สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 พฤศจิกายน 2568)--------บมจ. ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น หรือ LTS รายงานผลประกอบการ งวด 9 เดือน ปี 2568 กวาดรายได้ 409.02 ล้านบาท มีกำไร 38 ล้านบาท ยอมรับภาวะเศรษฐกิจ ผนวกปัจจัยลบรอบด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศมีผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าสำหรับโครงการของธุรกิจด้านอุปกรณ์ไฟส่องสว่าง ขณะเดียวกัน LTS ต้องตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีหลังดำเนินการเข้าซื้อกิจการบริษัท อี.เอ็น. ซอฟท์ จำกัด แต่เชื่อมั่นธุรกิจ IT Solution ยังคงสร้างการเติบโต ส่งซิกเตรียมคว้างานเพิ่มหวังตุนแบ็กล็อกอีกกว่า 100 ล้านบาท

นายภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LTS เปิดเผยว่า งวด 9 เดือน (ม.ค.–ก.ย. 2568) บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 409.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 332.4 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 38 ล้านบาท ลดลง 29% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 53.4 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 3/2568 รายได้ลดลง 8.4% และมีผลขาดทุน 1.7 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยังไม่มีการส่งมอบสินค้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ของธุรกิจอุปกรณ์ไฟส่องสว่าง และการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของบริษัท อี.เอ็น. ซอฟท์ ขณะที่รายได้ IT Solution ยังคงรับรู้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้การเข้าซื้อกิจการ บริษัท อี.เอ็น. ซอฟท์ จำกัด ทำให้ต้องจัดทำงบการเงินรวมตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินไทย (TFRS) ณ 30 กันยายน 2568 ส่งผลให้บริษัทมีสินทรัพย์รวม 915.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 420.4 ล้านบาท คิดเป็น 84.9%

จากสิ้นปี 2567 รายการเคลื่อนไหวสำคัญของสินทรัพย์ ได้แก่ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นเพิ่มขึ้น 119.9 ล้านบาท จากยอดขายงานด้าน Data Center (รวม 43 ล้านบาท จาก อี.เอ็น. ซอฟท์) สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 14.3 ล้านบาท (รวมเงินจ่ายล่วงหน้าค่าบริการ 11 ล้านบาท จาก อี.เอ็น. ซอฟท์) ค่าความนิยมจำนวน 142.4 ล้านบาท เกิดจากการเข้าซื้อกิจการบริษัท อี.เอ็น. ซอฟท์ จำกัด ผ่านการออกหุ้นเพิ่มทุน

ขณะที่บริษัทมีหนี้สินรวม 326.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 170.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107.7% จากสิ้นปี 2567 โดยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 34.2 ล้านบาท (รวมเงินกู้ของ อี.เอ็น. ซอฟท์ 12.1 ล้านบาท) เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นเพิ่ม 62.8 ล้านบาท (รวม 49.8 ล้านบาท จาก อี.เอ็น. ซอฟท์) และต้นทุนค้างจ่าย 13.6 ล้านบาท รวมทั้งหนี้สินหมุนเวียนอื่นเพิ่ม 12.1 ล้านบาท จากรายได้รับล่วงหน้าของบริษัทย่อย

“กลุ่มธุรกิจ IT Solution มีส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้ามาบันทึกเป็นรายได้เพิ่มขึ้นจากการส่งมอบงานให้แก่ลูกค้า ในไตรมาส 4/2568 พร้อมทั้งเตรียมลงนามรับงานเพิ่มกว่า 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมีมูลค่างานคงค้างในมือประมาณ 300 ล้านบาท แต่ต้องยอมรับว่าผลประกอบการปีนี้คาดว่าพลาดเป้าหมายที่วางไว้จากหลายปัจจัยสาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผลกระทบจากภาษีการค้าของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้โครงการก่อสร้างอาคารสูงเพื่อที่อยู่อาศัยและสำนักงานชะลอตัวลง ไตรมาสนี้ LTS ไม่มีการส่งมอบสินค้าสำหรับโครงการขนาดใหญ่ของหน่วยธุรกิจด้านอุปกรณ์ไฟส่องสว่าง ขณะเดียวกันภายในบริษัทฯ มีการเข้าซื้อ อี.เอ็น. ซอฟท์ จึงต้องจัดทำงบการเงินรวมผลประกอบการของบริษัทย่อย ส่งผลต่อการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้ว่ารายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ IT Solution สำหรับ Data Center สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี รวมทั้งรายได้ที่รับรู้เพิ่มเติมจากบริษัทย่อยที่ได้เข้าซื้อกิจการ” นายภัฏ กล่าว