Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

CHAYO ทรงดี งบ 9 เดือน ปี 68 ทำกำไร 203 ลบ. พุ่ง 12.77% ชี้ปี 69 ปีทองธุรกิจบริหารหนี้เสีย ตั้งเป้ารายได้โตอีก 20% พร้อมร่วม JV AMC ธุรกิจบริหารหนี้เสีย ทุ่มงบซื้อหนี้เพิ่มอีก 500–1,000 ลบ.

129


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 พฤศจิกายน 2568)------CHAYO โชว์งบ 9 เดือนแรกปี 68 ฟอร์มสวย ทำกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 203 ล้านบาท เติบโตเกือบ 13% ด้านรายได้รวมกว่า 1,663 ล้านบาท โตเกือบ 11% หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ยังเติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่ธุรกิจเร่งรัดหนี้สินและธุรกิจบริการจัดหาคนเพิ่มก็ยังเติบโต ส่วนต้นทุนบริการลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับสูงเกือบ 90% แม้ในไตรมาส 3/68 มีการตั้งสำรองด้านเครดิตเพิ่มตามมาตรฐานบัญชีด้วยความระมัดระวัง แม่ทัพใหญ่ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” ชี้ปี 69 ปีทองธุรกิจบริหารหนี้เสีย ตั้งเป้ารายได้โต 20% เล็งจัดงบซื้อหนี้เพิ่มอีก 500–1,000 ล้านบาท เผย CHAYO มีความพร้อมร่วมวงช่วยแบ่งเบาภาระรัฐ หลัง ธปท. ไฟเขียวแบงก์-นอนแบงก์ ตั้ง JV AMC บริหารจัดการ NPL

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 299.35 ล้านบาท และเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 203.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.53% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของกำไรขั้นต้นและรายได้ที่เพิ่มขึ้น

โดยรายได้รวมงวด 9 เดือนแรกปี 2568 อยู่ที่ 1,663.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนจำนวน 164.73 ล้านบาท หรือ 10.99% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวน 163.02 ล้านบาท โดยเป็นยอดจัดเก็บหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและหนี้มีหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 632.27 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 52.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.09% จากสาเหตุที่บริษัทได้ซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สิน เพิ่มขึ้น 30.28% จากปริมาณงานและยอดจัดเก็บหนี้ในส่วนงานที่รับจากสถาบันการเงินได้มากขึ้น รวมทั้งรายได้จากการให้บริการจัดหาคนก็เพิ่มขึ้นสูงถึง 75.96% ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ว่าจ้างที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการปล่อยสินเชื่อให้กู้ยืมลดลง 14.15% ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง โดยยอดลูกหนี้ให้กู้ยืม ณ สิ้น 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 929.17 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 585.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 11.26% มีกำไรสุทธิ 61.91 ล้านบาท ลดลง 55.36% และเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 28 ล้านบาท สาเหตุหลักเป็นผลจากการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น จากการปรับประมาณการหนี้มีหลักประกันที่ครบ 5 ปี และการเพิ่มขึ้นของพอร์ตหนี้ไม่มีหลักประกันในช่วงปี 2567

“ผลงานในไตรมาส 3/2568 แม้จะได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองด้านเครดิต (ECL) ที่เพิ่มขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีและการปรับประมาณการของพอร์ตสินทรัพย์ที่มีหลักประกันครบ 5 ปี แต่ธุรกิจหลักและยอดการเก็บหนี้ไม่มีหลักประกันยังเติบโตแข็งแกร่ง สะท้อนจากงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 CHAYO มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เพิ่มขึ้นเกือบ 13% โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้รวมที่ขยายตัวต่อเนื่อง และอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตโดดเด่นในระดับเกือบ 90% ช่วยลดผลกระทบจาก ECL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุขสันต์กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตบริหารหนี้รวมมากกว่า 107,000 ล้านบาท และยังคงเดินหน้ารับซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วยวงเงินอีก 100-200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังจับตาสถานการณ์ในเดือนธันวาคม หากมีการปล่อยขายหนี้เพิ่มและราคาปรับลดลง CHAYO ก็พร้อมเข้าซื้อเพิ่มเติมทันที จึงยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2568 เติบโตจากปีก่อน 20% ไว้ดังเดิม หรืออย่างน้อยสามารถทำได้ไม่ต่ำกว่า 10% สาเหตุที่ยังไม่มีการปรับลดเป้า เพื่อสะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของธุรกิจและทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง บริษัทเน้นไปที่หนี้ที่ไม่มีหลักประกันเป็นหลัก และยังอยู่ระหว่างการหาโอกาสร่วมมือกับภาครัฐในการบริหารหนี้ภาคประชาชนที่รัฐบาลตั้งใจซื้อออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะที่สถานะทางการเงินปัจจุบันของบริษัทถือว่ายังมีความแข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ประมาณ 0.92 เท่า

นายสุขสันต์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปี 2569 มีแนวโน้มจะเป็นปีทองของธุรกิจบริหารหนี้ หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดทางให้ภาคเอกชนร่วมบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพกับสถาบันการเงินผ่านรูปแบบกิจการร่วมทุน (Joint Venture AMC) ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณงานและขยายฐานรายได้ของบริษัท โดยเฉพาะในธุรกิจบริหารหนี้ไม่มีหลักประกัน ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ สะท้อนจากพอร์ตลูกหนี้กว่าหลายล้านราย สัดส่วนราว 70% เป็นหนี้ไม่มีหลักประกัน และส่วนใหญ่เป็นหนี้วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ถือเป็นพอร์ตที่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย ธปท. เปิดกรอบเวลา 2 ปีสำหรับการยื่นขอจัดตั้ง JV AMC และให้สิทธิ์ดำเนินธุรกิจได้ยาว 15 ปี ซึ่ง CHAYO พร้อมเข้าร่วมเต็มที่ ทั้งด้านระบบบริหารจัดการ การดำเนินงานหลังบ้าน และความสามารถในการเชื่อมต่อข้อมูลกับเครดิตบูโร ผ่านระบบเทคโนโลยีของบริษัทที่รองรับงานตั้งแต่กระบวนการรับโอนสิทธิ์ การจัดการเอกสาร ไปจนถึงการประมวลผลข้อมูลของพอร์ตหนี้ทั้งมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน

จึงประเมินแนวโน้มปี 2569 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% โดยคาดว่าทั้งธุรกิจบริหารหนี้ และความคืบหน้าของโครงการ JV AMC จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมนำเสนอแผนต่อคณะกรรมการ เพื่ออนุมัติงบลงทุนจัดซื้อหนี้เพิ่มอีก 500–1,000 ล้านบาทในปีหน้า เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตหลังโครงการ JV AMC เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เสมอตัว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หุ้นไทยภาคเช้าที่ผ่านมา ร่วงกว่า 10 จุด ขณะที่วานนี้ปิดบวกกว่า 10 จุดก็ถือว่าเจ๊ากัน ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้