Equality for All
TQM : บมจ. ทีคิวเอ็ม อัลฟา
TQM เป็นโบรกเกอร์ประกันวินาศภัยส่วนแบ่งอันดับ 1 ของไทย เน้นขายประกันภัยรถยนต์ และยังมีประกันภัยบ้าน และชีวิต/สุขภาพ ขายประกันผ่านช่องทางโทรศัพท์ ออนไลน์ รายได้หลักเป็นค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียม โดย TQM ไม่ต้องรับความเสี่ยงประกันเอง
กำไร 3Q25 ต่ำตลาดคาด 3.6% : กำไรสุทธิ 161 ลบ. หดตัว -2.2% q-q และ -24.3% y-y หดตัว q-q และ y-y 2 ไตรมาสติดต่อกัน สรุปได้ดังนี้
รายได้ 892 ลบ. หด -7.3% q-q และ -8.5% YoY ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจลูกค้าชะลอการใช้จ่าย
การปรับกลยุทธ์ไปขายประกันรถยนต์เก่าซึ่งมีค่าเบี้ยไม่แพง(ขายง่าย) พอ volume ต่ำคาด ทำให้ต้นทุนต่อกรมธรรม์สูงกว่าปกติ ผนวกกับการปรับวิธีบันทึกทางบัญชีของบริษัทย่อย (TQR) ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมหดเหลือ 44.5% จาก 52.0% ปีก่อน
ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตช้ากว่าคาด ส่วนธุรกิจ EASY Lending พอร์ตสินเชื่อหดตัว -3.2% y-y เหลือ 1,039 ลบ. เพราะ 87% เป็นการปล่อยสินเชื่อเพื่อชำระเบี้ยประกันภัยซึ่งก็หดตัวตามเบี้ยประกันที่หด -11.2% y-y
2 แนวทางปรับธุรกิจ : (1) กลับไปเน้นขายประกันรถยนต์ใหม่(อายุ 2-4 ปี)เพราะแม้เบี้ยจะแพงแต่ต้นทุนต่อกรมธรรม์ต่ำกว่าเพื่อดึงมาร์จิ้นกลับมา (2) เดือน พ.ย. นำ AI มาช่วยในการแยกแยะและวิเคราะห์ลูกค้า เพื่อช่วยบอกให้พนักงานขายเสนอแบบประกันที่แม่นยำมากขึ้น ผบห.เผยยอดขายรายวันสูงขึ้นอย่างน่าพอใจและมั่นใจว่ารายได้ 4Q25 จะฟื้นตัวชัดเจน q-q
นโยบายปันผล : ผบห.มอง TQM เป็น Dividend stock โดยที่ผ่านมาก็จ่ายสูงกว่า Dividend policy (>50%) โดยระยะถัดไปจะรักษาการจ่ายระดับสูงไว้ด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 9M25 แข็งแกร่ง 930 ลบ. vs ปันผลปีละราว 600+ ลบ. ขณะที่ IBD/E ต่ำเพียง 0.2x ซึ่ง Bloomberg consensus คาดปันผลปีหน้า 1.01 บาท/ หุ้น คิดเป็น Div. yield 26E 9.2%
ว่าที่หุ้นปันผลที่น่าสนใจ
“ เรามีมุมมองเป็น บวก จากการประชุมนักวิเคราะห์ เพราะเริ่มมีสัญญาณว่า TQM ใกล้จะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อย่างไรก็ดีควรจับตาอีก 2-3 ไตรมาสให้ผ่านพ้นช่วง High season 4Q-1Q ไปก่อน เพื่อดูว่า AI ทำงานได้ดีจริงอย่างต่อเนื่องหรือไม่
TQM ซื้อขายที่ P/E26E เพียง 8.2x ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา 56.9% YTD เรามองว่าสะท้อนผลการดำเนินงานงวดปี 2025 ที่ไม่โต -6.1% y-y ปีนี้ไปแล้ว ขณะที่ผลกำไร 9M25 คิดเป็น 72% ของประมาณการโดย Bloomberg ทำให้แรงกดดันจากการปรับประมาณการปีนี้ไม่มีแล้ว ซึ่งด้วยผลตอบแทนปันผลที่สูง เรามองว่า downside ของราคาหุ้นจำกัดแล้ว
หากแนวโน้มปีหน้ากำไรกลับมาเติบโตได้ 5-10% ได้ เรามองว่าก็เพียงพอแล้วสำหรับนักลงทุนสายปันผลที่จะเข้าลงทุน ”
จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #14076
Jaroonpan.W@liberator.co.th