Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

93

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งขึ้น 1270-1290

หุ้นเด่นเลือก WHA

Market Strategy

SET Index คาดพักตัวตามกรอบ 1270-1290 จุด แรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคสหรัฐฯ จากความกังวลด้าน Valuation หลังการรายงานตัวเลขภาคแรงงานออกมาทำให้ตลาดตีความ FED จะไม่เร่งลดดอกเบี้ยฯ แต่เรามองการย่อจากประเด็นนี้เป็นจังหวะตั้งรับ หุ้นเด่นวันนี้เลือก WHA

ปัจจัยต่างประเทศให้น้ำหนักกับการตีความตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่วานนี้การรายงานตัวเลข NFP เพิ่มขึ้น 1.2 แสนตำแหน่ง มากกว่าตลาดคาด 5.1 หมื่นตำแหน่ง แต่อัตราการว่างงานกลับเพิ่มขึ้น 4.4% มากกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนอยู่ที่ 4.3% เนื่องจากอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานที่เพิ่มขึ้นมาที่ 62.4% จากเดือนก่อนที่ 62.3% ซึ่งสะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนเกินไป (ภาคเอกชนจ้างงานเยอะขึ้น แต่ในขณะเดียวกันจำนวนคนกลับเข้าหางานก็สูงขึ้นเช่นกัน) ตลาดจึงตีความการดำเนิน นโยบายการเงินของ FED จะไม่เร่งลดดอกเบี้ยฯ สะท้อนจาก FEDWATCH Tool ให้โอกาสลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. ที่ 39% (หรือโอกาสคงดอกเบี้ย 61%) กดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่ปัจจุบัน Valuation อยู่ระดับสูง อย่าง NASDAQ -2.2% ส่วนดัชนีอื่นๆ S&P-1.6% และ Dow Jones -0.8% การปรับฐานข้างต้นจะเป็นลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาคและบ้านเราในวันนี้

แต่อย่างไรก็ตามด้วยระดับ Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ถูกกว่าตลาดสหรัฐฯ อย่างมากสะท้อนจาก SET Index ที่ซื้อขาย PER69E ที่ 13.3 เท่าต่ำกว่า NASDAQ 26.6 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นหากตัด DELTA ออก SET (ex DELTA) จะซื้อขาย PER69E ต่ำเพียง 11.4 เท่านั้น ขณะที่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เราคาดว่าความเสี่ยงที่ EPS จะถูก Downgrade ลงมาเป็นไปอย่างจำกัดหลังจากการรายงานงบ 3Q68 ของบริษัทฯ ออกมาดีกว่าตลาดคาดราว 6% จึงมองผลกระทบความกังวลด้าน Valuation จะมีผลต่อหุ้นบ้านเราน้อยกว่าสหรัฐฯอย่างมาก ในเชิงกลยุทธ์ เราคงคำแนะนำ การย่อของ SET Index มาที่ระดับ 1250-1260 จุด เป็นจังหวะตั้งรับ โดยเน้นไปที่หุ้น Deep Value ที่แนวโน้มกำไรยังเติบโตและปันผลสูงในระดับเกิน 5% อย่าง AMATA WHA WHAUP CPN และ SPRC เป็นต้น

 

Market Summary
SET Index ปิดที่ 1281.81 จุด +9.64 จุด หรือ +0.76% ตาม sentiment บวกต่างประเทศตอบรับงบฯ และ Outlook Nvidia ดีกว่าคาดหนุน DELTA (+0.93%) ที่ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากหลุดจากมาตรการกำกับฯวันนี้ AOT (+5.63%) จากความคาดหวังการปรับขึ้น PSC ซึ่งจะพิจารณา 4 ธ.ค. และการเจรจาคิงพาวเวอร์รอบอร์ดเคาะวันที่ 26 พ.ย. กลุ่มท่องเที่ยว THAI (+4.44%) BA (+4.26%) AAV (+1.9%) รับอานิสงส์ราคาน้ำมันปรับตัวลง รวมกับความคาดหวังโมเมนตัมท่องเที่ยวเข้า high season 4Q68 และ WHAUP (+3.3%) หุ้นเด่นในฐานะ Value Play จากกำไรปี 68–71 ที่คาดโตเฉลี่ย 13% กลุ่มลบPR9 (-3.45%) กังวล SG&A ที่ยังสูงและมีค่าใช้จ่ายสํารองเพิ่มขึ้นใน 4Q68 และแรงขายทำกำไร AMATA -2.5%

