สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 พฤศจิกายน 2568 )-----บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้ลงทุน ประกาศความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2568 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยยอดความสนใจซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวน บรรลุตามเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท เพื่อการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะให้แข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งโครงข่ายมือถือ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และบริการดิจิทัล ด้วยการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.92% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.29% ต่อปี และ หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.47% ต่อปี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้แก่นักลงทุนสถาบันและประชาชนเป็นการทั่วไป ตามที่ได้เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 10 – 12 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการเงิน เอไอเอส กล่าวว่า "เอไอเอสขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ทั้งกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไป ที่ให้ความสนใจและให้การตอบรับหุ้นกู้ทุกรุ่นในครั้งนี้เป็นอย่างดี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ที่มีความมั่นคงและมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว จากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยการมีรากฐานธุรกิจโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งในด้านโครงข่าย 5G อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และคอนเทนต์ระดับพรีเมียม เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่มีมากกว่า 51.5 ล้านรายครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึงนวัตกรรมระบบคลาวด์และโซลูชัน AI สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจ เพื่อยกระดับศักยภาพภาคอุตสาหกรรมไทยให้พร้อมแข่งขันในระดับโลก รวมถึงขอขอบคุณผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ที่ร่วมสนับสนุนการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้

โดยเอไอเอสยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอัจฉริยะ ภายใต้ยุทธศาสตร์ AI for Sustainable Nation ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส พร้อมเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับเครือข่ายพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกัน"