หลายรัฐบาลผลักดันแผนลงทุนด้านกลาโหมครั้งใหญ่ ตั้งแต่การเพิ่มกำลังการผลิตยุทโธปกรณ์ จัดหาเทคโนโลยีทางทหารสมัยใหม่ ไปจนถึงการตั้งฐานการผลิตในประเทศเพื่อยกระดับการพึ่งพาตนเอง"

"นอกจากนี้ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศยุโรปยังมีปัจจัยสนับสนุนเชิงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้ง ยอดสั่งซื้อ (Order Backlog) ที่ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ ความต้องการที่ล้นเกินกำลังการผลิต ทำให้บริษัทชั้นนำของยุโรป เช่น Rheinmetall, Saab และ BAE Systems มีแนวโน้มสร้างการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน Valuation ของหุ้นกลุ่ม Defense ยุโรปยังอยู่ในระดับที่ถูกกว่าสหรัฐฯ ประมาณ 17% เมื่อเทียบกับบริษัทในสหรัฐฯ" นายกมลยศกล่าว
 
บลจ.แอสเซท พลัส เสนอขายกองทุนเปิด แอสเซทพลัส ดีเฟนส์ อิควิตี้ ( ASP-DEFENSE ) ลงทุนแบบ Fund of Funds โดยมุ่งเน้นในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในภูมิภาคยุโรปเป็นหลัก ผสมผสานกับการกระจายลงทุนทั่วโลกบางส่วน สัดส่วนการลงทุนประกอบด้วย ลงทุนผ่านกองทุน Amundi STOXX Europe Defense UCITS ETF ในสัดส่วน 60–79% เพื่อจับโอกาสการเติบโตของหุ้นยุโรป และลงทุนผ่านกองทุน VanEck Defense UCITS ETF ในสัดส่วน 0–40% เพื่อกระจายการลงทุนสู่สหรัฐฯ และตลาดโลก ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้ ถือเป็นกองทุนธีม Defense ชั้นนำระดับโลก  นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังสามารถเลือกลงทุนตรงในหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศได้เพิ่มเติมในสัดส่วน 0–20%

กองทุน ASP-DEFENSE มีกำหนดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 21 – 27 พฤศจิกายน 2568 นี้ กองทุนนี้จะช่วยตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย รองรับความผันผวน และมองหาโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางตลาดโลกกำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ บลจ. แอสเซท พลัส และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของบริษัท สามารถติดต่อ Asset Plus Customer Care 0 2672 1111  หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.assetfund.co.th    
 
ผู้ลงทุน "โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน" กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Aerospace & Defense จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก