PSH : กำไรต่ำกว่าคาดจากการดำเนินงานที่อ่อนแอ

ธุรกิจที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว
พฤกษา โฮลดิ้ง รายงานกำไรสุทธิใน 3Q25 ที่ 116.0 ล้านบาท (-71% YoY, -23% QoQ) ผลประกอบการนี้สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 102 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 144 ล้านบาท ถึง 26.4% สาเหตุหลักมาจากรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอและอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่สูง ผลประกอบการได้รับผลกระทบจากรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง 48.3% YoY ซึ่งสะท้อนถึงตลาดที่ท้าทาย หนี้ครัวเรือนที่สูง และการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวด บริษัทจะจัดการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่ออัปเดตผลการดำเนินงาน

รายได้จากสัญญาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมาก
รายได้จากอสังหาริมทรัพย์หลักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายลดลง กลุ่มธุรกิจนี้ทำรายได้ 2.39 พันล้านบาท ลดลง 48.3% YoY และต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 2.58 พันล้านบาท ภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย รายได้จากคอนโดมิเนียมลดลง 49.8% YoY รายได้จากทาวน์เฮาส์ลดลง 32.2% YoY บ้านเดี่ยวลดลง 24.1% YoY สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา หนี้สินที่สูง และการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เข้มงวด ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาทวีความรุนแรงขึ้น

ต้นทุนที่สูงบั่นทอนความสามารถในการทำกำไร
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 30.4% ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 26.3% ต้นทุนโฆษณาและการปรับโครงสร้างที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยผลักดันให้กำไรเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ 34.6% อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงเหลือ 4.3% ต้นทุนทางการเงินลดลง 43.3% YoY เหลือ 116 ล้านบาท เนื่องจากหนี้สินที่ลดลง

กลุ่มธุรกิจ Healthcare มีผลประกอบการที่หลากหลาย
รายได้จากธุรกิจสุขภาพอยู่ที่ 571 ล้านบาท ลดลง 2.8% YoY ผลประกอบการมีความหลากหลาย รายได้ของ ViMUT พหลโยธิน เพิ่มขึ้น 1.9% YoY อยู่ที่ 334 ล้านบาท ผลประกอบการดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการขยายฐานลูกค้าและศูนย์เฉพาะทางแห่งใหม่ ในทางกลับกัน รายได้ของ ViMUT-เทพธารินทร์ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 217 ล้านบาท เราเชื่อว่าเป็นผลมาจากจำนวนผู้ป่วยนอกที่ลดลง

ปรับพอร์ตการลงทุนใหม่เพื่อมุ่งเน้นธุรกิจหลัก
PSH กำลังปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก โดยบริษัทได้ขายเงินลงทุนใน Ally Logistics Property Holding มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (480 ล้านบาท) ออกไป และได้โอนเงินลงทุนมูลค่า 97 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2,400 ล้านบาท) ในกองทุน CapitaLand SEA Logistics Fund ออกไปด้วย ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงจาก 27% เหลือ 10% ซึ่งช่วยลดสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศลง ในขณะที่ยังคงสัดส่วนการถือหุ้น 51% ในโครงการ Omega Bangna

แนวโน้มใน 4Q25 ยังคงมีความท้าทาย
แนวโน้มในระยะสั้นยังคงท้าทาย ตามรายงานการวิเคราะห์และวิเคราะห์ของผู้บริหาร ผู้บริหารคาดว่าจะไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดที่สำคัญจากภาครัฐใน 4Q25 การแข่งขันด้านราคาก็มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นเช่นกัน PSH วางแผนที่จะตอบสนองด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 6.7 พันล้านบาท โดยจะเน้นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวที่มีความยืดหยุ่น (ราคา 5-15 ล้านบาท) นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนผ่อนชำระตรง 1 ปี เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอนาคต ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ PSH โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 5.00 บาท