สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (13 พฤศจิกายน 2568 )-----PRTR ผู้นำโซลูชันด้านทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร (Total HR Solutions) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยรายได้รวม 1,903.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากปีก่อน และกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 59.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% ส่งผลให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีมีรายได้รวม 5,703.1 ล้านบาท เติบโต 5.5% และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 171.5 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (NPM) อยู่ที่ประมาณ 3.0% โดยมีธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) เป็นรายได้หลัก ขณะที่ ธุรกิจซอฟต์แวร์บริหารบุคลากร "PINNO" และ ธุรกิจฝึกอบรม "The Blacksmith" เติบโตโดดเด่น หนุนการขยายตัวของรายได้ระยะยาว ด้านผู้ถือหุ้นใหม่ "Holistic Impact" จาก Lombard Asia เข้ามาเสริมแกร่งแผน M&A มุ่งขยายสู่ระดับอาเซียนภายใน 3-5 ปี

นางสาว ริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR เปิดเผยว่า "ผลประกอบการไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปีนี้สะท้อนถึงความยืดหยุ่นของธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวของ PRTR ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังท้าทาย โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานไทยที่เริ่มฟื้นตัวในหลายภาคส่วน ทั้งค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ และการผลิต ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความต้องการแรงงานต่อเนื่องและสอดคล้องกับพอร์ตธุรกิจของเรา"

ด้านธุรกิจจัดจ้างพนักงาน (Outsource) ยังคงเป็น เสาหลักของรายได้ PRTR ด้วยรายได้ในไตรมาส 3/2568 จำนวน 1,831.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการแรงงานที่แข็งแกร่งในกลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ

ตลาดแรงงานมีแนวโน้มว่าองค์กรจะให้ความสำคัญกับ ความยืดหยุ่นในการจ้างงาน (Flexible staffing) และ Upskill/Reskill แรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลให้บริการ Outsource ของ PRTR ซึ่งเน้นการบริหารแรงงานแบบครบวงจร ได้รับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รวมถึงเราเริ่มพัฒนาพนักงานให้เป็น AI Ready Staff ตอบรับกับความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนไป  

นอกจากนี้ การเข้าซื้อกิจการ บริษัท บิซรีซอร์ส จำกัด (Biz Resource) ผู้เชี่ยวชาญด้านพนักงานขับรถและแม่บ้านในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้เพิ่มขึ้นจำนวน 31 ล้านบาท พร้อมช่วยขยายฐานการบริการให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

ด้านธุรกิจบริการสรรหาพนักงาน (Recruitment) ในปี 2568 เติบโตชัดเจนในกลุ่ม อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) และ พนักงานระดับปฏิบัติการ (Junior Officer) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการแรงงานสูงต่อเนื่องจากการขยายกำลังผลิตและการย้ายฐานการผลิตบางส่วนกลับเข้าประเทศ แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวจากภาคส่งออกและอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะในกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง แนวโน้มความต้องการแรงงานเฉพาะทางและระดับปฏิบัติการเติบโต ซึ่ง PRTR ช่วยตอบโจทย์การสรรหาพนักงานระดับปฏิบัติการจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผน

ด้านธุรกิจใหม่ ซอฟต์แวร์บริหารบุคลากร "PINNO" ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในงวด 9 เดือนมีรายได้ 29.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปีก่อน และมีผู้ใช้งานกว่า 50,000 รายเพิ่มขึ้นจาก 19,945 ราย ณ สิ้นปี 2567 สะท้อนถึงการยอมรับของตลาดต่อโซลูชันด้าน HR Tech  แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในองค์กร (Digital Transformation) โดยเฉพาะในภาค บริการ การเงิน และอุตสาหกรรมการผลิต ส่งผลให้ความต้องการระบบบริหารบุคลากรแบบออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง PRTR มองว่า "PINNO" จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ซ้ำ (Recurring Income) และเป็นรากฐานการเติบโตระยะยาวของกลุ่มบริษัท

ในส่วนของ "The Blacksmith" ธุรกิจฝึกอบรมแบบออนไลน์และออฟไลน์ (Integrated Learning Services) สร้างรายได้ 26 ล้านบาท โดย Platform และคอร์สอบรมออนไลน์ ของ The Blacksmith ได้รับการ Certified จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ตอบรับแนวโน้มองค์กรให้ความสำคัญกับการ Upskill/Reskill พนักงาน โดยสามารถพัฒนาทักษะบุคลากรได้ครอบคลุมสำหรับพนักงานทั้งองค์กร  เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา PRTR ได้ประกาศการเข้ามาของผู้ถือหุ้นรายใหม่ Holistic Impact Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้น 100% โดย Lombard Asia V, L.P. (กองทุน Private Equity ชั้นนำระดับภูมิภาค) เข้ามาถือหุ้นใน PRTR ประมาณ 15% เพื่อร่วมเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในหลายมิติ โดยเฉพาะการผลักดันกลยุทธ์ M&A และการขยายธุรกิจ HR Solutions สู่ตลาดอาเซียน ปัจจุบันบริษัทได้แต่งตั้งกรรมการจาก Holistic Impact เข้ามาร่วมเสริมกลยุทธ์ โดยคาดเห็นความชัดเจนของการเติบโตระดับภูมิภาคภายใน 3–5 ปีข้างหน้า 

นอกจากนี้ ด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 472.5 ล้านบาท ไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.4 เท่า สะท้อนฐานะการเงินที่มั่นคง พร้อมรองรับโอกาส M&A ใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตบริการ

"PRTR จะยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตทั้งแบบ Organic และ Inorganic Growth เพื่อตอกย้ำผู้นำ Total HR Solutions โดยมองภาพรวมตลาดแรงงานช่วงปลายปีมีทิศทางเชิงบวก จากการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ และบริการ ที่มีการจ้างพนักงานชั่วคราวและพนักงานขายเพิ่มขึ้น รองรับฤดูกาลจับจ่ายปลายปี

นอกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง PRTR ยังได้รับการประเมิน Corporate Governance Report (CGR) ประจำปี 2568 ระดับ "5 ดาว – ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และอยู่ในกลุ่ม Top Quartile ของบริษัทมูลค่าหลักทรัพย์ 1,500–3,000 ล้านบาท สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล" นางสาว ริศรา กล่าวทิ้งท้าย