ผศ.ดร.วรรณรัช สันติอมรทัต กล่าวรายงานผลดำเนินโครงการ AFTI ว่า โครงการสร้างกำลังคนทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ทางด้านอุตสาหกรรม (aFTi) นี้ประสบความสำเร็จในการเข้ามาเชื่อมโยงผู้พัฒนาเทคโนโลยี AI เข้ากับภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้งานจริง เพื่อร่วมกันแก้โจทย์ปัญหาและพัฒนาโซลูชันที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที พร้อมยกระดับทักษะบุคลากรผ่านการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและการทำงานจริงในสถานประกอบการ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศ AI (AI Ecosystem) ของไทยในหลายมิติ

 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านด้วย Digital & AI อย่างรวดเร็ว ส.อ.ท. จึงวาง "Go Digital & AI" เป็นยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้นโยบาย "4 GO" เพื่อผลักดันผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้พร้อมต่อการแข่งขันอนาคต โครงการ aFTi จึงถูกริเริ่มเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และสร้างกำลังคนทักษะสูง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากอุตสาหกรรม สะท้อนความตื่นตัวและความพร้อมในการนำ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

 

"ส.อ.ท. รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จในโครงการนี้ เพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุค AI และนับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการต่อการสร้างองค์ความรู้ สร้างเครือข่าย และพัฒนาศักยภาพด้าน Digital & AI โดยการออกแบบโครงการสอดคล้องกับการพัฒนาภาคการผลิตอย่างตรงจุด ซึ่ง ส.อ.ท. พร้อมขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานในโครงการที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อ ๆ ไป เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม S – Curve และ New S-Curve ที่เน้นการสร้างมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่ไปกับความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน" นายเกรียงไกร กล่าวทิ้งท้าย

 

รศ. ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า การนำ AI เข้ามายกระดับภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)  ซึ่งความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการยกระดับกำลังคนทักษะสูงด้าน AI เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้สามารถสร้างสรรค์ AI Solutions ที่มีคุณภาพสูงและสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้โดยตรง การที่ภาครัฐเข้ามาขับเคลื่อนด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม รวมถึงแหล่งเงินทุนไปสู่ผู้ประกอบการไทยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างแรงงานทักษะสูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในของประเทศอย่างยั่งยืน

 

ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กล่าวว่า บพค. มีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากรทักษะสูงด้าน AI โดยดำเนินการหลายมิติ ได้แก่ สนับสนุนทุนการศึกษาและวิจัยสำหรับนักวิจัยและบุคลากรขั้นสูงในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI, พัฒนาหลักสูตรและโครงการอบรมขั้นสูง เพื่อยกระดับทักษะให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม, ส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมเชิงลึก เช่น AI สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย, สร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศวิจัย เพื่อรองรับการพัฒนากำลังคน และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล ตัวอย่างโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ด้าน AI, ทุนวิจัยเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต และโครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี AI ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อเตรียมประเทศไทยให้พร้อมแข่งขันในเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

 

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AWS กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะด้าน AI ของบุคลากรไทย ผ่านการถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทดลองจริง และการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AWS Asia Pacific (Bangkok) Region เพื่อผลักดันการใช้ Generative AI และเทคโนโลยีคลาวด์ขั้นสูงในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยร่วมมือกับภาครัฐและสถาบันการศึกษา ผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลก

 

นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ "ก่อนและหลังการนำ AI มาปรับใช้ในอุตสาหกรรม: ประสบการณ์ดี ๆ ที่อยากแชร์จากผู้เข้าร่วมโครงการ aFTi" ซึ่งสะท้อนว่า จากที่ผู้ประกอบการจำนวนมากเผชิญกับความท้าทายด้านความรู้ความเข้าใจใน AI การขาดการเชื่อมโยงกับผู้พัฒนาโซลูชั่น และการขาดบุคลากรเฉพาะทาง แต่ภายหลังการเข้าร่วมโครงการที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำจริงและการสร้างสรรค์ AI โซลูชั่น ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถสร้าง AI Solutions ที่ใช้งานจริงในสายการผลิต เพิ่มทักษะทีมงานด้านเทคโนโลยี และสร้างองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดได้เอง ผลลัพธ์เหล่านี้พิสูจน์ว่าการนำ AI มาปรับใช้ในโรงงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน และเป็นพื้นฐานสำคัญให้ภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ยุค Digital & AI ได้อย่างมั่นคง