 

DAILY Stock Pick
WHA
ลุ้นแนวโน้มไตรมาส 4 เด่น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.80 บาท
บริษัทรายงานกำไร 3Q68 ดีกว่าคาด 8% จากค่าใช้จ่ายที่ลดลงและรายได้ของ WHAUP ดีกว่าคาด ขณะที่แนวโน้ม บริษัทมีโอกาสปิดดีลขนาดใหญ่ถึง 1 พันไร่ ใน 4Q68 เป็น upside เพิ่มเติม
ขณะที่ valuation PE’69 อยู่เพียง 9 เท่า (-2SD) โดยเราคาดกำไรปี 67-70 เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 10% ต่อปี พร้อมอัตราเงินปันผล 7%

Technical View
แนวรับ : 3.10 บาท
แนวต้าน : 3.30 บาท
จุดตัดขาดทุน : 3.00 บาท


WEEKLY Stock Pick
BBL
valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180.00 บาท
เราชอบ BBL เนื่องจาก ฐานรายได้หลากหลาย งบดุลแข็งแกร่ง โดยปี 69 เราคาดกำไรเติบโต 5.6% เทียบกับกลุ่มที่ 5% เนื่องจากบริษัทสามารถบริหาร Opex ได้ดีขึ้น และ credit cost ที่ลดลง
BBL YTD +3% เทียบกับ ดัชนีกลุ่ม Bank +10.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ปัจจุบันถูกซื้อขายที่ PBV’69 ที่ 0.48 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่ม Bank พร้อมกับอัตราเงินปันผลที่ 6.4%

Technical View
แนวรับ : 155.00 บาท
แนวต้าน : 160.00 บาท
จุดตัดขาดทุน : 152.00 บาท

 


KEY FACTOR
ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ก.ย. 1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร +1.19 แสนตำแหน่ง (Consensus 5.3 หมื่นตำแหน่ง) แต่ 2) อัตราการว่างงานขยับขึ้นสู่ระดับ 4.4% (Consensus คาด 4.3%) 3) อัตราค่าจ้างโตเพียง +0.2% (Consensus + 0.3%) ตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ในขณะที่อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนเกินไป (ภาคเอกชนจ้างงานสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันจำนวนคนกลับเข้ามาหางานก็สูงขึ้นเช่นกัน ส่วนอัตราค่าจ้างไม่ได้เร่ง จนอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อที่คุมไม่อยู่) ถือเป็นภาพที่ไม่ได้ทำให้ Fed สามารถใช้นโยบายที่เข้มงวดได้มากจนน่ากังวล และขณะเดียวกันก็ไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แย่ ภาพดังกล่าวถือว่าเป็นโทนกลางๆ แต่ในอีกมุมก็ถือว่าสร้างความไม่แน่นอนต่อตลาด
มุมมองการลดดอกเบี้ยถูกขยับขึ้นเป็นโอกาส 39% จากก่อนหน้า ที่ 29% อย่างไรก็ตามยังคงไม่เพียงพอที่จะหนุนให้ภาวะ Risk on กลับมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานในช่วง -0.84% ถึง -2.15% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังแกว่งตัวบริเวณ 4.09% - 4.1% สะท้อนมุมมองที่ให้น้ำหนักไปที่ความกังวลภาวะ Overvaluation ในกลุ่ม AI กลับมากดดัน

 

EYES ON
ในสัปดาห์ สหรัฐฯกำหนดตารางประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ หลังเปิดหน่วยงานกลางสหรัฐฯ
21 พ.ย. HCOB PMI ของ Eurozone

 

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ขึ้นภาษี... By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เสพข่าว รัฐบาลมีแผนปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แบบขั้นบันได โดยจะเพิ่มเป็น 8.5% ในปี 2571 ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้